สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน เทคโนโลยี DLSS จาก NVIDIA ที่ถูกใส่เข้ามาใน GeForce RTX 20 และ 30 Series ซึ่งแน่นอนว่าเทคโนโลยีนี้นำระบบ Ai เข้ามาช่วยประมวลผล ซึ่งทำให้การเล่นเกมที่ความละเอียดสูงนั้นมีความไหลลื่นและเฟรมเรทที่สูงมากขึ้น แต่เมื่อทาง NVIDIA มีการอัพเกรดครั้งใหญ่ เราจะพามาดูว่า DLSS 2.2 นั้นมีความน่าสนใจ และ ช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการเล่นเกมได้ดีเพียงใด
อย่างที่เราทราบกันดีว่า GeForce RTX 20 และ 30 Series ที่จะมีเทคโนโลยี Ray Tracing เข้ามา แต่อีกหนึ่งความน่าสนใจกับเกมเมอร์คือ DLSS ที่แน่นอนการออกมาของเทคโนโลยีนี้ ช่วยเพิ่มให้ชาวเกมเมอร์ สามารถรับประสบการณ์การเล่นเกมที่ไหลลื่น โดยภาพที่มองเห็นนั้นยังคงมีคุณภาพที่ดี
NVIDIA DLSS (Deep Learning Super Sampling) เป็นเทคโนโลยีการเรนเดอร์โดยใช้ AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกราฟิก โดยโปรเซสเซอร์ Tensor Core เข้ามาประมวผลในส่วนของ Ai เพื่อเพิ่มเฟรมเรทและสร้างภาพที่สวยงามคมชัดให้เกมที่กำลังเพลิดเพลินอยู่ขณะการเล่น
DLSS ที่ใช้ระบบ Ai เข้ามาช่วยในการคาดเดาการขยับของพิกเซลในการประมวลผล เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อใช้เทคโนโลยีนี้บน GeForce RTX 20 และ 30 Series จะมีการเรนเดอร์พิกเซลแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในขณะการเล่นเกมที่ได้เฟรมเรทสูงมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้กราฟฟิกการ์ดมากกว่า 1 ใบ แบบสมัยก่อนเพื่อการเล่นเกมในความละเอียดสูง หรือ การเล่นเกมที่ต้องการความไหลลื่นของภาพ
ถ้าเรามองกันที่ความแตกต่างระหว่าง DLSS และ การอัพสเกลพร้อมการความเพิ่มความคมชัด ซึ่งการใช้งาน DLSS นั้นจะได้ข้อดีที่มีคุณภาพของภาพเทียบเท่ากับแบบ Native แต่ได้ประสิทธิภาพที่สูงเทียบเท่ากับการ การอัพสเกลพร้อมการความเพิ่มความคมชัด เป็นอีกหนึ่งของความลงตัวเพื่อเกมเมอร์
DLSS 2.2 ที่มีการปลดล็อกข้อจำกัดของการเรียนรู้จากเฉพาะ Game Engines ซึ่ง DLSS 2.2 จะมีการรับ Game Engines ชั้นนำมากขึ้น เท่ากับว่าในอนาคตเกมที่รองรับเทคโนโลยี NVIDIA DLSS จะมีจำนวนมากขึ้น
หลังจากการอัพเดทเทคโนโลยี DLSS 2.2 ซึ่งทำให้มีตัวเกมที่รองรับเทคโนโลยีนี้มีจำนวนมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะตัวเกมที่ออกมาใหม่ล่าสุด แต่เกมที่ออกมานานแล้วก็ยังสามารถออกอัพเดทให้รองรับ DLSS ได้เช่นกัน
