สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน กับวันที่ 7 เดือน กรกฎาคม 2562 เป็นฤกษ์งามยามดีกับการเปิดศักราชใหม่ของซีพียูจากทาง AMD กับซีพียู Ryzen ในยุคที่สาม กับการใช้พื้นฐานสถาปัตยกรรม Zen 2 โดยใช้ขนาดขบวนการผลิต 7nm บนแพ็คเกจ AM4 ที่เหล่าบรรดาสาวกและผู้ที่สนใจ AMD นั้นได้รอคอยกันมาอย่างยาวนานนั้นเอง สำหรับวันนี้ผมก็คงไม่ได้พูดรายละเอียดของ AMD Ryzen 3000 หรือ 3rd Gen Ryzen กันมากมายนักเพราะมันมีแยกย่อยหลากหลายโมเดลมาก เดี๋ยวเอาไว้มีเวลาจะมาเขียนแยกในส่วนนี้กันเพิ่มเติมก็แล้วกัน ซึ่งวันนี้ผมได้รับ AMD Ryzen 9 3900X ที่เป็นโมเดลสูงสุดของ 3rd Gen Ryzen ที่เข้ามาตอบโจทย์คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงทั้งการเล่นเกม การทำงาน และ งานสร้างสรรค์ต่างๆ
AMD Ryzen 9 3900X ที่จะมี 12 คอร์ 24 เทรด บนความเร็วสัญญาณนาฬิกา 3.8 Ghz ยังสามารถเพิ่มความเร็วได้สูงสุดที่ 4.6 Ghz กับการปรับแต่งมาตรฐาน พร้อมกับแคชรวม 70MB ที่มีค่า TDP 105 Watt
การออกแบบของ AMD Ryzen 3000 ที่จะมีการใช้งานที่ดีที่สุดเมื่อใช้งานร่วมกับเมนบอร์ด AMD X570 ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพ ,การประมวลผล และ การเชื่อมต่อ ได้อย่างดีเยี่ยมในยุคสมัย 2019 ที่ในเวลานี้ในคู่แข่งระดับราคาซีพียูที่ใกล้เคียงกัน ยังต้องมองค้อนกับยุคล่าสุด
พื้นฐานสถาปัตยกรรม ZEN 2 ที่ยังคงใช้หลักการ SMT มาใช้ ที่มีการปรับปรุงให้สามารถประมวลผลได้ดีมากขึ้น พร้อมกับชุดคำสั่งมากมาย ที่ช่วยทำให้การประมวลผลต่างๆ ทำงานได้เร็วมากขึ้นนั้นเอง
ความคุ้มค่าในการใช้พลังงาน Ryzen 3000 ที่แน่นอนว่าสามารถทำออกมาได้ดีกว่า Ryzen 2000 ทั้งด้านประสิทธิภาพต่อวัตต์ และ การใช้พลังงานโดยรวมของซีพียู
เหตุที่ผมบอกว่า 3rd Ryzen Gen นั้นมีรายละเอียกมากมาย เพราะมันยังมีโมเดลแยกย่อยอีกมาก โดยในเวลานี้ Ryzen 9 3900X จะเป็นโมเดลสูงสุดในตระกูล
จุดเด่นที่ในเวลานี้คู่แข่งยังไม่มีกับiรองรับ PCI-e 4.0 เมื่อใช้งานร่วมกับเมนบอร์ด AMD X570 ที่ในเวลานี้เราก็จะเห็น SSD M.2 และ กราฟฟิกการ์ด AMD Radeon RX 5700 นั้นรองรับในส่วนนี้ นอกจากนั้นทาง AMD ก็ได้มีการปรับปรุงจุดด้อยต่างๆของ พื้นฐานสถาปัตยกรรม Zen และ Zen + สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในยุคของเมนบอร์ดชิพ AMD X570 เป็นอีกหนึ่งยุคที่ผู้ผลิตเมนบอร์ดนั้นออกเมนบอร์ดใหม่กันเยอะมาก รวมไปถึงฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ที่มีมาให้ใช้งานกันอย่างอลังการงานสร้าง
อีกหหนึ่งชุดเด่นของ AMD Ryzen 3000 คือแบนวิธ PCI-e บนตัว CPU นั้นมีสูงมาก ที่รองรับการเชื่อมต่อกราฟฟิกการ์ดและอุปกรณ์ออนบอร์ดอื่นๆอีกมากมาย และแน่นอนว่าเป็นยุคใหม่กับ PCI Express 4.0
