จะว่าไปแล้ว Processor จากทาง Intel Core ใน Generation ที่ 11 หรือที่เรียกติดปากกันว่า Intel Gen 11 นั้นก็เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน ท่ามกลางกระแสวิจารณ์และเสียงแซะ ที่รุ่นบนๆนั้นทำประสิทธิภาพได้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับจำนวน Core และ Thread ที่ลดลงไปกว่า Gen 10 ด้วยซ้ำ (ส่วนรุ่นกลางได้รับการตอบรับที่ดีพอสมควร) .. สิ่งที่เราเห็นกับ Gen 11 เลยก็คือ เรื่องการอัปเกรดโครงสร้างทางวิศวกรรมนั้น มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิมมากมายอย่างที่สาวกได้หวังไว้ เพราะเช่นนั้น ใครที่ใช้ Gen 8 - 10 เป็นต้นมา อาจจะยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนด้วยซ้ำ
ในขณะเดียวกัน ก็มีข่าวคราวเกี่ยวกับ Intel Gen 12 หรือที่ใช้ Codename ว่า Alder Lake-S โผล่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายๆคนนั้นตัดสินใจที่จะ "รอ" รุ่นใหม่ เพราะข้อมูลในข่าวก็ระบุว่า Gen 12 จะเป็นการอัปเกรดทางวิศวกรรมใหญ่ที่สุดในรอบหลายๆปีเลยหล่ะ .. คร่าวๆก็คือมันจะเปลี่ยนไปใช้โครงสร้าง CPU ในรูปแบบ big.LITTLE หรือพูดง่ายๆว่ามี Core สองประเภท ก็คือ Core เล็กสำหรับการประหยัดพลังงานและใช้งานทั่วๆไป และ Core ใหญ่สำหรับพลังการประมวลผลเป็นหลัก โดยการทำงานจะถูกแบ่งกันตาม Workload ที่เหมาะสม ทำให้มันน่าจะตอบโจทย์ทั้งคนที่เน้นการประหยัดพลังงาน รวมไปถึงความแรงด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้นแล้ว Platform ก็คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบจัดเต็มอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Socket ที่จะเปลี่ยนจาก LGA1200 ในปัจจุบัน มาเป็น LGA1700 ด้วย CPU ที่ใหญ่กว่าและมีฟีเจอร์ที่มากกว่า ส่วนของ Memory ก็จะก้าวเข้าสู่ยุค DDR5 ซะที (เห็นว่ารองรับ DDR4 ด้วย) และ PCI Express ก็เห็นว่าจะใช้ Gen 5 แล้วเช่นเดียวกัน
เท่านี้ก็น่าจะเข้าใจแล้วใช่ไหมครับ ว่าทำไมหลายๆคนถึงยังไม่อยากเปลี่ยนมาใช้ Gen 11 ตอนนี้ .. เพราะข่าวของ Gen 12 นั้นมันน่าสนใจมาก ถึงขั้นที่เรียกว่าเปลี่ยนยุคสมัยของคอมพิวเตอร์เลยก็ว่าได้ .. จากครั้งล่าสุดที่เราเปลี่ยนจาก DDR3 มาเป็น DDR4 มันก็หลายปีมากแล้ว แปลว่าตอนนี้ถ้าเราซื้อ DDR4 ก็จะเป็นปลายยุค เตรียมตกรุ่น แต่ถ้าเรารอใช้ DDR5 ก็จะได้ใช้สินค้าในต้นยุค ไม่ตกรุ่นไปอีกนานแน่นอน
ข้อมูลอัปเดทล่าสุดของ Wccftech ก็ได้ระบุว่า Intel Gen 12 นี้ มีแววว่าจะเปิดตัวอย่างเร็วสุดก็คือเดือน พฤศจิกายน หรือปลายปี 2021 ที่จะถึงนี้แล้ว .. โดยจุดประสงค์เลยก็คือมุ่งที่จะเอาส่วนแบ่งการตลาดที่เสียไปให้กับ AMD และ Apple คืนมา ซึ่งดูจากคอนเซ็ปต์แล้วก็จัดว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยหล่ะ .. ถ้าทำได้จริง เราอาจจะได้เห็น Intel กลับมาเป็นผู้นำด้าน ประสิทธิภาพ ต่อ วัตต์ อีกครั้งก็เป็นได้นะ
ข้อมูล : Wccftech