สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซน ในกลุ่มโน้ตบุ๊คเครื่องบางเบา ที่แน่นอนว่าหลายคนที่ต้องนึกถึง VivoBook จาก ASUS แน่นอน ซึ่ง VivoBook 14 S413EA ที่ออกมาในปี 2021 ที่ใช้หัวใจหลัก 11th Gen Intel Tiger Lake กับการใช้งานทั่วไป การทำงานเบาๆ การเล่นเกมฆ่าเววลา ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี ใช้งานโดยไม่ต้องพึ่งที่ชาร์จแบตได้อย่างยาวนาน ซึ่ง ASUS VivoBook 14 โมเดล S413EA-EB125TS ด้วยหัวใจหลัก Intel Core ถึง 11th Gen พร้อมกับทางด้านการออกแบบและฟีเจอร์ที่ทาง ASUS ใส่เข้ามาให้ใช้งาน พร้อมใช้งานด้วย Windows 10 Home และ Office 2019 ลิขสิทธิ์แท้ ก็นับว่าเป็นการใช้งานที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายกับการใช้งานโน้ตบุ๊คในปี 2021
ASUS VivoBook ก็เป็นอีกหนึ่งตระกูลที่ออกแบบมาเรียบง่าย แต่แอบซ่อนความโดดเด่นเอาไว้ ใครคิดว่าโดดเด่นไม่พอ มีสติกเกอร์ลายกราฟฟิตี้ตบแต่งตัวเครื่อง
ASUS VivoBook 14 S413EA
VivoBook 14 ในโมเดล S413EA-EB125TS ที่เราได้รับมาทำการทดสอบนั้นจะมีเพียงสีเดียวกับด้วยสี INDIE BLACK หรือ สีดำแบบผิวด้าน บอดี้ภายนอกออกแบบมาดูเรียบง่าย ด้วยการออกแบบให้ตัวเครื่องดูดีมีราคาในราคาตัวเครื่องที่จับต้องได้ พื้นผิวภายนอกทำออกมาให้รู้สึกสัมผัสแล้วตัวเครื่องมีราคาแพง ด้านหน้าตัวเครื่องที่การปั๊มโลโก้ ASUS VivoBook สีเงินที่ดูโดดเด่นแต่ยังคงความเรียบง่าย
สติกเกอร์ลายกราฟฟิตี้ ติดตบแต่งเครื่อง ที่่ทำให้เครื่องที่ออกแบบมาดูเรียบหรู มีความโดดเด่นมากขึ้น
เมื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาเราจะเห็นโลโก้ ASUS VivoBook มุมมองจากการใช้งานดูมินิมอลที่มันเป็นสไตล์ของ ASUS ตัวเครื่องบาง 17.9 มม. หน้าจอที่เราเห็นนั้นจะเป็น Panel IPS ขนาด 14 นิ้ว ขอบหน้าจอ NanoEdge ใช้พื้นที่ 84% ของตัวเครื่อง ผิวด้าน สัดส่วน 16:9 ความละเอียด FullHD / 1920x1080
กล้อง Web Cam ความละเอียดระดับ HD พร้อมไฟ LED สีขาวเพื่อให้ทราบถึงการทำงานของซึ่งแน่นอนว่ามีความจำเป็นในการใช้งานสมัยนี้อย่างมากในยุคของการ Work From Home หรือ การเรียนออนไลน์ โดยยังจะมาพร้อมกับไมค์ตัดเสียงรบกวนที่มีการใช้ระบบ Ai เข้ามาช่วยประมวลผล ที่ทาง ASUS จะเรียกว่า AI noise canceling mic
Notebook ในกลุ่ม Thin & Light ผู้ใช้งานบางรายมักจะมีความใส่ใจกับการเปิดหน้าจอด้วยนิ้วเดียว VivoBook 14 S413EA ยังไม่สามารถได้เนียน
การกางหน้าจอนั้นไม่สามารถกางราบ 180 องศาได้ กางการใช้งานแบบปกติตามการใช้งานพื้นฐาน แต่ถ้าเกิดมีอะไรกระแทกหน้าจอเวลาใช้งาน การรองรับของมันถือว่าออกแบบได้ดี
มาถึงคุณภาพของ Panel IPS ขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว ผิวด้านที่หมดปัญหากับแสงสะท้อน ในสัดส่วน 16:9 การใช้งานนั้นก็มาตรฐานของมอนิเตอร์ยุคสมัยนี้ สีสันของหน้าจอที่ไม่ได้โดดเด่น แต่มันก็ลงตัวกับการใช้งานได้รอบด้าน ถ้าจะใช้งานด้านกราฟฟิกที่ต้องการความถูกต้องของสีควรจะต้องมาการปรับจูนสีเพิ่มเติม แต่มันสู้กับโน้ตบุ๊คระดับตระกูลและราคาแพงกว่านี้ไม่ได้
