รายงานระบุว่า Intel กำลังพิจารณาแยกกลุ่ม Network and Edge Group หรือที่รู้จักกันในชื่อ NEX ออกไป และกำลังมองหานักลงทุนเพื่อเข้าซื้อหน่วยธุรกิจนี้ ข้อมูลนี้มาจากบันทึกภายในที่ CRN ได้รับทราบ และบันทึกดังกล่าวถูกส่งโดย Sachin Katti หัวหน้ากลุ่ม Network and Edge Group ซึ่งเพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (CTO) ของ Intel สำหรับผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับกลุ่ม Network and Edge Group ของ Intel นี่คือแผนกที่ผลิตชิป Ethernet และผลิตภัณฑ์การสื่อสารของ Intel เนื่องจากในทางเทคนิคแล้ว Intel ไม่ได้ดำเนินธุรกิจด้านการประมวลผลแบบเอดจ์อีกต่อไปแล้ว นับตั้งแต่ธุรกิจดังกล่าวได้รวมเข้ากับกลุ่ม Client Computing Group ในเดือนกันยายน 2567

 

ดูเหมือนว่า Intel จะไม่ขายกลุ่มนี้ออกไปทั้งหมด เนื่องจากบริษัท "จะยังคงเป็นนักลงทุนหลักในบริษัทใหม่" ซึ่งถือเป็นเรื่องสมเหตุสมผล เนื่องจากจะช่วยให้ Intel ยังคงมีอิทธิพลต่อทิศทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และยังคงสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่บริษัทใหม่จะผลิตได้โดยตรง Katti ยังเขียนด้วยว่าสิ่งนี้น่าจะช่วยให้ NEX "ขยายสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น" ไม่ว่าจะเป็นตลาดประเภทใดก็ตาม แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าเหตุใด Intel จึงไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้ด้วยตนเอง Katti ยังได้เขียนบันทึกข้อความต่อว่า "สิ่งที่เราคาดว่าจะเปลี่ยนแปลงคือความสามารถในการดำเนินงานที่มุ่งเน้น ความเร็ว และความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งหมดนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของคุณได้ดียิ่งขึ้น" โดยชี้ให้เห็นว่าลูกค้าของ Intel ได้ค้นพบพันธมิตรรายอื่นที่เหมาะสมกับความต้องการของพวกเขามากขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Intel ได้ประสบปัญหากับผลิตภัณฑ์อีเธอร์เน็ต 2.5 Gbps บางตัวที่เพิ่งเปิดตัว เนื่องจากพบข้อบกพร่องหลายจุดที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสมในบางกรณี แม้จะมีการปรับปรุงฮาร์ดแวร์หลายครั้งก็ตาม บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์อีเธอร์เน็ต 2.5 และ 10 Gbps ใหม่ในซีรีส์ E610 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีการตอบรับที่ดีนักในตลาด คำถามตอนนี้คือ Intel จะสามารถปลดหน่วยธุรกิจออกไปได้อีกกี่หน่วย จนกว่าจะเหลือเพียงธุรกิจซีพียูหลักเท่านั้น

ที่มา : TechPowerUp