การใช้งานเทคโนโลยี DLSS เมื่อเล่นเกมที่ความละเอียดระดับ 4K จะสามารถเพิ่มเฟรมเรทของภาพเกมให้ออกมาได้สูงขึ้น ซึ่งภาพนี้เป็นการทดสอบจากทาง NVIDIA
นอกจากเฟรมเรทที่ไหลลื่นมากขึ้น แต่อีกสิ่งที่มีความสำคัญของเทคโนโลยี NVIDIA DLSS ภาพที่ออกมาในเกมนั้นยังคงคุณภาพที่ดี เรายังสามารถเห็นความคมชัดของรายละเอียดที่มองเห็นได้
อีกหนึ่งตัวอย่างในการใช้งานเทคโนโลยี DLSS ที่ทาง NVIDIA นอกจากการพัฒนาให้เฟรมเรทที่สายตาได้มองเห็นนั้น ภาพที่ออกมามีความไหลลื่น แต่อีกสิ่งที่ทาง NVIDIA นั้นมีการพัฒนาในส่วนของรายละเอียด ที่ภาพออกมานั้นยังคงมีรายละเอียดที่ครบถ้วน
การใช้งานเทคโนโลยี DLSS ในเรื่องคุณภาพของภาพ ที่สายตาของผู้เล่นนั้นสามารถมองเห็นได้ มีความเทียบเท่ากับรูปแบบการประมวลผลแบบ Native แต่ยังได้ข้อดีที่ความไหลลื่นนั้นสามารถทำออกมาได้เทียบเท่ากับการ Upscale และ เพิ่มความคมชัด
จากการทดสอบเกม LEGO Bulider's Journey ซึ่งในการใช้งาน GeForce RTX 3080Ti ที่ประสิทธิภาพในการเปิดใช้งาน DLSS แบบ Performance ที่เฟรมเรทจะออกมาได้ประมาณ 2.63 เท่าตัว แต่ที่น่าสนใจในการใช้งาน GeForce RTX 2080Ti เมื่อเปิดใช้งาน DLSS ประสิทธิภาพที่ทำออกมาได้ 3 เท่าตัว
แน่นอนว่า GeForce RTX 20 และ 30 Series นั้นมีเทคโนโลยี Ray Tracing ที่ให้ความสวยงามของภาพ ให้แสงตกกระทบต่างๆที่มีความสมจริงมากขึ้น ขนาดในเกม LEGO Bulider's Journey ที่แสงตกประทบดูสมจริงเหนือกว่าตัวต่อเลโก้ของจริงเสียอีก
ในส่วนของเทคโนโลยี Ray Tracing สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยี DLSS ขึ้นกับผู้พัฒนาของตัวเกม ที่จะเลือกใช้ Ray Tracing อะไรเพื่อความสมจริง
มาถึงเกม Necromunda: Hired Gun ประสิทธิภาพในการเปิดใช้งาน DLSS แบบ Performance ที่เฟรมเรทจะออกมาได้ประมาณ 2 เท่าตัว
Tom Clancy’s Rainbow Six Siege เป็นอีกหนึ่งเกมที่ออกมารองรับในช่วงของ Computex 2021 ที่ผ่านมา ในตัวเกมนี้นั้นความแตกต่างของเฟรมเรทอาจไมได้สูงขึ้นในระดับเท่าตัว แต่เฟรมของมันที่ทำออกมาได้จากการเปิดใช้งาน DLSS ถือเป็นประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดครับ
แน่นอนว่าการอัพเดทของเทคโนโลยี DLSS จาก NVIDIA ยังมีการพัฒนาประสิทธิภาพ และ การรองรับเกมที่มากขึ้น โดยผู้ใช้งาน GeForce RTX 20 และ 30 Series นั้นทำเพียงแค่การอัพเดทไดร์เวอร์กราฟฟิกการ์ดจาก NVIDIA ในเวอร์ชั่นล่าสุด ที่ทาง NVIDIA จะใส่การอัพเดทประสิทธิภาพ DLSS และการรองรับ DLSS เกมใหม่ๆ ใส่เข้าไปในไดร์เวอร์