นี่คือเมาส์ไร้สายตัวจิ๋วหนึ่งเดียวจาก Razer ที่หวนกลับมาในปีนี้อีกครั้งพร้อมกับสีขาวนวลตา ซึ่งเป็นหนึ่งในเกมมิ่งเกียร์ชุดคอลเลกชั่น Mecury White แน่นอนว่าในรุ่นใหม่ด้วยกันก็ยังมีเวอร์ชัน Stormtrooper ซึ่งทางผู้ผลิตยืนยันว่า มันคือซีรีส์เมาส์เกมมิ่งสำหรับแลปทอปที่ดีที่สุด ดีไซน์ให้จับใช้งานได้ทั้งสองมือ ใช้งานด้วยแบตเตอรี่ได้ยาวนาน 350 ชั่วโมง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นชาวออฟฟิศหรือนักศึกษาที่นิยมเมาส์ขนาดพกพา ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

ก่อนจะไปเรื่องของคุณสมบัติหลักๆ ของมัน สิ่งแปลกๆ ที่เราสัมผัสได้นั่นก็คือ มันมีน้ำหนักมากกว่าเมาส์เกมมิ่งขนาดกลางบางรุ่นเสียอีก (Kinzu V2) หลักจากติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด AA เข้าไปถึง 2 ก้อน ตรงนี้ถ้าใครใช้เมาส์หนักๆ มาตลอดคงไม่รู้สึกอะไร ประการที่ 2 ก็คือ การปรับค่า DPI ที่แม้ทำได้ง่าย แค่กดปุ่ม แต่ผู้ใช้ต้องลงซอฟต์แวร์เพื่อแก้ไขค่า DPI ทั้ง 5 ชุดให้เหมาะสมของแต่ละคน ซึ่งตรงจุดนี้เอง มันมีค่าเบี่ยงเบนจากที่เคยใช้อยู่ปกติ 1600DPI บนเมาส์หลายๆ ตัว จะต้องปรับลดลงมาที่ 1500 DPI เพื่อให้พอดีหรือใกล้เคียงกับเมาส์ที่ใช้งานอยู่ (Kinzu V2 :1600dpi) แถมบางครั้งมันก็ยังมีอาการ“ไถล” ตรงนี้ให้ผลลัพธ์ต่างจากเมาส์ Razer หลายๆ ตัวที่เคยรีวิวมา

Specifications

• ใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 350 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ AA จำนวน 1 คู่
• เซนเซอร์ออปติคอล 7200 DPI
• เชื่อมต่อด้วย Bluetooth LE และคลื่น 2.4GHz พร้อมด้วยเทคโนโลยี Adaptive Frequency
• ค่า Polling Rate ความถี่ 1000Hz
• รองรับซอฟต์แวร์ Razer Synapse 3
• ขนาด 99.7x62.8x34.1 มม. น้ำหนักไม่รวมแบตเตอรี่ 66 กรัม

ผิวของเมาส์ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว เนื้อผิวแบบ Matte ให้ความรู้สึกในการจับใช้งานที่ดี ไม่ติดมือ แต่ก็ไม่ลื่นเช่นกัน ขณะที่ผิวด้านข้างจะมีการวางกริปยางที่มีเท็กซ์เจอร์ลายเส้น บริเวณจุดนี้จะลาดเอียงเข้าทางด้านหน้าของตัวเมาส์ ดังนั้นการจับใช้งานจึงเข้ากับรูปมือได้ดีพอสมควรและช่วยลดอาการเมาส์หลุดจากอุ้งมือได้ระดับหนึ่งด้วย ในบางมุมจะเห็นว่า รูปทรงของเมาส์จะไม่ได้แบนราบไปกับพื้น มีการยกตัวขึ้นด้านหลังและลาดเอียงลง จุดสอดรับกับอุ้งมือเหนือข้อมือขึ้นมา ดังนั้นการใช้งาน บอกได้เลยว่า ข้อมือของคุณจะวางราบไปพื้นโต๊ะได้สบายๆ เลย

สำหรับปุ่มต่างๆ บนเมาส์ก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย มีปุ่ม Forward-Back ฝั่งซ้าย ปุ่มปรับ DPI แบบ On-the-fly ที่บันทึกค่าไว้ 5 ชุด ขณะที่ปุ่ม Scroll Wheel จะเป็นแบบ Tactile ให้ความรู้สึกของการหมุนหรือเลื่อนได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่า มันเป็นเกรดระดับเกมมิ่ง

