หลังๆนี้เราก็ได้เห็นตลาดของ Processor นั้นมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด หลักๆแล้วก็คือในจำนวนของ Core/Thread ที่ในช่วงปี 2018-2019 มีการเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทั้งฝั่ง AMD และ Intel .. ในช่วงกลางปี 2018 ที่ทาง AMD Ryzen Threadripper นั้นเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ในกลุ่มตลาด High-End Desktop จากที่ก่อนหน้ามีแค่ Intel ครองอยู่ผู้เดียว .. ทาง Intel เองก็ต้องหาหนทางที่จะรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดของตัวเองเอาไว้ให้ได้
ในช่วงเวลานั้น Intel ก็กำลังพยายามพัฒนา Processor ระดับ 22-Core บน Codename Skylake-X เพื่อมาวางอยู่ใน Segment ระหว่าง 18-Core (High-Core Count) และ 28-Core (Extreme-Core Count) แต่ด้วยขนาด Die ที่ใหญ่ และ Memory แบบ 6-Channel ทำให้มันไม่สามารถถูกติดตั้งบน Socket สำหรับ Desktop มาตรฐานอย่าง LGA2066 ได้ Processor เหล่านี้จึงกลายเป็นของตลาด Enterprise ที่ใช้ Socket LGA3647 ไปแทน
จนกระทั่งผ่านไปเกือบสองปี ตอนนี้ในช่วงปี 2020 ก็เหมือนว่า Intel นั้นจะสามารถผลิต CPU ที่มีจำนวน 22-Core ลงมาให้อยู่ในขนาดและ Platform ของ LGA2066 หรือ High-End Desktop ไม่ใช่ Workstation ได้แล้ว
ล่าสุดเราก็ได้เห็นหน้าต่าง CPU-z จากเว็บไซต์ Chiphell แสดงผลรายละเอียดของ Processor รุ่นใหม่ในกลุ่มซีรียส์ XE จากทาง Intel ด้วยรหัส Core i9-10990XE ที่ดูแล้วน่าจะเป็นรุ่นท๊อปสุดของ Platform (ดูจากตัวเลขรุ่น) .. โดย Processor รุ่นนี้จะมากับ Codename "Cascade Lake-X) และจำนวน I/O ที่ทำได้ก็อยู่ในระดับเดียวกับ 10980XE .. เพียงแค่จำนวน Core นั้นมีการอัพเกรดไปที่ 22-Core และ 44-Thread (HyperThreading) .. จำนวน L2 Cache จะอยู่ที่ 1MB และ L3 Cache ที่ 30.25MB .. แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือเรื่องของ Clock Speed ที่ถึงแม้บริเวณชื่อรุ่นนั้นจะเขียนว่าเป็น 4.00GHz แต่ตัวเลขที่วิ่งจริงนั้นเราเห็นว่ามันอยู่ที่ 5.0GHz เลยทีเดียว (อาจจะแค่ Core เดียวก็ได้)
นอกจากหน้าตา CPU-z ที่หลุดออกมาแล้ว ก็ยังมีผลการทดสอบในโปรแกรม Cinebench R20 ออกมาให้เห็นด้วย โดย Core i9-10990XE นี้ทำคะแนนออกมาได้ที่ 14,005 คะแนน ซึ่งถ้าเทียบกับฝั่ง AMD ก็ถือว่าอยู่ใกล้เคียงกับ Ryzen Threadripper 3960X ที่มี 24-Core
ความแรงระดับนี้ถือว่าน่าประทับใจอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามองกลับมาที่ช่อง TDP ของ i9-10990XE แล้วหล่ะก็ เราจะเห็นได้ว่าตัวเลขมันสูงถึง 380W เลยทีเดียว ซึ่งถ้าให้พูดกันตรงๆก็เป็นตัวเลขที่สูงมากๆครับ งานนี้เรื่องการบริโภคพลังงาน และการปล่อยความร้อนจะเป็นยังไง ก็คงต้องรอดูตัวจริงกันอีกที เพราะรายละเอียดที่ออกมานี้มันเป็น Processor ที่ลงท้ายด้วย ES หรือว่า Engineering Sample (ตัวทดสอบ) นั่นเอง