สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน หลังจากทางอินเทลได้มีการเปิดตัว 13th Gen Intel Core ในรหัสการพัฒนา Rapter Lake ขบวนการผลิต Intel 7 ซึ่งอันที่จริงมันคือ 10 nm FinFET ที่มีการปรับปรุงทางด้านประสิทธิภาพให้เหนือกว่า 12th Gen Intel Core ที่ได้รับเสียงตอบรับได้เป็นอย่างดีจากผู้ใช้งาน โดย Intel Core i9-13900K เป็นตัวระดับเรือธง แต่แล้วที่ Intel ต้องการผลิตออกมาจำกัดเป็น Special Edition จึงมีการออกมาของ Intel Core i9-13900KS โดยมี Max Turbo Frequency และ Intel Thermal Velocity Boost Frequency ที่ 6Ghz รวมถึง Efficient-core Max Turbo Frequency ที่ 4.3 Ghz จะมีทั้งหมด 24 คอร์ 32 เธรด แบ่งเป็น P-Core 8 คอร์ 16 เธรด และ E-Core 16 คอร์ 16 เธรด ที่สำคัญสามารถโอเวอร์คล็อกตามความเป็นไปได้ของระบบ รองรับการทำงานแบบ Mega–Tasking เช่นการสตรีมเกม โดยเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นๆจะมีการเล่นเกม ,การเข้ารหัสพร้อมกับการบีบอัดวีดีโอ แล้วยังสามารถทำงานอย่างอื่นได้ในเวลาเดียวกัน เช่นการพิมพ์ตอบข้อความต่างๆ โดยเฟรมเรทการเล่นเกมยังออกมาไหลลื่นไม่แตกต่างจากการเล่นเกมอย่างเดียว หรือการทำกิจกรรมอื่นๆระหว่างรอ Encode ไฟล์วีดีโอ เช่นการเล่นเกม ,ชมภาพยนตร์ และอื่นๆ โดยประสิทธิภาพการประมวลผลของงานหลักนั้นยังสามารถประมวลผลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่นั่งพิมพ์เอกสารไปพร้อมกับการเปิดเพลงฟังไปด้วยแบบ Multi–Tasking สมัยก่อน ส่วนการใช้งาน Intel Core i9-13900KS รวมไปถึงพลังความแรงจะออกมาเป็นอย่างไรบ้างตามมาชมกัน
Intel Core i9-13900KS (Special Edition)
ต้องสารภาพกันก่อน นี่คือครั้งแรกที่ผมได้เห็นแพ็คเกจ Intel Core i9-13900K โดย Intel Core i9-13900KS ที่จะมีเพิ่มเข้ามาตรง "SPECIAL EDITION" และ เล่นธีมสีที่เข้มกว่า Intel Core i9-13900K
โดยจะมีคู่มือการใช้งาน พร้อมสติกเกอร์เพิ่มความแรงติดหน้าเคส
กล่องใส่ CPU ที่เป็นสีเงิน ให้ความรู้สึกของเวเฟอร์ซีพียู
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับ Intel Core i9-13900KS อยู่ข้างในกล่อง
Intel Core i9-13900KS Processor ที่รองรับการโอเวอร์คล็อก ความถี่สัญญาณนาฬิกาสูงสุดที่ 6.0 GHz มีแกนประมวลผล 24 คอร์ / 32 เธรด พร้อมกับแคชระดับที่ 3 หรือ Intel Smart Cache ที่ 36MB เป็นแพ็คเกจ LGA1700 ที่คุ้นเคยกันดี
รูปแบบแพ็คเกจ LGA1700 ถ้าไม่นับที่ขนาด รูปแบบลักษณะของแพ็คเกจก็ไม่ได้แตกต่างจาก LGA1200-115X ที่เราคุ้นตากัน
Intel Core i9-13900KS มีค่าการใช้พลังงาน 150 Watt สูงสุดแบบ Turbo ที่ 253 Watt
Raptor Lake หรือ 13th Gen ที่ยังคงรองรับ DDR5 และ DDR4
System Setup
- Memory : KLEVV CRAS XR5 RGB DDR5 6200Mhz 32GB
- VGA : ROG STRIX GeForce RTX4090
- CPU Cooler : ROG STRIX LC II 280 ARGB
- SSD : Kingston NV1 1TB
- PSU : FSP 1200 Watt
- OS : Windows 11 Pro 22H2
บรรยากาศขณะการทดสอบ
Performance Test
ใช้งานในพื้นที่ไม่เปิดแอร์ หรือ ซีพียูร้อนเกินไป
ปัญหาใหญ่ที่สำคัญมากคือความร้อนในการทำงาน ลำพังเพียงแค่ความเร็วมาตรฐานของ Intel Core i9-13900KS วิ่งสุดชุดน้ำสำเร็จรูปสองตอนไม่เพียงพอต่อการใช้งานการใช้งานแน่นอน ควรต้องเป็นชุดน้ำเปิดซักสามตอน หรือ เอาให้ Full Load ไม่เกิด Throttling ถ้าทำได้แรงสะใจแน่นอน
Conclusion !
ซีพียูตัวแรงแห่งยุคกับ 13th Gen Intel Core หรือ Rapter Lake ด้วย Intel Core i9-13900KS เวอร์ชั่นพิเศษที่มาตอกย้ำความแรงในระดับ 6 Ghz แบบเดิมไม่ได้โอเวอร์คล็อก ที่ต้องระบายความร้อนให้ดี Full Load อย่าให้มี Throttling ถึงใช้งาน Intel Core i9-13900KS ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพความแรงในรูปแบบ Single Thread และ Mulit Threads การประมวลผลที่สลับซับซ้อนได้แรงกลุ่มตลาดเมนสตรีม ที่ต้องการความแรงสะใจจนถึงขึ้น Sub Zero หรือ เย็นติดลบ ถ้าสามารถระบายความร้อน Intel Core i9-13900KS ได้ จะโอเวอร์คล็อกในรูปแบบไหน ก็เอาอยู่ แรง แน่นอน แต่ถ้าคุมร้อนไม่ได้ ผลความแรงที่ออกมามันไม่สวยซักเท่าไร ลองดูผล SuperPi ที่ออกมาใช้ได้ แต่ผลคะแนน 3D ที่ไม่ได้เรื่อง อันเนื่องมาจากคุมความร้อนไม่ได้นั้นเอง ถ้าต้องการซีพียูที่รองรับการประมวลผลที่ซับซ้อน ตอบโจทย์ Mega–Tasking ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือการใช้งานอื่นๆ ที่มีงบประมาณในกระเป๋าสูงๆ สามารถ Custom การระบายความร้อนให้อยู่หมัด Intel Core i9-13900KS เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Special Thanks : INTEL (THAILAND)