ปัจจุบันนี้ การ์ดจอก็มี Segment ให้เลือกหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการ์ดระดับท๊อปที่ราคาครึ่งแสน (ช่วงปั่นราคาทะลุแสนก็มีนะ) ไปจนถึงการ์ดราคาหลักไม่กี่พัน ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่แตกต่างกันหลักๆก็จะเป็นประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่รองรับ อย่างเช่นการ์ดรุ่นบนๆของ NVIDIA GeForce ก็จะใช้ชื่อว่า RTX ซึ่งมีฟีเจอร์พิเศษประจำตระกูลอย่างเช่นหน่วยประมวลผลสำหรับ Realtime Ray-Tracing หรือ DLSS ที่ใช้ AI เข้ามาช่วยในการเพิ่ม Frame Rate .. ส่วนการ์ดตระกูล GTX ซึ่งเป็นการ์ดที่ทำตลาดมานานแล้ว ก็ไม่มีฟีเจอร์ดังกล่าว และปัจจุบันก็ถูกวาง Segment ให้อยู่ในกลุ่มที่ราคาประหยัดลงมาแทน
ล่าสุดนี้ NVIDIA ได้มีการเปิดตัวการ์ดจอรุ่นเล็กเข้ามาเสริมทัพตระกูล GTX อีกหนึ่งรุ่น นั่นก็คือ GTX1630 ที่จะมาแทน GT1030 กับราคาเปิดตัวราวๆ $150 หรือราวๆ 5 พันกว่าบาท .. พื้นฐานภายในของมันก็เป็น Turing รุ่นเก่าที่ใช้มากับ GTX 16 Series ที่เปิดตัวมาหลายปีแล้ว และแน่นอนว่ามันไม่ได้มีฟีเจอร์การประมวลผล Ray Tracing ระดับ Hardware หรือรองรับ DLSS แต่อย่างใด .. หลักๆแล้วรหัสของ Silicon มันก็คือ TU117 อันเดียวกับ GTX1650 ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2019 นั่นแหละครับ
Streaming Multiprocessor ของ TU117 ที่เอามาใช้ใน GTX1630 นั้นก็จะถูกหั่นออกไปครึ่งนึง จาก 16 หน่วย เหลือ 8 หน่วย มี CUDA Core ทั้งหมด 512 หน่วย , TMU (Texture Mapping Unit) ที่ 32 หน่วย และ ROP (Render Output Unit) 32 หน่วย .. ทางด้าน Memory ก็จะเป็นขนาด 4GB ในรูปแบบ GDDR6 บน Bus Interface ที่ 64-bit ใช้ชิปประเภท 12Gbps ส่วน Boost Clock ของตัว GPU นั้นจะอยู่ที่ 1785MHz สูงสุด นอกจากนั้นแล้วตัวการ์ดก็จะไม่มีฟีเจอร์ AV1 Decode ในรูปแบบ Hardware เหมือนเช่นเดียวกับ Turing รุ่นอื่นๆ
สำหรับคู่แข่งสำคัญของ GTX1630 นั้นก็คงจะหนีไม่พ้น AMD Radeon RX6400 และ Intel Arc A380 นั่นเอง ถ้าวัดกันตามกลุ่มราคาแล้ว .. ส่วนประสิทธิภาพนั้น ก็แน่นอนแหละครับ ว่าออกแบบมาสำหรับคนที่งบประมาณไม่มาก อยากเล่นเกมแบบพอไหว ไม่เน้นปรับสุดในกลุ่ม AAA Title แต่ถ้าเล่นเกมที่กินสเปกไม่มากหรือเกมเก่าๆหน่อยก็อาจจะปรับสุดได้ไม่มีปัญหา .. แต่ความเป็นจริงแล้วจะทำประสิทธิภาพออกมาเป็นยังไงนั้น ก็ต้องรอดูรีวิวตัวจริงครับ
ข้อมูล : TechPowerUp