มาถึงทางด้านของ Keyboard และ Touchpad ในการวางตำแหน่งของ Touchpad ที่ตำแหน่งค่อนข้างสมมาตรในการใช้งานจริง ปุ่มพาวเวอร์อยู่ในแป้นพิมพ์ชุดเดียวกัน ส่วนใครที่พิมพ์สัมผัสแล้วมีปัญหาลั่นโดนปุ่มพาวเวอร์ แนะนำว่าไปตั้งให้ปุ่มพาวเวอร์ไม่สามารถสั่งการอะไรได้ในขณะการใช้งาน
แป้นพิมพ์แบบ Chiclet Keyboard ซึ่งจุดที่โดดเด่นด้วยปุ่ม Enter เป็นสีเขียวสะท้อนแสง ที่ดูโดดเด่น
ทางด้านของ Keyboard จะเป็นลักษณะ Full Size จะมีไฟ LED สีขาว ปรับระดับความสว่างได้ 2 ระดับ พร้อมกับไฟ LED แสดงสถานะที่ปุ่ม Caps Lock และ ปุ่มพาวเวอร์ ระยะการลงน้ำหนักระยะ 1.4 มม. ลงตัวกับการพิมพ์สัมผัสและการจิ้มพิพม์ ในการใช้งานของคนไทยที่มักชัดปุ่มตัวหนอนเปลี่ยนภาษา ขนาดเล็กกว่าแป้นพิมพ์อื่นๆ ปัญหาในการใช้งานของคนนิ้วมันหรือมีเหงื่อออกเวลาใช้งาน จะเกิดปัญหาคราบได้บ้าง แต่ถือว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่โต
Touchpad โดยจะเป็นการสั่งการบนพื้นที่แผ่นเดียวกันหมด ไม่มีปุ่มคลิกแยกให้เห็นชัดเจน การควบคุมถือว่ามีความแม่นยำในการใช้งานได้ดีพอสมควร ตัดขอบที่ดูสวยงามและเหลือบมองได้ง่ายมากขึ้น
พอร์ตการใช้งานทางด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมี จุดเสียบพาวเวอร์ซัพพลาย / HDMI / USB 3.2 Gen 1 Type-A / USB 3.2 Gen 1 Type-C และ Audio Combo 3.5 mm. ทางด้านขวา USB 2.0 Type-A / MicroSD Reader / ไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน และ ไฟ LED แสดงสถานะการชาร์จ
การออกแบบด้านใต้เครื่องที่มีช่องเพื่อนำอากาศจากภายนอกเข้าไปสู่พัดลมสองตัวข้างใน พร้อมรับฐานยางรองวางสี่จุด ตัวเครื่องนี้ไม่สามารถอัพเกรดแรมได้ เพราะมันได้ใช้ DDR4 ออนบอร์ด 8GB สิ่งที่สามารถอัพเกรด (เปลี่ยนแทนของเดิม) ได้คือ SSD M.2 NVME และ การ์ด Network พร้อมกับใส่ SSD M.2 NVME ตัวที่สองได้ ลำโพงนั้นใส่มาสองตัวที่ถูกจูนเสียงโดย Harman Kardon ถ้าเทียบกับราคาตัวเครื่อง เสียงที่ออกมา มีความดัง เสียงกลาง เสียงแหลม ฟังได้เพลินๆ โดยปัญหาของลำโพงโน้ตบุ๊คมัน เสียงความถี่ต่ำหรือเสียงเบสนั้นจะทำได้ไม่ดี
นอกจากฟีเจอร์ตต่างๆที่ใส่มานั้น สิ่งที่น่าสนใจในการใช้งานยุคสมัยนี้คือ My ASUS ช่วยทำให้การใช้สมาร์ทโฟนทำได้อย่างไร้รอยต่อมากขึ้น
ASUS VivoBook 14 S413EA Detail
ASUS VivoBook 14 โมเดล S413EA-EB125TS ที่เราจะมาทำการทดสอบในวันนี้ ใช้ Intel Gen 11 Mobile สถาปัตยกรรม Tiger Lake ในโมเดล i5-1135G7 กราฟฟิกจะใช้ออนซีพียูที่เป็น Intel Iris Xe แรมติดตั้งมาให้ 8GB แบบ DDR4 พร้อมกับ SSD NVMe ขนาด 512GB
