ข่าวคราวเกี่ยวกับการ์ดจอรุ่นใหม่ที่กำลังจะมาอย่าง GeForce RTX40 Series นั้น ถ้ามองกันในมุมของการบริโภคพลังงานแล้ว ก่อนหน้านี้เหมือนจะมีกระแสที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เนื่องจากข้อมูลที่โผล่ออกมานั้น สรุปไว้ประมาณว่าตัวการ์ดจะมีการบริโภคพลังงานอย่างมหาศาลจนถึงขั้นที่ต้องเปลี่ยนช่อง Power Connector และมีแววว่าผู้ใช้งานจะได้หา Power Supply กำลังไฟสูงๆมาใช้กันเลยทีเดียว
ล่าสุดหลังจากที่การ์ดเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการโดย NVIDIA แล้ว เราก็ได้เห็นผลทดสอบหลายๆอย่างออกมา ซึ่งครั้งนี้ดูเหมือนว่ามันจะทำได้ดีกว่าข่าวที่ว่าไปก่อนหน้า .. จริงอยู่ที่ตัวการ์ดมีความสามารถและระบบจ่ายไฟที่จัดว่าอลังการ แต่พอเอามาใช้งานจริงแล้ว เรากลับได้เห็นว่าตัวการ์ดรุ่นท๊อปสุด ที่ควรจะร้อนและบริโภคพลังงานมากที่สุดอย่าง GeForce RTX4090 นั้น กลับเย็น และประหยัดไฟกว่าที่คาด
รายงานจาก Wccftech ระบุไว้ว่า GeForce RTX4090 สามารถดัน Boost Clock ของตัวเองไปได้ที่ 2.8GHz (อยู่ในช่วง 2810MHz - 2850MHz) ในขณะที่เล่นเกม Cyberpunk 2077 ที่ความละเอียด 1440p ด้วยค่า Setting แบบ "Psycho" และปิดฟีเจอร์ DLSS กับ Reflex ตรงนี้ตัวการ์ดทำเฟรมเฉลี่ยออกมาได้ที่ 59FPS (49FPS ที่ 1% Low) และ Frame time ที่ 72-75ms ด้วย GPU ที่วิ่ง 100% .. อย่างไรก็ตาม ตัวการ์ดนั้นดูเหมือนจะยังทำงานแบบชิวๆและไม่ร้อนเลยด้วย เพราะอุณหภูมิของตัวการ์ดวิ่งอยู่ราวๆ 50-55c เท่านั้น !
แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือเมื่อเปิด DLSS 3 ที่เป็นฟีเจอร์การช่วย Boost Frame Rate ด้วย AI ที่มาในการ์ด RTX40 รุ่นใหม่นี้แล้ว เรายิ่งได้เห็นประสิทธิภาพที่น่าประทับใจมากกว่าเดิมอีกครับ ครั้งนี้เฟรมพุ่งขึ้นไปเกือบเท่าตัว ถึง 119FPS (1% low) และ Latency ก็เฉลี่ยที่ 53ms เท่านั้น และอีกอย่างเลยก็คือในเรื่องของการบริโภคพลังงานและการปล่อยความร้อน ที่จากเดิม ไม่ใช้ DLSS ตัวการ์ดกินไฟที่ 461W แต่พอเปิด DLSS3 ในโหมด Quality แล้ว มันลดลงมาเหลือ 348W หรือลดลงไปราวๆ 25% เลย
งานนี้ก็น่าจะพอสรุปได้ระดับนึงนะครับ ว่าการ์ดจอสมัยใหม่นี้ เราไม่สามารถมาวัดประสิทธิภาพแค่ของตัว GPU เพียวๆได้แล้ว เพราะว่ามันมีฟีเจอร์อะไรใหม่ๆมากมาย อย่างในกรณีนี้ที่เป็น DLSS ซึ่งจะสามารถลดภาระของ GPU ไปได้อีกพอสมควร Efficiency ของทั้งระบบก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน .. แต่ตรงนี้ก็มีข้อเสียอยู่บ้างครับ แม้ว่าฟีเจอร์พวกนี้จะเข้ามาช่วยได้จริง แต่ก็ต้องยอมรับว่าถ้าสมมุติตัวเกมนั้นไม่ได้รองรับฟีเจอร์เหล่านี้เลย ก็แปลว่าก็ต้องกลับไปใช้พลังของ GPU เพียวๆอยู่ดี ซึ่งการทำแบบนี้แล้ว ทางบริษัทเกมก็ต้องทำงานคู่กับค่ายการ์ดจอมากขึ้น บางทีอาจจะมีเรื่องการฮั้วกันเพื่อล๊อคแบรนด์ให้ใช้การ์ดจอของค่ายนู้น ค่ายนี้เท่านั้น เป็นการทำการตลาดอีกอย่างของผู้ผลิตการ์ดจอนั่นแหละ
ส่วนถ้าเอาไปประมวลผลจริงๆ ที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีอะไรของแบรนด์เลย แบบดัน Full Load ด้วยตัวโปรแกรมสำหรับเทสท์อุณหภูมิและการบริโภคพลังงานโดยเฉพาะ อันนั้นเราอาจจะได้เห็นตัวเลขที่ออกมาอีกแบบเลยก็ได้นะครับ .. แต่อันนี้ก็อาจจะไม่ต้องซีเรียสเท่าไหร่ เพราะคนปกติก็คงไม่มีใครมานั่งทดสอบอะไรพวกนี้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
ข้อมูล : TechPowerUp