ทาง Razer ถือว่าใส่ใจกับการออกแบบเมาส์ตัวนี้ระดับหนึ่งเลย ไม่ได้ติดตั้งฐานยางมาแบบง่ายๆ เหมือนกับเมาส์ไร้สายในตลาด แต่ให้มาเป็นแผ่นๆ และยังล้อมรอบตำแหน่งเซนเซอร์ด้วย มองด้วยตาเปล่าน่าจะกินพื้นที่ไปเกือบ 30% ตรงนี้ ส่วนการเลือกสัญญาณเชื่อมต่อหรือปิดเปิดเมาส์ก็อยู่ในตำแหน่งเดียวกัน 

การใส่แบตเตอรี่ทำได้ง่าย เพียงแค่งัดส่วนท้ายของเมาส์ขึ้น ไม่ได้มีเขี้ยวหรือล็อกอะไร แต่อาศัยแม่เหล็กยึดเกาะกับน็อตตัวเล็กๆ จุดเดียวทางด้านล่าง ฝาด้านบนมีรองกดแบตเตอรี่ ตรงจุดนี้มีข้อตำหนิเล็กน้อยตรงขั้วสปริงแบตเตอรี่ฝั่งซ้าย เนื่องจากด้านในใช้สปริงกับขั้วบวก ส่งผลให้การใส่หรือการถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ไม่ค่อยสะดวกอย่างที่ควรจะเป็น

Software Adjustment
เมาส์ Atheris Mercury White ไม่ได้มาพร้อมกับไฟ RGB ดังนั้นการปรับแต่งบนซอฟต์แวร์ Synapse จึงทำได้จำกัด แน่นอนว่า เมาส์ของ Razer ทุกรุ่น เมื่อเสียบใช้งานครั้งแรกจะแสดงหน้าป็อบอัพให้เราโหลดซอฟต์แวร์ทันที สะดวก ไม่ต้องไปหาที่ไหน ขอปรบมือให้
แม้จะมีปุ่มมาให้น้อยสำหรับคอเกมสายมาโคร แต่เอาจริงๆ มันก็เพียงพอต่อการเล่นเกมระดับหนึ่งเลย เนื่องจากฟีเจอร์อย่าง Razer HyperShift ที่เพิ่มปุ่มเข้ามาอีกหนึ่งชุด ด้วยการตั้งค่าปุ่มที่ต้องการแล้วกดค้างและเรียกใช้งานปุ่มอื่นๆ ที่ทำการ Map เอาไว้ในกลุ่มของ HyperShift แน่นอนว่า ฟีเจอร์ในส่วนของการ Map ปุ่มก็ใช้งานได้ตามที่มีให้ในซอฟต์แวร์ รวมถึงการบันทึกมาโคร สังเกตบล็อกด้านล่าง คนใช้งานมือซ้ายก็ปรับใช้งานได้จากจุดนี้ ไม่ต้องไปปรับในตัวระบบปฏิบัติการให้ยุ่งยาก

ในส่วนของการตั้งค่า Performance การตั้งค่า Sensitivity กำหนดค่าให้กับปุ่มบนเมาส์ได้สูงสุด 5 Stage จะใช้หรือไม่ใช่หรือลดค่าก็ได้ แต่การตั้งค่าความไวนั้นถือว่า ไม่ละเอียดเท่าที่ควร เพราะกำหนดค่าได้ทีละ 100 DPI ซึ่งจริงๆ เมาส์ระดับนี้อย่างแย่ก็ควรได้สัก 25 หรือ 50 DPI เป็นอย่างน้อย ส่วนค่า Polling Rate ก็กำหนดได้ตามภาพ 3 ค่า ตรงนี้ใช้งานได้จริง เช็คแล้วจากโฮมเพจตรวจจับค่า Polling Rate

Performance
      การรีวิวในครั้งนี้ เราไม่สามารถเชื่อมต่อเมาส์ Atheris ผ่านสัญญาณบลูทูธได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องพีซีที่ใช้บลูทูธ 5.0 หรือแม้กระทั่งโน้ตบุ๊ก ดังนั้นจึงมีผลการใช้งานผ่านการเชื่อมต่อรีซีฟเวอร์ของมันเองเท่านั้น

