เอาจริงๆเลยนะ ตอนแรกที่การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX เปิดตัวออกมา แอดมินก็คิดว่ามันก็ไม่น่าจะขายดีกว่าตระกูล GTX นั่นก็เป็นเพราะว่าราคาที่จัดว่าสูงกว่าอยู่พอสมควร รุ่นเล็กสุดที่มีก็คือ RTX2060 ซึ่งราคามันก็เฉียดๆหมื่นอยู่ เมื่อเทียบกับการ์ดจอตระกูล GTX แล้ว ก็ยังถือว่าสูงกว่ามาก .. แถมพวกเกมต่างๆในตลาดที่รองรับการใช้งาน Realtime Ray-Tracing อย่างเต็มรูปแบบ ก็ไม่ได้มีออกมาเยอะแยะอะไรมาก เลยทำให้รู้สึกเหมือนการซื้อการ์ดจอ RTX เป็นการวัดดวงซื้ออนาคตมากกว่า เราก็ไม่รู้ว่าต่อไปเรื่อยๆกระแส Ray-Tracing นี้มันจะจุดติดไหม และมีเกมเปิดตัวออกมามากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม NVIDIA ได้พยายามกระตุ้นตลาดอย่างหนักหน่วงตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งการเปิดตัว RTX Super ที่มีการอัพเกรดประสิทธิภาพขึ้นมากับราคาที่คุ้มค่ามากขึ้น ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่คนยอมกัดฟันจ่ายเงินเพิ่ม เพื่อซื้อการ์ดจอ RTX แทนที่จะอยู่กับการ์ดรุ่นเล็กที่ไม่มีฟีเจอร์ Realtime Ray-Tracing ประมาณว่า ซื้อทั้งทีก็เอาให้ครบๆไปก่อนเลยดีกว่า
ข่าวล่าสุดนี้ก็เป็นการยืนยันจาก NVIDIA เองเลยครับ ว่า RTX Series นั้นทำยอดขายได้ดีกว่าทีคาด .. อย่างที่ล่าสุดในงาน Credit Suisse Annual Technology Conference 2019 .. CFO ของทาง NVIDIA ก็ได้พูดเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท และเป็นครั้งแรกที่ทางบริษัทได้เปิดเผยอัตราส่วนยอดขายของการ์ดจอตระกูล RTX ด้วย ซึ่งก็ทำให้สื่อมวลชนหลายๆคนที่ไปทำข่าวตกใจกันบ้างเหมือนกัน
คำถามนึงที่ CFO อย่าง Colette Kress ได้รับก็คือเรื่องเกี่ยวกับยอดขายของการ์ดจอ RTX ว่าเป็นยังไง ซึ่งเธอก็ได้ตอบกลับมาว่า สำหรับตลาดการ์ดจอแยกสำหรับ Desktop แล้วนั้น จำนวน 2 ใน 3 ที่ขายไปเป็นการ์ดที่รองรับ Ray-Tracing ซึ่งถือเป็นกระแสตอบรับที่ดีจากตลาด .. ทำให้เป็นสัญญาณที่ดีว่าในอนาคตนั้นมาตรฐานของ Ray-Tracing ก็น่าจะมีอยู่ในหลายๆเกม และอาจจะไม่ได้หยุดอยู่แค่ PC ด้วยซ้ำ
ทีนี้หลายๆคนที่คิดว่า NVIDIA RTX อาจจะขายไม่ดีเท่า GTX ก็น่าจะได้คำตอบแล้วนะครับ ว่ามันไม่จริง แม้กระทั่งตัวแอดมินเองก็ต้องยอมรับว่าตัวเองคิดผิด .. อ๋อ แต่อันนี้เขาพูดมาแค่เรื่องการ์ดจอสำหรับ Desktop นะ พวก Notebook หรือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กพกพาทั้งหลาย ไม่เกี่ยว ซึ่งอันนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่า GTX หรือ RTX ขายดีกว่า
ข้อมูลจาก : wccftech