ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา เราก็ได้เห็นความต้องการของตลาดที่พุ่งขึ้นสูงอย่างมากเนื่องจากความจำเป็นในการใช้คอมพิวเตอร์สำหรับการ เรียน ทำงาน หรือ เสพคอนเทนต์ จากบ้านในช่วงกักตัว .. ตอนนั้นก็แน่นอนว่าแบรนด์ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทั้งหลายก็กวาดเงินกันไปอย่างมหาศาล นอกจากนั้นแล้วการขุด Cryptocurrency ที่บูมขึ้นมาในช่วงครึ่งปีหลังของ 2020 ก็สร้างกำไรให้กับผู้ผลิต Mainboard ทั้งหลายไปเป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน เพราะการจะขุด Crypto นั้น นอกจากจะต้องมีการ์ดจอแล้ว การ์ดจอเองก็ต้องถูกติดตั้งเข้ากับ Mainboard ถึงจะเป็นการประกอบ rig ได้เสร็จสมบูรณ์
แต่ว่ากันตอนนี้หน่ะเหรอ ? ดูแล้วคงจะไม่รุ่งเรืองเหมือนก่อนแล้วหล่ะครับ เพราะนอกจากกระแสขุด Cryptocurrency นั้นจะเบาบางลงไปอย่างมากแล้ว ความต้องการของตลาดในกลุ่ม PC สำหรับผู้ใช้ทั่วไปก็หายไปมากเช่นกัน และนี่ก็บีบบังคับให้แบรนด์ PC หลายๆแบรนด์ต้องเปลี่ยนแผนการในการดำเนินธุรกิจกันใหม่
รายงานจาก DigiTimes ก็ระบุว่า ยอดขายของผู้ผลิต Mainboard เจ้าหลักๆอย่างเช่น ASUS, AsRock, Gigabyte และ MSI นั้นอาจจะลดลงได้ถึง 20-30% ในแบบ year-over-year .. ซึ่งตอนนี้ทาง ASUS และ Gigabyte ก็ได้ลดการคาดการณ์ยอดขาย Mainboard ลงไปจาก 18 ล้านตัวเป็น 9 ล้านตัว และ 14 ล้านตัว เป็น 9 ล้านตัว ตามลำดับ .. ส่วนแบรนด์อื่นก็จะต้องมีการเปลี่ยนยอดคาดการณ์เช่นเดียวกัน เพื่อที่จะได้ปรับปรุงการจัดสต๊อกสินค้าได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น
คอมพิวเตอร์สำหรับการเล่นเกม (Gaming PC) แบบประกอบเอง (DIY) ส่วนใหญ่นั้น ก็จะใช้ Mainboard และการ์ดจอจากแบรนด์ไต้หวันเหล่านี้แหละ ซึ่งในขณะนี้ที่ Demand ของ Consumer PC นั้นลดลง ก็ทำให้ยอดขายนั้นลดลงมาเหลือ 321.1 ล้านหน่วยในปี 2022 หรือเทียบกับปีที่แล้วก็ลดลงมาที่ 8.2%
ส่วนคอมแบรนด์ประกอบเสร็จอย่างเช่น Dell, HP, Lenovo ก็จะได้รับผลกระทบตรงนี้เช่นเดียวกันครับ แต่เหมือนจะไม่หนักเท่าแบรนด์ของฝั่ง PC DIY เพราะว่าแบรนด์คอมประกอบเสร็จเหล่านี้ ก็มีการสั่ง Hardware จากผู้ผลิต Component ของไต้หวันด้วย .. อีกปัจจัยนึงที่จะทำให้ความต้องการของตลาดตกก็คงจะเป็นเพราะประเด็นเรื่องเงินเฟ้อ, ความไม่แน่นอนทางการเมืองระดับโลก, สงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งทั้งหมดนี้รวมกันก็จะทำให้ผู้บริโภคนั้นไม่อยากจับจ่ายใช้สอยซักเท่าไหร่
ซึ่งก่อนหน้านี้เองเราก็ได้เห็นข่าวว่าทาง Apple, AMD, NVIDIA นั้นก็มีการสั่งลดออเดอร์กับทาง TSMC ก่อนที่จะเปิดตัวโปรดักส์รุ่นใหม่เป็นที่เรียบร้อยเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางตลาดที่ดูแล้วจะไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ ตลอดไปจนสิ้นปีนี้
แต่อันนี้ก็เหมือนจะได้รับผลกระทบเฉพาะกับแบรนด์ที่ขายสินค้ากลุ่มตลาดสำหรับคนทั่วๆไปนะครับ เพราะในกลุ่มระดับ Enterprice, Data Center, Server ทั้งหลายนั้น จะยังไม่ได้รับผลกระทบซักเท่าไหร่ เนื่องจากการพัฒนาทางด้าน Infrastructure ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น 5G, AI, HPC Megatrend ทั้งหลายนั้นยังอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างรุนแรง เพราะเช่นนั้นแล้ว แบรนด์ที่เรากล่าวมาทั้งหมดก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะเสียยอดขายในส่วนของตลาด PC Consumer ไป แต่ก็ยังอยู่รอดได้ในตลาดกลุ่ม Enterprise เหล่านี้ครับ
ข้อมูล : Tom's Hardware