ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เพิ่งปรับโครงสร้างระบบสมัครสมาชิก Xbox ครั้งใหญ่ แบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ Essential, Premium และ Ultimate พร้อมเพิ่มแผนเฉพาะสำหรับผู้ใช้พีซี โดยราคาของแต่ละแพ็กเกจเพิ่มขึ้นประมาณ 50%
พร้อมกันนั้น บริษัทก็กำลังทดสอบบริการใหม่ในชื่อ Xbox Cloud Gaming แบบมีโฆษณาสนับสนุน (ad-supported) ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถ สตรีมเกมบางรายการได้ฟรี โดยไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิก Game Pass
จากข้อมูลภายในระบุว่า ระบบนี้จะมีโฆษณาความยาวราว 2 นาที ก่อนเริ่มเล่นเกม (pre-roll ads) จากนั้นผู้เล่นจะสามารถเล่นได้ต่อเนื่องสูงสุด 1 ชั่วโมงต่อเซสชัน และในระยะเริ่มต้นยังจำกัดไว้เพียง 5 ชั่วโมงต่อเดือน เท่านั้น ทั้งนี้ Microsoft กำลังปรับพารามิเตอร์เหล่านี้อยู่ เพื่อเตรียมเปิด ทดสอบสาธารณะ (public beta) ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
บริการนี้จะรองรับการเล่นผ่าน พีซี เครื่องคอนโซล Xbox อุปกรณ์พกพา และเว็บเบราว์เซอร์ โดยผู้ใช้สามารถสตรีมเกมที่ตนเป็นเจ้าของอยู่แล้ว เกมในช่วง “Free Play Days” ชั่วคราว หรือเกมคลาสสิกเก่ายอดนิยมบางเกมได้
สำหรับผู้สมัครสมาชิกแบบเสียเงิน (เช่น Game Pass) จะยังคงได้สิทธิ์ในการ เล่นด้วยคุณภาพสตรีมที่สูงกว่า และมีข้อจำกัดน้อยกว่า ในขณะที่เวอร์ชันฟรีแบบมีโฆษณานี้จะเน้นให้เข้าถึงง่ายและไม่เสียค่าใช้จ่าย แม้ต้องแลกด้วยประสบการณ์การเล่นที่ถูกจำกัด
ไมโครซอฟท์อธิบายว่า โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้บริการคลาวด์เกมเข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคที่อุปกรณ์มีสเปกต่ำหรือมีข้อจำกัดด้านราคา — แต่ในอีกมุมหนึ่งก็มองได้ว่าเป็นการทดลอง สร้างรายได้รูปแบบใหม่จากโฆษณา
ในอนาคต ผู้เล่นอาจต้องเลือกระหว่าง “จ่ายเพิ่มเพื่อเล่นแบบไร้ขีดจำกัด” หรือ “เล่นฟรีแลกกับโฆษณาและเวลาจำกัด” ทั้งนี้ Microsoft อาจปรับระยะเวลาโฆษณา จำนวนชั่วโมงต่อเซสชัน และโควตารายเดือนก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
โมเดลใหม่นี้อาจดึงดูดผู้เล่นสายชิลล์ที่อยากลองเกมฟรี แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้แฟน Xbox ตัวจริงบางส่วนรู้สึกไม่พอใจกับทิศทางใหม่ของแบรนด์ ขณะเดียวกันพันธมิตรด้านโฆษณาก็อาจผลักดันให้มีการ “แทรกโฆษณาแบบไดนามิก” และกำหนดราคาตามภูมิภาคเพื่อเพิ่มรายได้สูงสุด
สิ่งที่ต้องจับตาคือ — ไมโครซอฟท์จะหาจุดสมดุลระหว่าง “ประสบการณ์ผู้เล่น” กับ “รายได้จากโฆษณา” ได้อย่างไร?
ที่มา: The Verge