ตั้งแต่ CEO คนใหม่ของ Intel อย่าง Pat Gelsinger เข้ามารับตำแหน่ง เราก็รู้สึกเหมือนได้ยินข่าวเกี่ยวกับ CEO ของ Intel บ่อยขึ้น เพราะเป็นช่วงแรกที่เข้าเข้ามาพยายามเปลี่ยนสถานการณ์บริษัท จึงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในการทำการตลาดของ Intel ที่ CEO นั้นเข้ามามีบทบาทกับสื่อมากขึ้นนั่นเองครับ
แน่นอนว่า Pat Gelsinger ดูจะเป็นเซเลบในวงการไอที ไม่ต่างกับคุณ Lisa Su หัวเรือของฝั่ง AMD เลย ทั้งสองคนนี้ ไม่ว่าเขาจะออกมาพูดอะไร มันก็กลายเป็นข่าวใหญ่โตหมด เพราะหลักๆก็มีแค่สองเจ้านี้แหละ ที่เป็นผู้กำชะตาของวงการคอมพิวเตอร์เลย ก็เลยจะดูไม่แปลกที่ถ้าเขาออกความคิดเห็นกันเมื่อไหร่ ทุกคนต้องฟังและเก็บไว้เป็นข้อมูล
เช่นเดียวกับเรื่อง "ชิปขาดตลาด" ที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน คนที่เราควรจะฟังมากที่สุดก็คงจะต้องเป็น CEO ของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับผู้ผลิตชิปทั้งหลายนี่แหละครับ ก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็น ข้อมูลจากฝั่ง AMD, NVIDIA และล่าสุดนี้ CEO Intel ก็ออกมาคาดการณ์จากสถานการณ์ของบริษัทตัวเองกับเขาด้วย
Pat Gelsinger ได้ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei ไม่กี่วันมานี้ว่า COVID ทำให้ Supply Chain เดินทางไปในทางลบ ในขณะเดียวกัน ความต้องการของชิปกลับพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เกิดความไม่สมดุลย์ระหว่างเรื่อง Demand กับ Supply และนาย Pat ก็ยังบอกอีกด้วยว่า ความต้องการนั้นยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอีก
หลักๆแล้วตัวเลขที่นาย Pat ให้ไว้ ก็ระบุประมาณว่า ก่อนช่วง COVID อุตสาหกรรม Semiconductor นั้นโตขึ้นราวๆ 5% ต่อปี แต่ตั้งแต่มี COVID มา กลายเป็นว่าอุตสาหกรรมนี้ก้าวถอยหลังด้วยซ้ำ เพราะว่าความต้องการของตลาดนั้นกลับโตขึ้นสูงถึงราวๆ 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า บวกกับปัญหาของเรื่อง Supply Chain ที่แย่ลงกว่าเดิมด้วยแล้ว ทำให้มีช่องว่างในตลาดเหล่านี้มากขึ้น
นาย Pat ก็ให้ข้อมูลไว้เพิ่มเติมอีกด้วย ว่าปัญหาชิปขาดตลาดจะลากยาวไปถึงปี 2023 ทำให้ตลอดปี 2022 ที่จะถึงนี้เราจะได้ซื้อสินค้า IT ในราคาที่สูงทะลุโลก แต่พอเข้าปี 2023 มันจะคลี่คลายลงอย่างช้าๆ โดยเฉพาะในกลุ่ม PC Hardware โดยตรง ที่ Graphic Card และ Processor นั้นมีราคาสูงขึ้นอย่างที่เห็นกันอยู่ครับ
แต่กว่าจะถึงปี 2023 ตอนนั้น เราก็อาจจะได้เห็น Intel เข้าสู่วงการผู้ผลิตการ์ดจอ อย่างเต็มตัวแล้วก็ได้นะ เพราะตอนนั้นเราจะได้เห็นทั้งของ AMD, NVIDIA และ Intel ที่จะเข้ามาเป็นเจ้าหลักอีกเจ้า ซึ่งถ้ามี 3 แบรนด์ ก็น่าจะหมายความว่ามีสินค้าให้เลือกในตลาดมากขึ้น และการแข่งขันในตลาดก็มากขึ้นเช่นกัน อันเป็นผลดีกับผู้บริโภคครับ
ข้อมูล : KitGuru