คุณอยากให้รถของคุณมีอัตราเร่งที่ดีขึ้น สามารถทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา 5.3 วินาที เพื่อที่จะเร่งขึ้นทางด่วนได้ง่ายขึ้นหรือเปล่า ? และคุณจะยอมจ่ายเงินราวๆ $1200 หรือ 42,xxx บาทต่อปีเพื่อที่จะได้มันมาใช่ไหม ?
Mercedes-Benz หวังว่าคำตอบของคุณคือ "ใช่" .. ล่าสุดนี้ผู้ผลิตรถสัญชาติเยอรมันได้มีการอัปเดทแพคเกจ "Acceleration Increase" หรือ "เพิ่มอัตราเร่ง" เข้าไปใน Online Store สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าบางรุ่นของแบรนด์ โดยทางสื่อ The Drive ได้มีการรายงานว่าฟีเจอร์ Add-On นี้จะมีราคา $1200 และจะมาให้ผู้ใช้ได้เลือกซื้อเร็วๆนี้
ผู้ใช้ที่จ่ายเงินในส่วนนี้จะได้การปลดล๊อคอัตราเร่งของรถตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิมราวๆ 20-24% ซึ่งการอัปเกรดจะเพิ่มอัตราแรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้าในรถยนต์เพื่อที่จะทำให้อัตราเร่ง 0-100 นั้นสั้นลงเป็นระยะเวลาประมาณ 1 วินาที ซึ่งทาง Mercedes ได้บอกว่า มันจะเป็นทางเลือกสำหรับรถยนต์รุ่น EQE และ EQS ที่เป็น Sedan รวมไปถึง EQE และ EQS เวอร์ชั่น SUV ด้วย
เมื่อซื้ออัปเกรดดังกล่าว Mercedes EQS 450 4Matic จะได้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 4.5 วินาที จากเดิมที่ 5.3 วินาที ส่วน EQE SUV จะได้ที่ 5.2 วินาที จากเดิมที่ 6.2 วินาที .. ซึ่งทางบริษัท Mercedes-Benz ยังไม่มีการออกมาให้ข้อมูลว่าฟีเจอร์ดังกล่าวนี้จะเปิดวางขายเมื่อไหร่ รวมไปถึงที่ว่าจะมีแบบจ่ายทีเดียวจบหรือไม่
ในยุคที่รถยนต์กลายเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Mercedes-Benz หรือ BMW ก็ต่างหาทางเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองจากบริการด้าน Software ไม่ว่าจะเป็นการให้ลูกค้าจ่ายเงินเพิ่มเพื่อปลดล๊อคฟีเจอร์ของรถตัวเองหลังจากที่ซื้อรถไปแล้ว อย่างที่เราเห็นก่อนหน้านี้ว่า BMW เองก็มีการให้ลูกค้าจ่าย Subscription สำหรับการเปิดใช้งานเบาะอุ่นที่ติดตั้งอยู่ในรถตัวเองอยู่แล้วเป็นราคา $18 ต่อเดือน หรือค่ายอื่นๆเราก็ได้เห็นว่ามีการให้ปลดล๊อคฟีเจอร์สตาร์ทอัตโนมัติหรือไฟสูงอัติโนมัติ โดยผู้ใช้จะต้องจ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปี
ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับแผนการตลาดดังกล่าว เพราะว่าเขาเหล่านั้นไม่ควรจะต้องจ่ายเงินเพิ่มกับสิ่งที่ควรจะมีมาให้ตั้งแต่แรกแล้ว .. อย่างที่เราเห็นก่อนหน้าตอนปี 2019 ที่ทาง BMW มีการเปิดแผน Apple CarPlay ด้วยราคา $80 ต่อหนึ่งปี ตอนนั้นผู้ใช้ราวๆ 3/4 ก็ต่างไม่เห็นด้วย และไม่ยอมจ่ายเงินเพื่อฟีเจอร์ดังกล่าว
แล้วคุณหล่ะคิดยังไงครับ ? คุณคิดว่าแผนการตลาดแบบนี้เป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้วหรือไม่ ทั้งๆที่คุณรู้ว่ารถที่คุณซื้อมานั้น มีมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่สามารถทำอัตราเร่งได้ดีอยู่แล้ว แต่ผู้ผลิตนั้นกลับล๊อคฟีเจอร์ดังกล่าวไว้จนกระทั่งคุณยอมจ่ายเงินเป็นรายเดือนหรือรายปี คุณถึงจะได้ใช้มอเตอร์ "ของคุณ" อย่างเต็มประสิทธิภาพ .. ส่วนถ้าเป็นวงการคอมพิวเตอร์ เราก็เห็นเรื่องพวกนี้เป็นปกติกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะเกมใหม่ๆที่วันดีคืนดี มีแพทช์ขนาดใหญ่เท่าตัวเกมหลักปล่อยออกมาให้โหลด โดยที่ทุกคนต้องโหลดมิเช่นนั้นก็เข้าเล่นเกมไม่ได้ แต่พอเข้าไปเล่นเกมแล้วคุณกลับเห็นตัวละคร NPC ยืนอยู่ ซึ่งถ้าคุณไปคุยมันกลับลากคุณไปที่ Store เพื่อที่จะให้คุณจ่ายตังซื้อ DLC ก่อนจะเดินทางไปยังแผนที่โลกใหม่ ที่คุณโหลดมาหลาย GB ไปในแพทช์ก่อนหน้า .. อันนี้ก็อารมณ์เดียวกันนั่นแหละครับ คุณมีของอยู่กับตัวคุณแล้ว แต่คุณไม่สามารถใช้งานมันได้ จนกระทั่งคุณยอมจ่ายเงินให้กับทางบริษัทเสียก่อน
ข้อมูล : Business Insider