สาเหตุนึงที่ชิปประมวลผลของ Apple Silicon M-Series นั้นทำประสิทธิภาพได้ดีก็เป็นเพราะว่ามีการหันมาใช้ Memory แบบ On-Package นั่นเอง .. ซึ่ง Intel ในยุคหลังๆอย่าง Lunar Lake ในตระกูล Core Ultra 200V ก็มีการหันมาใช้หลักการเดียวกันเลย
ซึ่งจะว่าไปแล้วทาง Intel ก็บอกไว้เหมือนกันว่าชิปประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง Lunar Lake นั้นก็ทำประสิทธิภาพออกมาได้ดีจริงๆ แต่ติดอย่างเดียวก็คือมันทำให้กำไรของบริษัทนั้นลดลงอย่างชัดเจน หรือพูดง่ายๆว่าต้นทุนมันสูงนั่นแหละครับ .. ก็เลยดูเหมือนว่า Gen นี้จะเป็น Gen แรก และ Gen เดียวของทาง Intel ที่จะใช้ Memory แบบดังกล่าว
รายงานจากทาง SeekingAlpha ก็ได้บอกมาว่า Intel นั้น ได้ตัดสินใจยกเลิกการติดตั้ง Memory แบบนี้ในรุ่นถัดไป .. โดยข้อมูลตรงนี้มาจากงาน Earning Conference ที่ทาง Intel จัดประชุมกับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ตลาด และผู้ให้ข้อมูลดังกล่าวก็เป็นนาย Pat Gelsinger เอง ที่ได้บอกไว้ว่า "การออกแบบนี้จะไม่เอามาใช้ในตัว Panther Lake และรุ่นถัดจากนั้นแล้ว" และ "เราจะกลับไปใช้การติดตั้ง Memory ในรูปแบบ Off-Package เหมือนสมัยก่อน"
Memory ของ Intel Core Ultra 200V (Lunar Lake) ก็มีให้เลือกทั้งขนาด 16GB และ 32GB ในรูปแบบ On-Package LPDDR5X-8533 ที่เชื่อมต่อด้วย Interface แบบ 128-bit .. โดยการออกแบบนี้ก็ทำให้ประหยัดพื้นที่ในตัว Laptop เพราะไม่ต้องมีพื้นที่ให้กับ Memory Module อีกต่อไปแล้วนั่นเอง .. พื้นที่ของ Memory Module ที่ประหยัดไปตรงนี้ก็สามารถเอาไปใส่อุปกรณ์อื่นๆอย่างเช่น Battery ที่ใหญ่ขึ้นได้ .. และนอกจากนั้น Memory On Package เองก็ช่วยในเรื่อง Latency ที่ต่ำ รวมไปถึงการบริโภคพลังงานก็จะต่ำลงด้วยเช่นกัน
แต่การใช้งาน Memory แบบดังกล่าวก็ทำให้ Intel นั้นต้องลงทุนกับชิป LPDDR5X ที่ราคาสูงขึ้น เมื่อเทียบกับซื้อแยกจากพวก OEM ทั้งหลาย .. และด้วยเหตุผลนี้ก็ทำให้ Profit Margin ของ Intel นั้นหายลงไปอย่างชัดเจน ซึ่งนี่ก็ยังไม่นับไปถึงค่าดำเนินการจัดหาตัว Memory และ การติดตั้งมันลงไปบน Package ก็ต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมเช่นเดียวกัน
ตอน Intel เปิดตัว Lunar Lake มันก็เป็นเหมือนอาวุธไม้เด็ดของฝั่ง x86 ที่จะทำให้ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้นพอสู้กับฝั่ง ARM ของ Apple M Series ได้ แต่ดูจากทรงแล้วมันจะเป็นได้แค่ Niche Product ที่เน้นในเรื่องประสิทธิภาพ เพื่อกู้หน้าตาบริษัทมากกว่า เพราะถ้าวัดกันในเรื่องความคุ้มทุนแล้ว เอาไปผลิตขายแบบ High Volume มันจะกลายเป็นไม่คุ้มกับบริษัทแทนนั่นเองครับ
ข้อมูล : Tom's Hardware