ช่วงหลังๆนี้เราก็ได้เห็นราคาของ Memory และ SSD ล่อตาล่อใจกันมาซักพักใหญ่ๆ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็ตามกฏของ Demand / Supply หรือ อุปสงค์ / อุปทาน นั่นแหละครับ ด้วยความที่ของมันล้นตลาด กับความต้องการตลาดที่ไม่ได้มากเท่าจำนวนของ ราคาก็เลยถูกให้คนหาซื้อได้ง่าย แถมมีโปรลดแลกแจกแถมตาม Platform ต่างๆอีกมากมายเลย
แต่สำหรับไตรมาสที่ผ่านมา หรือ ไตรมาส 3 ของปีนั้น ทางบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ Memory ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ DRAM หรือ NAND ก็มีสถานะกลับสู่ฝั่งบวกอีกครั้ง โดยยอดขายนั้นมีเพิ่มมากขึ้น อันเป็นสัญญาณว่าสถานการณ์ Demand / Supply นั้นกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง .. ซึ่งแบบนี้ก็แปลว่าช่วงราคาดำดิ่งของสินค้าประเภท Memory และ Flash Storage กำลังจะถึงจุดจบซะที
เช่นเดียวกับอุปกรณ์คอมและสินค้าอิเล็กโทรนิกส์อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบด้านยอดขายจากช่วงโรคระบาด .. DRAM กับ SSD เหมือนว่าจะได้รับผลกระทบเยอะสุดเลย โดยราคานั้นก็มีการร่วงหล่นลงมาแล้ว 30% นับตั้งแต่เดือนมกราคม จนกระทั่งหยุดนิ่งในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา และเมื่อประมาณเดือนกว่าๆที่ผ่านมา บทวิเคราะห์ตลาดก็ระบุว่าตลาดตรงนี้อาจจะมีการกลับตัวเป็นฝั่งราคาขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มเห็นแล้วครับ
ทาง United Daily ของไต้หวัน ได้รายงานว่าบริษัทอย่าง ADATA, Phison, และ Teamgroup ก็ได้รายงานถึงยอดขายที่ดีในช่วงไตรมาส 3 หลังจากที่มีการสั่งลดจำนวนการผลิต .. อย่างเช่น Phison นี่มียอดเพิ่มขึ้น 60% ในแบบ Year-over-year กับกลุ่มตลาด SSD , ส่วนของฝั่ง Teamgroup ก็ได้เห็นยอดฝั่ง Business-to-business sale ดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้นกว่า 100% ในช่วงไตรมาสที่สาม ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้ประโยชน์อีกในช่วงปลายปีหรือเทศกาล Shopping ที่จะถึงนี้ , และทางฝั่ง ADATA ก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมมาด้วย ว่าราคาของ DRAM และ NAND จะเพิ่มขึ้น 10-15% เร็วๆนี้
สำหรับ TrendForce เองก็ได้คาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 4 ที่จะถึงนี้ ราคา Memory ไม่ว่าจะเป็น DDR5 หรือ DDR4 ก็จะขับขึ้นเริ่มต้นตั้งแต่ 3-8% เนื่องจากน่าจะมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นด้วยหลังจาก Processor ใน Gen ใหม่นี้เปิดตัว
ทั้งหมดนี้ก็เป็นผลมาจากการที่หลายๆบริษัทผู้ผลิต Memory นั้นร่วมมือกันลดกำลังการผลิตในช่วงไตรมาสก่อนหน้า เพื่อที่จะต่อสู้กับจำนวนสต๊อกที่ล้น และราคาที่ต่ำ จนตอนนี้ก็เหมือนว่าจะเป็นผลแล้วครับ จำนวนสินค้าอยู่ในสถานะที่เหมาะสมมากขึ้น และทางบริษัทก็จะยังคงลดการผลิตต่อเนื่องลงไปอีก เพื่อหวังให้ราคากลับมาอยู่ในจุดที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจอีกครั้ง .. ส่วนผู้บริโภค ถ้าต้องการจะซื้อ ก็แนะนำให้ซื้อในช่วงนี้เลย มิเช่นนั้นคุณอาจจะได้ของที่แพงกว่านี้ก็เป็นได้ครับ
ข้อมูล : TechSpot