วันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา Intel ก็ได้มีการเปิดตัว CPU ตระกูล Core ใน Generation ที่ 10 ซึ่งจะใช้ชื่อว่า "Comet Lake-H" จุดประสงค์ก็คือนำประสิทธิภาพระดับ Premium Desktop มาสู่ Platform Mobile อย่างเช่น Notebook ไม่ว่าจะเป็น Notebook Gaming หรือ Thin-and-Light ทั้งหลาย .. สำหรับรุ่น High-End นั้นไม่ได้มาเพื่อเจาะตลาด Gaming เพียงอย่างเดียว แต่ทำมาเพื่อเจาะตลาดกลุ่ม Creator และกลุ่มที่ต้องการดันประสิทธิภาพด้วยการ Overclock ด้วยเช่นกัน .. สำหรับกลุ่ม Gamer ทาง Intel ก็ได้พยายามผลักดันให้กลุ่ม Partner ตัวเองเปิดตัวดีไซน์และฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างเช่นมาตรฐาน Refresh Rate จอที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึง DisplayHDR1000 .. นอกจากนั้นแล้ว บริษัทยังได้มีการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการออกแบบ Cooling ให้เหมาะสมกับประสิทธิภาพของ Processor รุ่นใหม่อีกด้วย
เมื่อเทียบกับ Coffee Lake-H หรือ Gen 9 ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันแล้ว รุ่นใหม่อย่าง Comet Lake-H นี้ก็เหมือนจะมี Clock Speed ที่เพิ่มเติมขึ้นมา เมื่อเทียบกับราคา รวมไปถึงเทคโนโลยี Intel Turbo Boost Max 3.0 ที่จะมีการหยิบมาจากกลุ่ม Platform HEDT หรือ High-End Desktop อีกด้วย .. เพราะเช่นนั้นแล้ว CPU ของ Notebook ทั้งสี่รุ่น จะมีค่า Clock Speed แตะ 5.0GHz แล้วด้วยเช่นกัน เท่านั้นไม่พอ สองรุ่นในนั้น ยังรองรับฟีเจอร์การ Overclock อีกด้วย
สำหรับ Core i5 ครั้งนี้จะมาในรูปแบบ 4-Core / 8-Thread ส่วน Core i7 จะมี 6-Core / 12-Thread และ 8-Core / 16-Thread ส่วนรุ่น Core i9 นั้นจะมีเฉพาะ 8-Core / 16-Thread แต่จะเพิ่มฟีเจอร์เรื่องการปลดล๊อคตัวคูณ (Multiplier) สำหรับการ Overclock และมี Clock Speed ที่มากกว่ารุ่น i7 นั่นเองครับ
ทางด้านพื้นฐานของกระบวนการผลิต ก็จะยังคงเป็น 14nm เหมือนเดิม และ IPC ก็อาจจะไม่ได้แตกต่างกับ Skylake หรือ Gen 6 มากเท่าไหร่
การรองรับ Memory จะมาในรูปแบบ SODIMM DDR4 แบบมาตรฐาน ที่ความเร็ว DDR4-2933 และไม่รองรับ LPDDR4 หรือ LPDDR4X แต่อย่างใด รวมไปถึง LPDDR3 ก็ถูกเลิกซัพพอร์ตด้วยเช่นกัน ครั้งนี้การรองรับ Memory สูงสุดจะขยับไปที่ 128GB ในแบบ Dual Channel .. ทางด้าน PCIe Lane นั้นก็จะมี 40 Lane ในรูปแบบ PCIe 3.0 ซึ่งน่าจะทำให้ผู้ผลิต Notebook สามารถใส่ฟีเจอร์ได้มากขึน อย่างเช่นช่อง M.2 หลายช่อง, Thunderbolt 3 Port และอื่นๆ
ส่วนของ Platform เอง ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากครับ เปลี่ยนชื่อมาเป็น HM470 โดยจะมี PCIe 3.0 Lane ทั้งหมด 24 Lane และบวกกับ 16-Lane ของ CPU ก็จะรวมเป็นทั้งหมด 40-Lane อย่างที่ได้พูดถึงในย่อหน้าด้านบน .. นอกจากนั้นแล้ว ทางด้าน Network ก็มีการอัพเกรดขึ้นมาอีก โดยชิพ Wireless น่าจะมีการเปลี่ยนไปใช้ Intel Wi-Fi 6 Gig+ รุ่น AX201 และบางรุ่นอาจจะได้ Port LAN มาตรฐาน 2.5GbE มาด้วย
ข้อมูล : TechPowerUp