ในยุค AMD Ryzen 3000 ที่สามารถโอเวอร์คล็อกความเร็วเมโมรีไปได้สูงมากขึ้น ระดับ 4000 Mhz กับ AMD นั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างไรกันแล้ว แต่ในจุด 3600 Mhz เป็นความคุ้มค่าต่อเงินที่จ่ายมากที่สุด แต่ในแง่ประสิทธิภาพที่ดีแบบไม่ต้องลงทุนมากเกินไป คือ 3733 Mhz นั้นเอง
AMD Ryzen 9 3900X นั้นจะมาพร้อมกับชุดระบายความร้อน AMD Wraith Prism Cooler หน้าตาจะดูเหมือนๆเดิม แต่ปีนี้รองรับการปรับแสงสีร่วมกับ RAZER CHROMA
Precision Boost 2 ที่ช่วยยกประสิทธิภาพของ AMD Ryzen 3000 ให้สูงมากขึ้น โดยการเพิ่มความเร็วนั้นจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการระบายความร้อน ซึ่งแน่นอนการใช้งานจริงนอกจากชุดระบายความร้อน ก็ยังต้องมาใส่ใจกับการระบายอากาศภายในเคสอีกด้วยครับ
Package & Bundled
แพคเกจของ AMD Ryzen 3000 Series โดยภาพรวมจะเป็นธีมสีเทาและส้ม เช่นเดียวกับเดียวกับ AMD Ryzen ยุคที่ผ่านมา แต่จะเปลี่ยนรูปแบบของกล่องให้ดูพรีเมี่ยมมากขึ้น ในชุดจะมีคู่มือ ,ชุดระบายความร้อน และ สติกเกอร์ติดหน้าเครื่อง
CPU Detail
รูปแบบของตัวหน่วยประมวลผล ที่จะเป็น AMD แบบดั่งเดิมมาตั้งแต่ในยุค AMD Athlon 64 ก็เรียกได้ว่าเป็นสิบปีก็ยังคงเดิม เพิ่มเติมมาคือจำนวนขาตามแต่ละซ็อกเก็ต ที่จะเป็นกระดองครอบคอร์พร้อมกับการยิงเลเซอร์รายละเอียดต่างๆมาตามแบบฉบับของ AMD เรียกได้ว่าซีพียูตัวเดียวผ่านมา 3 ประเทศ คือสหรัฐอเมริกา ,ไต้หวัน และ สุดท้ายประกอบที่จีน
แพ็คเกจ AM4 ที่รองรับการใช้งานร่วมกับเมนบอร์ด 300 Series , 400 Series และ 500 Series
ชุดระบายความร้อน AMD Wraith Prism กับชุดระบายความร้อนขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมกับครีบอลูมิเนียม ผสานกับหน้าสัมผัสทองแดง และ ท่อฮีทไปท์ทองแดงแบบสัมผัสตรงกับกระดองซีพียู การยึดเป็นขาเกี่ยวแบบดั่งเดิมสไตล์ AMD
ในจุดนี้จะมีสาย USB และ RGB สำหรับการเชื่อมต่อลงเมนบอร์ด โดยทางด้านขวาในภาพจะเห็นสวิทซ์เลื่อนปรับระดับความแรงพัดลม
การเชื่อมต่อของพัดลมจะเป็น 4 Pin PWM พร้อมกับหุ้มสายถักมาอย่างสวยงาม
ฐานหน้าสัมผัสที่มีซิลิโคนมาให้พร้อมใช้งาน โดยในส่วนสาย USB และ RGB จะใส่มาในพลาสติกกันรอยหน้าสัมผัส
ฐานหน้าสัมผัสในส่วนทองแดง และ ท่อฮีทไปท์ทองแดง นั้นจะสัมผัสตรงกับกระดองของซีพียู เพื่อช่วยกันถ่ายเทคความร้อนในการระบายออกไปของครีบอลูมิเนียม
ในส่วนของ AMD Ryzen 9 3900X จะใช้รหัสการพัฒนา Matisse
12 Core 24 Threads ใน AMD Ryzen 9 3900X ที่จะร่วมด้วยช่วยกันประมวลผลการใช้งานด้านต่างๆ
