อินเทลเดินหมากได้อย่างน่าสนใจ เมื่อประกาศว่าจะรองรับ XeSS 3 ในเกมทั้งหมดที่ใช้ XeSS 2 อยู่แล้ว โดยได้รับการยืนยันจาก Tom Petersen หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของบริษัท การอัปเดตใหม่นี้จะยกระดับเทคโนโลยี super resolution ของอินเทลให้มีฟีเจอร์ Multi-Frame Generation (MFG) ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานก่อนที่ AMD จะปล่อยฟีเจอร์คู่แข่งในลักษณะเดียวกันออกมา

ในงาน Intel Tech Tour อินเทลยืนยันว่าเกมที่รองรับ XeSS 2 ในปัจจุบันจะยังสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์กับ XeSS 3 โดยไม่ต้องแก้ไขใด ๆ เพิ่มเติม ปัจจุบันมีเกมที่ใช้ XeSS 2 อยู่แล้วกว่า 50 เกม และมีอีกกว่า 250 เกม ที่ใช้ XeSS 1 หรือ 1.3 ซึ่ง XeSS 3 จะถูกออกแบบให้เป็น “drop-in replacement” ใช้ API เดิม ทำให้นักพัฒนาไม่ต้องเปลี่ยนโค้ดหรืออัปเดตเกมแต่อย่างใด

คาดว่า ฟีเจอร์ Multi-Frame Generation ของ XeSS 3 จะปรากฏเป็นตัวเลือกภายในแอป Intel Graphics Software โดยผู้ใช้สามารถเลือกโหมดการสร้างเฟรมได้ 3 ระดับ คือ 2×, 3× และ 4× ตามความต้องการ อย่างไรก็ตาม อินเทลยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าการตั้งค่าแต่ละระดับให้ผลลัพธ์แตกต่างกันอย่างไร

จากเดโมที่แสดงในงาน และภาพหน้าจอที่ผู้ใช้ X (Twitter) ชื่อ @hm1193 โพสต์ให้เห็นผลลัพธ์ที่น่าสนใจ เช่น

• เกม Painkiller (Epic, 1080p) ทำเฟรมเรตได้ราว 250 FPS

• เกม Dying Light: The Beast (Max, 1080p) ได้ประมาณ 130 FPS
  โดยทั้งหมดใช้ XeSS 3 MFG 4× (Ultra Quality Upscaling) บนระบบที่ใช้พลังงานเพียง 45 วัตต์ (PTL 12Xe)

เท่าที่ทราบตอนนี้ XeSS 3 จะสามารถทำงานได้บนซีพียู Intel Core Ultra ทุกรุ่น และจีพียูตระกูล Alchemist หรือใหม่กว่า แต่ประสิทธิภาพจริงที่ผู้ใช้จะเห็นอาจขึ้นอยู่กับเฟรมเรตพื้นฐานของเกม เพราะเทคโนโลยีสร้างเฟรมจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อเฟรมเรตเริ่มต้นอยู่ในช่วง 40–60 FPS ขึ้นไป

แนวทางของอินเทลใน XeSS 3 คล้ายกับของ NVIDIA DLSS ที่แยกการอัปสเกลภาพออกจากกระบวนการสร้างเฟรม ซึ่งก่อนหน้านี้อินเทลยังไม่มีฟีเจอร์สร้างเฟรมเป็นของตัวเอง แต่ตอนนี้ได้ก้าวกระโดดสู่ multi-frame generation เต็มรูปแบบแล้ว ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจทำให้ อินเทลได้เปรียบ AMD ที่ยังคงใช้เทคนิค single-frame interpolation และตามหลัง NVIDIA ในด้านนี้อยู่

อินเทลยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของ XeSS 3 เช่น วันเปิดตัวหรือฟีเจอร์อื่น ๆ ที่จะเพิ่มเข้ามา แต่หลายฝ่ายคาดว่าเทคโนโลยีใหม่นี้จะเปิดตัวพร้อมกับซีพียูรุ่นถัดไป Panther Lake ซึ่งมาพร้อมจีพียูแบบ Xe3 รุ่นใหม่ในตัว

ที่มา: TechPowerUp