NVIDIA เปิดตัวการ์ดจอ RTX 40-Series ไปตั้งแต่ช่วงปี 2022 ที่ผ่านมา พร้อมกับมีการ Refresh ด้วยรหัส SUPER เข้ามาในช่วงต้นปี เพราะเช่นนั้นว่ากันด้วยกำหนดการ เราก็น่าจะได้เห็นการ์ด Gen ถัดไปภายในปี 2024 นี้ .. ข้อมูลตรงนี้หลายๆคนก็น่าจะพอเดากันได้ จากแผนการเปิดตัวสินค้าของ NVIDIA ที่เคยทำมาก่อนหน้า
มองจากประวัติการเปิดตัวแล้ว ตอน RTX40 เปิดตัวนั้น ปีแรกที่เปิดมาก็คือ 2022 เราได้เห็นการ์ดสองตัวนำทัพเข้ามา นั่นก็คือ RTX4090 และ RTX4080 ส่วนปีถัดมาก็ตามมาด้วยการ์ดรุ่นรองอย่างเช่นรหัส 70 และ 60 เพื่อตลาด Mainstream .. การทำแบบนี้ก็ไม่แปลกครับ เพราะว่าการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่จริงๆ ก็มักจะดันรุ่นบนมาก่อนอยู่แล้ว ผู้บริโภคทีอยากใด้ของที่สดใหม่ และดีที่สุด ก็จะต้องจ่ายเงินซื้อรุ่นท๊อปไปก่อน อีกอย่างนึงก็คือพวกชิปกราฟฟิคทั้งหลายเนี่ย มันก็ Scalable ด้วยครับ ประมาณว่าเปิดรุ่นบนที่ปล่อยสเปกเต็มมาก่อน เสร็จแล้วหลังจากนั้นก็ค่อยๆลดสเปก เอารุ่นที่ตัดอะไรต่างๆนาๆออกไป มาเพื่อขายในราคาที่ถูกกว่า
แต่สำหรับครั้งนี้ เราได้ข้อมูลมาจาก Tech YouTuber ที่ชื่อ Moore's Law is Dead โดยเขาได้ออกมาระบุว่า ข้อมูลที่เขาได้รับมานั้นบ่งบอกว่าในปี 2024 นี้จะมีการเปิดตัว GeForce RTX50 Series จริงๆ แต่เราจะได้เห็นแค่รุ่นเรือธง ซึ่งก็คือ GeForce RTX5090 ก่อน ส่วนที่เหลือนั้นจะยังไม่มาในปีนี้
แม้ว่าการเปิดตัวการ์ด RTX5090 มารุ่นเดียวจะดูไม่ได้น่าสนใจอะไรมาก แต่เราก็จะได้เห็นความน่าสนใจของสถาปัตยกรรม Blackwell อันใหม่ของ NVIDIA ได้แล้ว และพอเราเห็นตัวนี้ เราก็สามารถเดาได้ไม่ยาก ว่ารุ่นที่รองลงมานั้นจะมีประสิทธิภาพอะไรอยู่ประมาณไหน ด้วยการอ้างอิงเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มราคา .. เพราะว่าการที่รุ่นบนมาแล้ว เราก็จะได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆมาทั้งหมดเลย ไม่แน่อาจจะเป็นการประมวลผล Ray Tracing ที่น่าประทับใจกว่าเดิม หรืออาจจะเป็น DLSS4 ที่ใช้ AI เข้ามามีผลมากขึ้น อันนี้ก็เป็นไปได้เหมือนกันครับ .. แต่ที่แน่ๆเราได้เห็นข่าวหลุดก่อนหน้าออกมาแล้ว ว่ามีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดขึ้นมาพอควร (พูดแบบนี้ทุกทีแหละ)
ส่วนสาเหตุที่ NVIDIA จะเปิดตัวมาแค่รุ่นเดียวนั้นก็น่าจะเป็นเพราะว่ายังไม่เน้นขาย RTX50 ซักเท่าไหร่ แต่ต้องการจะเคลียรสต๊อกของ RTX40 สำหรับตลาดกลางให้หมดมากกว่า นอกจากนั้นแล้วก็คือ NVIDIA เองก็น่าจะกำลังไปได้สวยกับตลาดของฝั่ง AI ที่ใช้พื้นฐานสถาปัตยกรรม Blackwell เหมือนกัน ซึ่งตลาดตรงนี้มันทำรายได้ให้กับบริษัทได้เยอะกว่ามาก จึงคิดว่าน่าจะไปโฟกัสตรงนั้นก่อนครับ
ข้อมูล : TechPowerUp