      สำหรับซอฟต์แวร์ทั่วไปอย่างบราวเซอร์ โปรแกรมสำนักงานต่างๆ เมาส์ตัวนี้ให้ความรู้สึกในการใช้งานที่แตกต่างจากเมาส์ไร้สายทั่วไปอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นความไหลลื่นของการเคลื่อนไหว การขยับเข้าหาจุดที่ต้องการทั้งในแนวตั้งหรือแนวดิ่ง ขณะที่การใช้งานกับซอฟต์แวร์แต่งภาพ การไคตัดภาพทำได้ดีในภาพรวม สามารถขยับเข้าหาตำแหน่งที่ต้องการในเชิงละเอียดหรือขยับทีละเล็กที่ละน้อยทำได้น่าพอใจ แต่มันก็ไม่ได้เพอร์เฟคไปซะทุกอย่าง เนื่องจากเซนเซอร์ของเมาส์เหมือนกับมีการประมวลผลความเร่งเข้าไปด้วย ทำให้การสะบัดเมาส์เร็วๆ หรือการย้ายเคอร์เซอร์จากอีกฝั่งจอไปอีกฝั่งแบบเร็วๆ เกินอาการ “ล้น” ตรงจุดนี้ในความจริงมันมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างเช่น ขนาดของเมาส์ที่มีขนาดเล็ก (อาจไม่เข้ามืออย่างแรง) แผ่นรองเมาส์ การปรับค่า DPI ที่ไม่เหมาะกับการใช้งาน (ปรับเพิ่มลดครั้งละ 100 DPI)  ความคุ้นชินกับรูปทรงของเมาส์หรือค่า DPI

       ส่วนการเล่นเกม ผลของการเคลื่อนไหวของเมาส์ก็ไม่ต่างกันที่กล่าวมาข้างต้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกของเกมลดหายไป ขณะที่ฟังก์ชันเสริมในการใช้ซอฟต์แวร์อย่างการตั้งค่ามาโคร หรือการใช้ HyperShift ก็ใช้งานได้ดี แม้ว่าจะต้องกดปุ่มค้างไว้ก่อนสักปุ่มหนึ่ง อีกเรื่องหนึ่งที่ทำได้ดีก็คือ เรื่องของการรักษาระนาบของเคอร์เซอร์ ตรงนี้ไม่มีฟีเจอร์ Angel Snapping มาให้ แต่ด้วยการรายงานค่า การทำงานของเซนเซอร์ที่มีความสเถียร ดังนั้นการแกว่งไปมาของมุมกล้องแบบแย่ๆ ในเมาส์ทั่วไปจึงไม่เกิดขึ้น

Conclusion !!
      โดยส่วนตัวแล้วยังไม่ประทับใจกับเมาส์ Atheris Mercury White ในเรื่องของเซนเซอร์และการปรับค่า DPI เริ่มจากเซนเซอร์ก่อน หลักๆ ก็คือ มันยังมีอาการล้นอยู่เล็กน้อยแม้ปรับลงมาที่ความเร็ว 1500 DPI  ความแม่นยำในภาพรวมถือว่าดี หากว่าเป็นการเคลื่อนไหวความเร็วปกติหรือช้าๆ ไม่ได้แบบฉับพลัน  ส่วนค่า DPI ก็คือ การปรับแค่ค่าละ 100 DPI และเมื่อประกอบกับเมาส์ที่มีขนาดเล็ก การปรับตัวก็จะยากยิ่งขึ้น การปรับค่า DPI แบบละเอียดกว่านี้จะช่วยให้ความแม่นยำในการใช้งานเพิ่มสูงขึ้น สามารถปรับให้ใกล้เคียงกับเมาส์หรือกับความคุ้นชินดั้งเดิมได้ง่ายกว่า

       แต่ถ้าหากใครใช้เมาส์ไร้สายขนาดเล็กแบบนี้อยู่แล้ว และกำลังมองหาเมาส์ตัวใหม่ที่ดีกว่าเดิม ตอบสนองการเล่นเกมได้จริงๆ ขอแนะนำเมาส์ Atheris จะเป็นเวอร์ชันปกติ หรือ Mercury White ก็ได้ แล้วมันจะทำให้คุณลืมเมาส์ไร้สายที่เคยใช้งานอยู่ไปเลย

Thanks: Ascenti Resources Co., Ltd | ARC (www.ascenti.co.th)
Price: สอบถามตัวแทนจำหน่าย