Microsoft Windows 11 เปิดตัวมาหลายปีแล้ว แต่มาถึงตอนนี้ยอดผู้ใช้นั้นยังถือว่าไม่มากเท่าที่ควร สาเหตุหลักๆเลยก็คือด้านความต้องการระบบที่มีตัว Trusted Platform Module หรือ TPM 2.0 อยู่ด้วย และประเด็นคือ Hardware ตัวนี้ มันมีอยู่แค่ใน Processor หรือคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ซักหน่อย อย่างเช่น Intel Core Gen 8 ขึ้นไป
เห็นแบบนี้แล้ว ผมเองก็คิดว่า อะไรนะ .. Gen 8 นี่คือใหม่เหรอ มันเก่ามากแล้วนะ .. แต่ในความเป็นจริงครับ คอมพิวเตอร์ที่เก่ากว่านั้นยังมีประสิทธิภาพที่แรงพอสำหรับการใช้งาน Windows 11 หรือ ทำงานในยุคปัจจุบันได้แบบสบายๆ จึงทำให้คอมที่เก่ากว่า Gen 8 เป็นจำนวนมาก สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา .. เพียงแค่ Microsoft นั้นไม่อนุญาตให้อัปเดทเป็น Windows 11 ด้วยเหตุผลด้านความต้องการ TPM 2.0 ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย
ประมาณอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง Microsoft ก็เพิ่งออกมาย้ำอีกหนึ่งรอบผ่าน Blog Post ว่าทำไม TPM 2.0 ถึงมีความจำเป็นกับ Windows 11 แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็มีการโพสต์ใน Guide ล่าสุด ว่า ผู้ใช้สามารถติดตั้ง Windows 11 บนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับได้ เพียงแค่เตือนว่าอาจจะเจอปัญหาในการใช้งาน .. นอกจากนั้นก็ยังมีการโพสต์วิธีแก้ปัญหาในกรณี ที่ผู้ใช้อัปเป็น Windows 11 ไปแล้วเจอปัญหา จะสามารถย้อนกลับมายังไงได้บ้าง
มาถึงตอนนี้ ทุกคนคงรู้อยู่แล้วหล่ะครับ ว่า Windows 11 นั้นสามารถ By-Pass ตัวความต้องการด้าน TPM ได้อย่างไม่ยากอะไร ไม่ว่าจะเป็นการทำ Registry Tweak, ลงผ่าน Rufus หรืออะไรก็แล้วแต่ .. เพียงแค่ Microsoft เพิ่งออกมาผ่อนปรนและยอมรับอย่างเป็นทางการเท่านั้นว่าสามารถทำได้
เรื่องนี้น่าจะเป็นผลมาจาก Windows 10 ที่กำลังจะเข้าสู่ช่วง End of Life ในปี 2025 ที่จะถึงนี้ และ ณ เวลานี้ก็ยังมีผู้ใช้ Windows 10 อยู่ถึง 61.82% .. การที่ Microsoft ไปบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนคอมพิวเตอร์มาเป็นรุ่นที่รองรับ TPM 2.0 น่าจะไม่ใช่ทางออกที่ดีซักเท่าไหร่
ปัจจุบันนี้จึงกลายเป็นว่า ผู้ใช้สามารถติดตั้ง Windows 11 กับ Hardware ที่ไม่รองรับได้ เพียงแค่ Microsoft จะขึ้นคำเตือนเล็กๆเท่านั้น ว่าจะไม่มีการรับประกันใดๆกับตัวเครื่อง ในกรณีที่เกิดปัญหาด้าน Compatibility หรือความเข้ากันได้ของระบบ และนอกจากนั้นผู้ใช้งานจะไม่ได้รับ Update รวมไปถึง Security Update ด้วย ส่วนด้านการใช้งานก็จะได้รับ Watermark หรือลายน้ำเล็กๆบน Desktop คล้ายๆกับการใช้งาน Windows ที่ยังไม่ถูก Activate รวมไปถึงจะมีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมาในหน้า Settings
สรุปเลยก็คือ แม้ว่า Microsoft จะปล่อยให้ผู้ใช้อัปเกรดเป็น Windows 11 ได้ง่ายขึ้น แต่ด้วยข้อจำกัดที่จะไม่มี Update ด้านความปลอดภัย จึงไม่ได้ต่างอะไรกับการใช้ Windows 10 ต่อไปหลังช่วง End of Life อยู่ดีครับ
ข้อมูล : Tom's Hardware