System Setup
ระบบที่ใช้ในการทดสอบ
- M/B : ASRock X570 Taichi
- VGA : AMD Radeon RX 5700XT
- Memory : G.Skill Trident-Z Royal 3600Mhz 16GB Kits
- CPU Cooler : Stock Cooler
- SSD : Silicon Power A56 256GB
- PSU : FSP 1200 Watt
- OS : Windows 10 Pro (1903)
โปรไฟล์การจัดการพลังงานที่ใช้ในการทดสอบคือ AMD Ryzen High Performance
บรรยากาศขณะการทดสอบ
Performance Test
Conclusion
AMD Ryzen 9 3900X ก็เป็นพี่ใหญ่สุดของ 3rd Gen Ryzen แพ็คเกจ AM4 รหัสการพัฒนา Matisse ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกระแสประสิทธิภาพในการหน่วยประมวลผลการจาก AMD ที่โดยภาพรวมถึงแม้ตัวซีพียูนั้นราคาช่วงประมาณเกือบสองหมื่นบาท แล้วก็ต้องมาลงทุนกับเมนบอร์ดชิพ AMD X570 เพื่อให้ใช้งานการเชื่อมต่อได้อย่างทันสมัย พร้อมกับการรองรับ PCI-e 4.0 ที่มีให้เลือกตั้งแต่ หลักพันจนถึงประมาณสามหมื่นบาทนั้นเอง แต่ถ้าใครมีเมนบอร์ดชิพ AMD 300 หรือ 400 Series ก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน แต่การใช้งานจะด้อยกว่าการใช้ชิพ AMD X570 อย่างไม่ต้องสงสัย เดี๋ยวถ้ามีเวลาเราจะมาทดสอบประสิทธิภาพในส่วนนี้ให้ชมกัน โดยภาพรวมของ 3rd Gen Ryzen กับการทดสอบ AMD Ryzen 9 3900X ที่การเป็นซีพียู 12 คอร์ 24 เทรด พร้อมกับการบูสความเร็วได้สูงสุด 4.6 Ghz ที่ทำให้ AMD Ryzen 9 3900X สามารถตอบสนองกับการใช้งานได้ดีกับการใช้งานทั่วไป ,การเล่นเกม และ การทำงาน ได้อย่างมี่ประสิทธิภาพ ในแง่มุมของการโอเวอร์คล็อกก็ยอมรับว่ายังไม่มีเวลาในการทดลองมากมายนัก เนื่องจากเวลาจำกัดและไบออสเมนบอร์ดหลายตัวที่ผมได้รับมา มันยังไม่ค่อยเนียนในการโอเวอร์คล็อกเท่าไรนัก สำหรับคำแนะนำสั้นๆโอเวอร์คล็อกความเร็วให้สูงกว่า Boost Clock ครับ แต่กับการโอเวอร์คล็อกเมโมรีทีโดยส่วนตัวที่เรียกได้ว่าทำได้ดีมากขึ้น เมื่อเทียบกับ Ryzen ในยุคก่อน เอาแค่กดเปิด XMP กับแรมทุกคู่ที่ผมมีอยู่สามารถเปิดติดสบายๆ ก็รู้สึกว่า AMD มีการพัฒนาและปรับปรุงจุดด้อยจากยุคก่อนหน้านี้ได้ดีมากขึ้น นอกจากการพัฒนาของ AMD เองแล้ว ทาง AMD ก็ได้มีความร่วมมือกับ Microsoft ที่เราจะเห็นการพัฒนาของ Windows 10 อัพเดท 1903 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลของพื้นฐานสถาปัตยกรรม Zen ได้อีกด้วย คาดว่าในการอัพเดทของ Windows 10 ตัวใหม่ๆหลังจากนี้ เราก็จะได้เห็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานและการประมวลผลของ 3rd Gen Ryzen ได้ดีมากขึ้นกว่าการทดสอบครั้งนี้ สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Price : N/A บาท
Special Thanks : AMD Far East | Thailand