ตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเติบโตของตลาด AI ที่รวดเร็วมาก โดยผู้นำตลาดนั้นกลับไม่ใช่บริษัท AI โดยตรง แต่เป็นผู้ผลิตชิปประมวลผลอย่าง NVIDIA ที่หลายๆคนในวงการคอมนั้นคุ้นว่าเป็น "บริษัทขายการ์ดจอ" มากกว่า
แต่ในช่วงปีหลัง NVIDIA สามารถโกยรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการขาย "การ์ดประมวลผล AI" มากกว่า "การ์ดจอ" สำหรับเล่นเกม อย่างเช่น NVIDIA H100 ที่มีบริษัทด้าน AI ต่อคิวซื้อกันนานหลายเดือน ประมาณว่าราคาสูงแค่ไหนก็ต้องจ่าย เพราะถ้าไม่จ่ายก็หมายความว่าอาจจะตกขบวนด้านพลังการประมวลผล AI ได้
ด้วยเหตุนี้เองมูลค่าหุ้นของ NVIDIA นั้นจึงพุ่งขึ้นสูงหลายเท่าตัว อย่างแค่ในปี 2024 นี้ก็พุ่งขึ้นมาแล้ว 170% ต่อเนื่องจากปีก่อนที่พุ่งขึ้นมา 240% โดยปัจจุบันนี้มูลค่าบริษัท NVIDIA อยู่ที่ 3.321 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ เป็นรองแค่ Apple ที่มีมูลค่ารวม 3.389 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐเท่านั้น
ทาง NVIDIA เองก็อยู่เบื้องหลังบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆอย่างเช่น Microsoft, Meta, Google และ Amazon ที่ทุกเจ้าก็ต่างต้องการชิปประมวลผลจากทาง NVIDIA เพื่อนำไปสร้าง Cluster ใน Super Computer สำหรับการรันงานประมวลผลด้าน AI .. และด้วยจำนวนผู้เล่นในตลาดสำหรับชิปประมวลผล AI ที่ไม่มากนัก NVIDIA จึงแทบจะเป็นทางเลือกเดียวที่สามารถตอบโจทย์ด้านนี้ได้ เปรียบเสมือนว่าผู้ใช้ทุกคนที่ใช้ AI Service ณ เวลานี้ ก็คือใช้สินค้าของ NVIDIA ไปด้วย ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม
ส่วน Intel จากที่ก่อนหน้านี้เป็นยักษ์ใหญ่ในวงการผู้ผลิตชิป ตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่าอยู่ในขาลงอย่างรุนแรง เนื่องจากไม่สามารถผลิตชิปรุ่นใหม่ๆโดยเฉพาะด้าน AI ได้ทันสภาวะตลาด รวมไปถึงมีผู้เข้าแข่งขันอื่นๆเข้ามาแย่งส่วนแบ่งไปพอสมควร ทำให้ปีนี้เอง มูลค่าหุ้นของ Intel นั้นร่วงลงไปกว่าครึ่ง
ล่าสุดนี้ทาง Dow Jones Index ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนรายชื่อบริษัทหลักที่ใช้คำนวนดีชนี โดยทาง NVIDIA นั้นถูกนำเข้ามาคำนวนใน Index แทนที่ Intel ที่ทาง Dow Jones นั้นจะถอดออกจากดัชนีไป หลังจากวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้
สำหรับใครที่ไม่เข้าใจว่า Index ตรงนี้คืออะไร .. คือทาง Dow Jones นั้นจะคัดเลือกหุ้นมา 30 ตัว เพื่อสะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้ในนี้มีแต่บริษัทระดับบนๆที่มีผลโดยตรงกับเศรษฐกิจของประเทศ โดยที่เราคุ้นๆกันก็จะเป็น Apple, Cisco, IBM, Microsoft แต่ทาง Intel ที่เดิมทีนั้นอยู่ในดัชนี ก็จะถูกถอดออกในสิ้นปีนี้
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็เป็นเหมือนสัญญาณต่อตลาดการผลิตชิปโดยรวมว่าปัจจุบันนี้ NVIDIA นั้นได้กลายมาเป็นภาพลักษณ์ด้านบวกของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ Intel ที่เคยเป็นยักษ์ใหญ่นั้นจะถูกแทนที่ด้วยบริษัทชิปคู่แข่งที่กำลังมาแรงมากกว่า
งานนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ ว่าเทรนทิศทางของตลาดด้าน AI นั้นจะโตไปถึงไหน เพราะตราบใดที่ AI ยังโตไปเรื่อยๆ และไม่มีผู้ผลิตชิปเจ้าอื่นเข้ามาแข่งขันตรงนี้ได้ ก็เท่ากับว่า NVIDIA ก็จะอยู่ในขาขึ้นต่อไปเรื่อยๆเช่นกัน ในขณะที่ Intel เองตอนนี้ก็เหมือนเพิ่งเริ่มล้างไพ่ใหม่กันอีกหนึ่งรอบ มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างด้านสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่สำหรับชิปประมวลผลที่ขายในตลาด แต่จะสามารถกลับมาเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งได้หรือไม่นั้น อันนี้ต้องรอดูระยะเวลาเป็นปีครับ ว่าสถาปัตยกรรมใหม่ครั้งนี้จะสามารถพัฒนาไปต่อได้อีกแค่ไหน
ข้อมูล : CNBC