SSD ที่ติดตั้งมาให้จะเป็นของทาง Intel ระบบเครือข่ายการเชื่อมต่อไร้สาย Intel AX201 ที่รองรับ WiFi 6 และ Bluetooth 5.1 ถ้ามองในแง่เทคโนโลยีการใช้งานยุค 2021 ตอบโจทย์ได้ดี ทางด้านการใช้งานต่างๆเช่น กล้องเว็บแคม พร้อมไมค์ ในรายละเอียดของ Windows เห็นได้ครบถ้วน
Performance
มาถึงการใช้โปแกรมการทดสอบที่สอง PCMark10 ที่จะเป็นการทดสอบในการใช้งานจริง โดยตัวการทดสอบจะใช้ Software จริง ที่ภาพรวมรูปแบบการทดสอบจะยังคงเน้นทางด้านการใช้งานด้านต่างๆ จากคะแนนที่ออกมาจากการทดสอบ มีประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดี ทั้งการใช้งานทั่วไป การทำงานเอกสาร และ การสร้างสรรค์ผลงาน
การเรนเดอร์แบบ Cinema 4D ด้วยข้อจำกัดของความเป็นโน้ตบุ๊ค ที่ความร้อนจะมีปัจจัยต่อประสิทธิภาพกันบ้าง แต่จากที่ทดสอบมานั้น ใช้งานต่อเนื่อง หรือ ใช้งานนักมาก ประสิทธิภาพยังคงสามารถคงความแรงได้อยู่
มาต่อที่การเล่นเกมกันบ้าง Intel iRIS Xe เหมาะสมกับคำว่า Casual gaming หรือ การเล่นเกมฆ่าเวลา ตามสเป็คหน้าจอ อาจมีเหนื่อย ลดความละเอียดลงมาที่ 720p หรือ เกมที่ไม่กินสเป็คมาก 1080p พอเล่นได้ครับ
SSD ที่ติดตัวมาในเครื่องทำประสิทธิภาพทำออกมาพอใช้ได้ อัดการทดสอบหนักหน่วง ยังถือว่าออกมาได้นิ่ง แรงดีไม่มีตก แต่ถ้าต้องการความสุดของประสิทธิภาพ ก็สามารถอัพเกรดไปใช้ NVMe PCIe Gen ตัวที่ความเร็วสูงกว่านี้ เพื่อความเร็วที่เหนือชั้นมากขึ้น
น้ำหนักตัวเครื่อง
ตัวเครื่องน้ำหนักประมาณ 1.42 กิโลกรัมนั้น ถ้าเทียบกับกลุ่มคู่แข่งเครื่องบางเบาเช่นเดียวกัน น้ำหนักอยู่ระดับมาตรฐาน แต่ถ้าต้องพกพาที่ชาร์จแบตไปด้วยกัน น้ำหนักที่ต้องแบกไปด้วยจะอยู่ที่ 1.56 กิโลกรัม ก็ถือว่าหนักเพิ่มมาอีกพอสมควร แต่ถ้าใช้งานทั่วไปโดยไม่ต้องพึ่งที่ชาร์ตแบตระดับ 8-10 ชั่วโมง เครื่องตัวนี้เท่าที่ผมทดลองดูใช้งานได้สบาย ระยะเวลาขึ้นกับความหนักหน่วงในการประมวลผล
Conclusion
ASUS VivoBook 14 โมเดล S413EA-EB125TS ในจุดของการใช้งานที่ถือว่ามันสามารถตอบสนองกับการใช้งานดีในการใช้งานทั่วไป การแต่งภาพ การตัดต่อวีดีโอ และ เล่นเกมฆ่าเวลา ได้น่าสนใจ ซึ่งการออกแบบของตัวเครื่องที่มีความบางเบา พกพาสะดวก น้ำหนักไม่สูงมาก พร้อมกับการออกแบบดีไซน์ที่ดูเรียบหรูดูดี แต่ก็พร้อมกับการออกแบบที่ยังคงแอบซ่อนความโดดเด่นเอาไว้ จากสเป็คแบต 42WH การใช้งานนอกสถานที่ ซึ่ง ASUS VivoBook 14 โมเดล S413EA-EB125TS สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างยาวนาน โดยไม่จำเป็นต้องพกที่ชาร์จแบต นอกจากนั้น ASUS VivoBook 14 S413EA ยังมีทางเลือกของสเป็คที่ลงตัวกับงบประมาณที่พร้อมจ่ายได้ สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Price : 23,990 บาท
Special Thanks : INTEL (THAILAND) #Sponsoredbyintel
ช้อปออนไลน์ได้ที่
BaNANA (Intel Core i3) https://www.bnn.in.th/th/p/asus-notebook-vivobook-14-s413ea-eb124ts-4718017928274_zgq9vr