DLSS 4 เปิดตัว Multi Frame Generation เพื่อเพิ่มอัตราเฟรมโดยใช้ AI เพื่อสร้างเฟรมได้สูงสุดถึงสามเฟรมต่อเฟรมที่แสดงผล โดยทำงานร่วมกับชุดเทคโนโลยี DLSS เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้สูงสุดถึง 8 เท่าเมื่อเทียบกับการเรนเดอร์แบบเดิม ในขณะที่ยังคงตอบสนองได้ดีด้วยเทคโนโลยี NVIDIA Reflex
DLSS 4 ยังเปิดตัวแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ตัวแรกของอุตสาหกรรมกราฟิกของสถาปัตยกรรมโมเดลทรานส์ฟอร์เมอร์ โมเดล DLSS Ray Reconstruction และ Super Resolution ที่ใช้ทรานส์ฟอร์เมอร์ใช้พารามิเตอร์มากกว่า 2 เท่าและประมวลผลมากกว่า 4 เท่าเพื่อให้มีเสถียรภาพมากขึ้น ลดการเกิดภาพซ้อน รายละเอียดที่สูงขึ้น และการลดรอยหยักที่ปรับปรุงใหม่ในฉากเกม DLSS 4 จะได้รับการสนับสนุนบน GPU GeForce RTX 50 Series ในเกมและแอปพลิเคชันมากกว่า 75 เกมในวันเปิดตัว
นอกจากนี้ NVIDIA Reflex 2 ยังเปิดตัว Frame Warp ซึ่งเป็นเทคนิคที่สร้างสรรค์ในการลดเวลาแฝงในเกมโดยการอัปเดตเฟรมที่แสดงผลตามอินพุตเมาส์ล่าสุดก่อนที่จะส่งไปยังจอแสดงผล Reflex 2 สามารถลดเวลาแฝงได้มากถึง 75% สิ่งนี้ทำให้เกมเมอร์ได้เปรียบเหนือคู่แข่งในเกมหลายผู้เล่น และทำให้เกมแบบผู้เล่นคนเดียวตอบสนองได้ดีกว่า
“DLSS 4 ช่วยให้เราก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเล่นเกม โมเดลทรานสฟอร์มเมอร์การสร้างภาพรังสีแบบใหม่ช่วยขับเคลื่อนความก้าวหน้าครั้งประวัติศาสตร์ในด้านความสามารถในการเรย์เทรซิง ไม่เพียงแต่ช่วยเร่งความเร็วในการทำงานเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงภาพในเกม DOOM: The Dark Ages อีกด้วย” - Billy Khan ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีเอนจิ้น id Software
“NVIDIA GeForce RTX 50 Series และ DLSS 4 กำลังเปลี่ยนโฉมเกม ตอนนี้เรามีพลังและเทคโนโลยีในการทำให้การเล่าเรื่องแบบโต้ตอบเป็นจริงในอนาคตด้วย Black State” - Kadir Demirden ซีอีโอ Motion Blur
“GeForce RTX 50 Series และ DLSS 4 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเกมยุคใหม่” - Rui Casais ซีอีโอ Funcom