ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 ที่รัสเซียนั้นประกาศทำสงครามกับยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ เราก็ได้เห็นพันธมิตรของฝั่งยูเครน ซึ่งก็คือประเทศโลกตะวันตกทั้งหลาย ได้มีการแบนไม่ทำการค้ากับรัสเซีย แน่นอนว่าการแบนแบบนี้ก็แบนสินค้าทุกประเภทจากฝั่งสหรัฐด้วย ไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผลต่างๆ จาก AMD และ Intel ทำให้ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา สินค้าหมวดเทคโนโลยีที่ต้องใช้การประมวลผลก็ราคาพุ่งขึ้นสูงหลายเท่าในรัสเซีย จนกระทั่งสินค้าเหล่านี้หมดไป จนผู้ใช้ต้องมีการหันไปใช้หน่วยประมวลผลของยี่ห้ออื่นๆ รวมไปถึงพยายามผลิตใช้กันเองในประเทศ
Processor ที่ยังเหลือรอดในรัสเซียก็จะเป็นจากบริษัท Baikai Electronics และ MCST ที่ไม่แน่ใจว่าใช้ Foundries ไหนในการผลิต แต่แน่นอนว่าไม่ใช่บริษัทสัญชาติไต้หวัน เพราะว่าไต้หวันเองก็จัดว่าเป็นพันธมิตรของสหรัฐซึ่งเป็นศัตรูกับทางรัสเซียผ่านสงครามตัวแทนที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตอนนี้
ปัจจุบันนี้ความต้องการของ CPU สัญชาติรัสเซียทั้งสองยี่ห้อนั้นก็พุ่งขึ้นสูง รวมไปถึงราคาก็ขยับขึ้นมาเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี สาเหตุก็แน่นอนว่าตามกฏของ Demand and Supply ก็คือความต้องการยิ่งสูงเท่าไหร่ ถ้าสินค้าในสต๊อกมีน้อย ราคาก็จะปรับขึ้นตามกลไลของตลาดนั่นเองครับ .. นอกจากนั้นก็คือต้นทุนการผลิตที่ขยับสูงขึ้น รวมไปถึงขั้นตอนในการขนส่งก็ซับซ้อนมากขึ้นด้วย
ปัจจุบันนี้พวกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในรัสเซียก็มีที่มาอยู่สองแหล่ง อันแรกก็จะเป็นการใช้ Processor ของประเทศตัวเองอย่างที่ว่าไว้ในบทความนี้ ส่วนอีกอย่างก็จะเป็นการใช้ Processor x86 ที่ถูกสั่งห้ามขายในประเทศไปตอนแรก แต่จะเป็นการ Import เข้ามาจากตัวแทน Grey Market หรือไม่ได้ถูกกฏหมายซะทีเดียว .. งานนี้ก็ได้เห็นเลยครับ ว่าพิษของสงครามนั้นรุนแรงแค่ไหน ไม่ใช่แค่มีคนบาดเจ็บล้มตายแล้ว แต่เรื่องการ Sanction ห้ามค้าขายด้วยเนี่ย มันก็หนักหนาไม่แพ้กัน เพราะกระทบกับภาคเศรษฐกิจไปทุกส่วนเลย ยิ่งเทคโนโลยี ชิปประมวลผลทั้งหลาย เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีในทุกวันนี้ด้วยแล้ว
ข้อมูล : Tom's Hardware