ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าด้าน Hardware และการประมวลผลนั้น Mac ยังถือว่าล้ำกว่าของฝั่ง PC พอสมควร เนื่องจากชิป M Series นั้นมีหลายๆส่วนอยู่บนตัวมันเอง ทำให้ Efficiency ของมันออกมาสูงมาก .. เทียบง่ายๆคือการบริโภคพลังงานต่อประสิทธิภาพที่คอมพิวเตอร์ของ Apple ทำได้ ถือว่าดีมากๆเมื่อเทียบกับของฝั่ง Windows ยกตัวอย่างเลยก็คือ ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ฝั่ง Windows การที่จะเอาคอมมาเป็น Workstation ประสิทธิภาพสูงซักเครื่อง เราไม่มีทางเห็น Form Factor ของเครื่องนั้นเป็นรูปแบบ Mini PC อย่างแน่นอน แต่สำหรับของ Mac เราได้เห็น Mac Mini หรือ Mac Studio ที่มีขนาดเล็กในระดับ Mini PC แต่กลับมีพลังการประมวลผลสูงพอที่จะทำงานใน Workload ระดับโปรได้ ซึ่งตรงนี้บางคนอาจจะบอกว่า พลังโดยรวมนั้น ยังไงของฝั่ง Windows PC ก็ดีกว่า .. แต่ในกรณีนี้เราพูดถึง Efficiency ครับ ลองมองหาคอมฝั่ง Windows ที่ทำงานได้ดีเท่า Mac และกินไฟเท่ากัน ปล่อยความร้อนออกมาเท่ากัน อันนี้แน่นอนว่าเป็นอะไรที่ยังทำไม่ได้ ณ เวลานี้
แต่ภายในปีหน้าดูเหมือนมีแววว่าจะเป็นไปได้แล้วครับ อย่างตอนนี้เอง CEO ของ Intel อย่างนาย Pat Gelsinger ก็ได้ออกมาบอกว่า Windows PC ที่ใช้หน่วยประมวลผลของ Intel จะสามารถสู้ประสิทธิภาพของ Mac ที่ใช้ Apple Silicon ได้ เพราะว่าทางบริษัทก็ได้เริ่มมีการเอาปัจจัยเด่นของ Apple Silicon เข้ามาใช้ในหน่วยประมวลผลของตัวเองแล้ว นั่นก็คือจะมีการเอาหน่วยการทำงานหลายๆหน่วยมาอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น CPU, GPU และการเชื่อมต่อมันให้สื่อสารกันนั้น ก็เป็นอะไรที่สำคัญไม่แพ้กับขนาดและเทคโนโลยีการผลิตเลย
อย่างไรก็ตาม สิ่งนั้นก็ไม่ได้ว่าจะสำเร็จภายในปีนี้ เพราะว่าต่อให้ทำได้ Processor อย่าง Meteor Lake ที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปีก็ยังไม่สามารถเทียบเคียงด้าน Efficiency กับ Apple Silicon Chip ได้อยู่ดี แต่ว่าจะเริ่มตามทันในช่วงยุคหน้าอย่าง Arrow Lake, Lunar Lake และ Panther Lake
งานนี้เราก็ต้องยอมรับเลยว่าตั้งแต่ Apple หันมาใช้ Apple Silicon ในคอมพิวเตอร์ของตัวเองนั้น เป็นการพัฒนาที่ก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก ในขณะที่ Intel เองก็ยังติดอยู่ในยุค 14nm มาเป็น 10nm แต่ตอนนี้ก็เหมือนจะกลับมาเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นหลังจากที่นาย Pat Gelsinger ซึ่งเป็นวิศวกรเข้ามาเป็นหัวเรือ และเริ่มเห็นความสำคัญของ Power Efficiency มากขึ้น หลังจากนี้ถ้า Intel ได้มีการใช้ EUV และ เทคโนโลยี 3D Stacking เข้ามาด้วย ทาง Intel อาจจะพัฒนาชิปที่มีประสิทธิภาพด้าน Performance / Watt ดีพอๆกับของ Apple ก็เป็นไปได้
การแข่งขันแบบนี้ก็เป็นผลดีต่อผู้บริโภคเสมอครับ .. เมื่อ Intel ออกมาพูดแบบนี้ ก็เป็นการดี แต่ก็อย่าลืมว่าอีกฝั่งอย่าง Apple ก็ไม่ได้มีการหยุดนิ่งเช่นกัน ตอนที่ Intel จะออก Processor รุ่นใหม่ออกมา ทาง Apple เองก็ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คงไม่ได้ปล่อยให้คู่แข่งตามมาได้อย่างง่ายๆเช่นกัน หรือถ้าจะมองอีกมุมเลยก็คือ Apple นั่นแหละ เป็นตัวจุดประกายให้ Intel ดีขึ้นแบบทุกวันนี้ และไม่ว่าใครจะมีสินค้าที่ดีกว่า ผู้บริโภคอย่างเราๆก็จะเป็นผู้ชนะเสมอ
ข้อมูล : 9to5Mac
