แม้ว่า Intel Gen 13 โดยหลักๆแล้วมันจะไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงทางด้านสถาปัตยกรรมมากมายเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง Gen 13 ก็เถอะ แต่สิ่งนึงที่เราปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆก็คือค่า Frequency ของมัน ที่ดันขึ้นไปได้ไกลจริงๆ เรียกได้ว่าถึงขั้นทำลายสถิติโลกได้เลยด้วยซ้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนมันเปิดตัวใหม่ๆเราก็ได้เห็นมันทุบสถิติโลก (8.8GHz) ที่ AMD ด้าน Clock Speed ที่ทาง AMD ถือครองมาเป็นระยะเวลา 8 ปี (8.722GHz) และที่สำคัญมันคือ Clock Speed ของ CPU รุ่นใหม่ที่มีค่า IPC ตามยุคสมัยด้วย ไม่ใช่เหมือน AMD เจ้าของสถิติเก่าตอนนั้นที่มีแค่ Clock Speed เป็นหลัก .. และผมเองก็ได้ว่าทิ้งท้ายไว้ด้วยว่าตอนนั้นที่ Intel Gen 13 ทำลายสถิติโลกเนี่ย มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะช่วงนั้นมันเพิ่งเปิดตัวไปใหม่ๆ
ล่าสุดนี้ก็อย่างที่ว่าไปเลยครับ หลังจากที่มันเข้ามือนัก Overclock ให้ไปลองเล่น ลองคัดชิป Silicon Lottery มาซักพักใหญ่ๆ ล่าสุดนี้ก็ทำลายสถิติได้อีกครั้ง ด้วยตัวเลข 9008.8MHz ใช่แล้วครับ ฟังไม่ผิดหรอก 9GHz กว่าๆจริงๆ และมันเป็น Processor ตัวแรกของโลกด้วยที่ทะลุ 9GHz ได้อย่างเป็นทางการ !
นัก Overclock ที่สร้างผลงานนี้คือนาย Jon Sandstrom และ Pieter Plaiser และทีมงาน ซึ่งเป็นทีมสำหรับการ Overclock ของ ASUS โดยเฉพาะ .. การล่าสถิตินี้จัดขึ้นที่ ASUS Office ประเทศไต้หวันช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยใช้ชุด Mainboard ASUS ROG Maximus Z790 Apex และ CPU Intel Core i9-13900K ที่ค่าเดิมมี Boost Frequency อยู่ที่ 5.8GHz แต่เขาสามารถดันมันไปถึง 9GHz ได้.. และที่สำคัญการดัน 9GHz นี้ไม่ได้ทำได้แค่เข้าหน้า CPU-Z แล้วแคปผลเอามาโชว์เฉยๆ แต่เขาสามารถเอาไปรัน Benchmark ได้ด้วย ซึ่งก็ดัน PiFast ไปได้ที่ 6.85 วินาที และ SuperPi 32M ได้ที่ 3 นาที 3 วินาที กับอีก 778 เสี้ยววินาที ! .. แสดงให้เห็นแล้วว่าถ้ามันรัน Benchmark พวกนี้ผ่าน ก็แสดงว่าการตั้งค่านั้นต้องใช้งานได้จริงในระดับนึงเลยหล่ะครับ
การปรับตั้งของทีมที่สามารถทำลายสถิติโลกบน HWbot นี้คร่าวๆก็คือ เขาได้ทำการปิด Efficient Core ทั้งหมดของ CPU และ Hyperthreading ด้วย คงเหลือไว้แค่ตัว Performance Core ทั้ง 8 ตัว และ Thread 8 หน่วย .. เรื่องการคุมอุณหภูมินั้นก็จะเป็นวิธีตายตัวของนัก Overclock ระดับมหาโหด นั่นก็คือการใช้ Liquid Nitrogen หรือแก๊สไนโตรเจนในสถานะของเหลว ที่มีอุณหภูมิต่ำถึง -196 องศา ผสมกับ Loquid Helium หรือ ฮีเลียมเหลว ซึ่งทั้งสองนี้เอามาใช้งานร่วมกันโดย เริ่มที่เอาไนโตรเจนเหลวดันอุณหภูมิลงไปที่ -196 องศาก่อน แล้วผสมด้วยฮีเลียมเหลวเข้าไป ทำให้อุณหภูมิอยู่ราวๆ -250.2 องศาเซลเซียส
งานนี้บอกได้เลยว่าเป็นอะไรที่ประทับใจมากครับ เพราะการ Overclock ได้ระดับนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คือทีมต้องใช้เวลากับมันเป็นอย่างมาก ซึ่งต้องมีทั้งสมาธิและความอดทน ตั้งแต่ขั้นตอนแรกก็คือคัดชิป หรือเลือก CPU ตัวที่ลากได้ดีที่สุด ซึ่งตรงนี้นัก Overclock ก็ไม่อาจจะรู้ได้จนกว่าจะลอง OC เอง นั่นก็แปลว่ากว่าจะทำสถิตินี้ได้ ทีมก็ต้องนั่งทำแบบเดียวกันกับ CPU มาแล้วหลายตัว จนมาเจอตัวที่สามารถ OC ได้ไกลที่สุด นอกจากนั้นแล้วยังต้องหาค่า Config ที่ลงตัว และเลี้ยงอุณหภูมิให้นิ่งด้วย เพราะถ้าทำอะไรผิดพลาดไปแม้แต่นิดเดียว ระบบอาจแฮงค์หรือ reboot ตัวเองไปเลยก็ได้ และก็ต้องมาเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น .. ซึ่งการปรับตั้งค่า Manual จนเห็นตัวเลข 9GHz เพื่อเอา CPU-Z Validation ก็จัดเป็นเรื่องยากแล้ว นี่คือปรับแต่งจนสามารถทดสอบ Benchmark ได้ด้วย ! แม้ว่าตัวการทดสอบที่เขาเอามาใช้นั้นไม่ใช่อะไรที่กิน Load มาก หรือดึง Core มาทั้งหมดก็เถอะ แต่การที่มันอยู่จนจบ Test Benchmark ผ่านได้เนี่ย ก็เป็นอะไรที่ Amazing มากๆแล้วหล่ะครับ
อ๋อ นี่คือ CPU รหัส K เฉยๆนะ ยังไม่ใช่รุ่น i9-13900KS หรือรุ่นที่ทาง Intel คัดชิปมาจากโรงงานแล้ว .. พอตัวนั้นเปิดตัว ผมเองก็คิดว่าน่าจะมีสถิติโลกที่อลังการกว่านี้มาให้เห็นอีกนั่นแหละ อย่างน้อยนัก OC ก็น่าจะทำงานกันได้ง่ายขึ้น เพราะทาง Intel คัดชิปที่ดีที่สุดมาเป็นรหัส KS แล้ว ทีนี้นัก OC ก็ค่อยไปคัดกันในรหัส KS อีกรอบนึง ถือเป็นการสกรีนรอบแรกไปก่อน ถึงตอนนั้นเราก็รอดูกันเลยครับ ว่าจะทำตัวเลขได้เท่าไหน .. แต่ถ้ามาแบบนี้แล้ว ไม่แน่ CPU Gen ถัดไป เราอาจจะได้เห็นตัวเลขระดับ 10GHz เป็นครั้งแรกของโลกเลยก็ได้นะ
ข้อมูล : TechSpot