ตอนนี้ AMD มีสินค้าในกลุ่ม 3D V-Cache ทั้งสำหรับตลาด Data Center และ Consumer ทั่วๆไป อย่างไม่นานนี้ก็เพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่ X3D แบบ Gen ใหม่ ไป กับ Ryzen 7 9800X3D ซึ่งผู้ใช้ก็สามารถหาซื้อได้ทั่วไป .. แต่ในช่วงนี้ก็อาจจะหาซื้อยากซักหน่อย เพราะเพิ่งเปิดตัวมาไม่นาน และกระแสค่อนข้างแรงด้วย
แน่นอนครับ ในฝั่งของคู่แข่งสำคัญอย่าง Intel เองก็มีการบ้านที่ต้องทำอยู่เยอะพอสมควรเลย อย่างไม่นานนี้ก็เพิ่งเปิดตัว Core Ultra 200 เข้ามา และที่น่าแปลกใจเลยก็คือประสิทธิภาพนั้นดูไม่ค่อยจะเป็นอย่างที่หวังไว้ และแม้กระทั่ง Intel เองก็ยอมรับว่าประสิทธิภาพมันไม่ได้ดีขึ้นกว่า Gen ก่อน บางงานอาจจะช้ากว่าด้วย แต่ในเรื่องการประหยัดพลังงานนั้นดีขึ้นอย่างชัดเจน
อีกกระแสนึงก็คือตอน AMD เปิดตัวมาในช่วง Ryzen 9000 ตอนแรกๆที่ไม่มี 3D V-Cache ก็มีเสียงตอบรับคล้ายๆกันเข้ามา ก็คือประสิทธิภาพมันไม่ได้แตกต่างกับรุ่นก่อนหน้ามากนัก ทำให้คนที่ต้องการประกอบคอมเล่นเกมจำนวนมากรอรุ่นที่มี 3D V-Cache หรือ X3D ออกมามากกว่า
ทีนี้ก็น่าจะมีคนสงสัยเหมือนกันครับ ว่าทำไม Intel ไม่มีแนวคิดที่จะใส่เทคโนโลยีด้าน last Level Cache เข้ามาบ้างเหรอ ในเมื่อมันส่งผลให้งานหลายๆอย่างนั้นได้ประโยชน์ไปจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเล่นเกม หรืองานประเภท Workstation .. ที่สำคัญคือมันเป็นผลดีต่อยอดขายอย่างมากด้วย หลังจากที่ AMD ก็มีการขาย Processor ที่เป็นประเภทดังกล่าวมาสามรุ่นแล้ว จนปัจจุบันเทคโนโลยีของ 3D V-Cache ก็พัฒนาเข้าสู่ Gen ที่สองแล้ว
ล่าสุดนี้นาย Florian Maislinger ตำแหน่ง Tech Communication Manager ของทาง Intel ก็ได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับ Der8auer และ Bens Hardware บอกว่า Intel เองก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยีด้าน Cache ขนาดใหญ่อยู่ แต่จะเริ่มต้นที่ตลาดของ Data Center ไว้ก่อน เพราะทาง Intel เชื่อว่า แม้สินค้ากลุ่มดังกล่าวจะมีประโยชน์สำหรับกลุ่ม Gamer จริงๆ แต่ตลาด Data Center นั้นมีความต้องการที่สูงมากกว่า และทาง Intel ก็ยังมีการขาย CPU ให้กับตลาดนี้เป็นจำนวนมาก
ซึ่งจากที่ผมเข้าใจ ก็คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นเช่นกันครับ เพราะ Gamer อย่างเราๆ แม้จะดูเหมือนมีเยอะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราก็ซื้อกันแค่คนละตัว หลายๆคนซื้อก็อาจจะดูเยอะ แต่ถ้าเทียบกับฝั่ง Data Center แล้ว เราคงไม่ได้เป็นตัวเลขที่มากมายอะไรขนาดนั้น เพราะบริษัทเหล่านี้ซื้อกันทีจำนวนเยอะมากๆ ดูแล้ว Intel ไปทำตรงนู้นก่อนอาจจะคุ้มค่ากว่า
ส่วนเทคโนโลยี Cahce ใหญ่ของ Intel จะมาแบบไหน อันนี้ก็ยังไม่มีใครทราบได้ครับ .. ไม่แน่อาจจะเป็น L4 Cache ก็ได้นะ หรือถ้ามองในเทคโนโลยีปัจจุบันของ Intel ก็คือจะเห็นว่า Arrow Lake นั้นออกแบบเป็น Tile Based ก็คือมีแต่ละส่วนเชื่อมติดกันอยู่ ก็มีความเป็นไปได้อีกว่า Intel อาจจะเพิ่ม Cache เข้าไปเป็นอีกชิ้นส่วนของ Tile ก็ได้เช่นกัน แต่งานนี้ก็ต้องมาลองพิจารณากันดูเพิ่มเติมอีกครับ ว่าถ้าทำแบบนั้นแล้วมันจะมีผลอะไรกับเรื่อง Latency ให้แย่ลงไปอีกหรือเปล่า
ซึ่งสินค้าตัวแรกที่จะเป็นกลุ่ม Cache ใหญ่ของ Intel น่าจะเป็น Xeon ที่ใช้ Codename ว่า Clearwater ซึ่งน่าจะมีการใส่ Cache เข้าไปในตัว Base Tile เลย และจำนวน Active Tile สูงสุดน่าจะมีอยู่ที่ 17 ตัวกันเลยครับ .. โดย CPU รุ่นใหม่นี้จะมาในช่วงปี 2025 ...
แต่สำหรับฝั่ง Gamer เอง อันนี้ก็ต้องรอดูกระแสต่อไปครับ อย่างแรกถ้าสมมุติ Intel ทำแล้วมันออกมาดีในกลุ่มของ Data Center ทางฝั่ง Gamer ก็อาจจะมีลุ้นก็ได้ แต่ยังไงเราก็ต้องมารอดูกันอีกทีนะว่าตัว Latency นั้นจะเป็นยังไง เพราะจุดนี้ก็สำคัญมากๆกับ Gamer เช่นกันครับ
ข้อมูล : VideoCardz