จอ Samsung Odyssey Neo G9 รุ่นใหม่ เป็นจอที่มีคนรอดูอยู่เยอะมากๆ เพราะมันเป็นอะไรที่เรียกว่าสุดของช่วงเวลานี้ อย่างแรกเลยก็คือขนาดใหญ่ 57" แบบโคตร Ultrawide ด้วยความละเอียดระดับ 7680x2160 หรือพูดง่ายๆว่ามันเหมือนกับจอ 4K สองจอมาวางอยู่ด้วยกัน และนอกจากนั้น Refresh Rate มันก็ให้สูงมาระดับ Gaming ที่ 240Hz ด้วยเช่นกัน ! เพราะเช่นนั้นสเปกแบบนี้แล้วมันก็คือความสุดของฝั่ง Gaming Monitor แล้วหล่ะ .. แน่นอนว่าจอแบบนี้ก็ต้องจับคู่กับการ์ดจอที่สุดของฝั่ง Gaming อย่าง NVIDIA GeForce RTX4090 ใช่ไหมหล่ะ ?
ไม่ใช่ครับ เพราะว่าการ์ดรุ่นท๊อปของฝั่ง Gaming ที่เร็วและแรงที่สุดในโลก ณ เวลานี้ กลับไม่สามารถใช้งานคู่กับจอตัวนี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะว่าสื่อ QuesarZone จากประเทศเกาหลีได้ออกมารีวิวจอตัวนี้แล้ว สรุปได้ว่ามันสามารถรันได้ที่ 120Hz เท่านั้น
สาเหตุก็น่าจะเป็นเพราะว่าด้วย Bandwidth ของตัวจอที่ต้องการเมื่อใช้งานแบบเต็มสเปกแบบ 10-Bit Per Color ที่ 240Hz นั้นจะต้องการ Bandwidth ถึงระดับ 109.68Gbit ในขณะที่ Bandwidth สูงสุดที่ส่งผ่านได้กับมาตรฐานของพอร์ตเชื่อมต่อล่าสุดก็คือ 77.37Gbit สำหรับ DisplayPort 2.1 UHBR20 หรือถ้าเป็น HDMI 2.1 ก็จะได้ที่ 48Gbit .. แบบนี้ก็แปลว่า ไม่ว่าจะใช้พอร์ตการเชื่อมต่อไหน ยังไงก็ต้องการเทคโนโลยี Display Stream Compression (DSC) อยู่ดี
เทคโนโลยี DSC จะสามารถบีบอัดภาพให้กลายเป็น 8 bits per pixel (bpp) โดยที่ไม่สูญเสียคุณภาพไปมากนัก ซึ่งถ้าใช้เทคโนโลยีนี้คู่กับจอ Samsung ตัวใหม่นี้แล้ว ก็แปลว่ามันจะต้องการ Bandwidth แค่ 36.56Gbit ซึ่งตามหลักการแล้วถ้าเอามาใช้กับ HDMI 2.1 ก็น่าจะเพียงพอ .. แต่จากการใช้งานจริงแล้ว มันอาจจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้นครับ เพราะว่าก่อนที่ขั้นตอนการบีบอัดจะเริ่มขึ้น Video Frame ที่ยังไม่ได้มีการบีบอัดก็จะถูกแบ่งไปเป็นขนาดของ Segment และ Slice ที่ตายตัว ซึ่งถ้าเป็นพวก Resolution ทั่วๆไปอย่าง 1080p, 1440p, 4K มาตรฐาน ก็อาจจะไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ในกรณีของจอตัวที่ว่านี้ มันเปรียบเสมือนจอ 2K ที่วางอยู่ด้วยกันสองตัว ทำให้จำนวน Slice ที่แบ่งออกมานั้นอาจจะไม่เหมาะสมในหลายกรณี
เหตุผลคร่าวๆก็อาจจะเป็นเพราะเรื่อง Display Pipeline ของการ์ด GeForce RTX40 Series เองเลย ที่การ์ด RTX40 Series นั้นน่าจะมีปัญหาคอขวดตรงการ Output ไปยังพอร์ตการเชื่อมต่อเดียว อย่างเช่นการ์ดจอ RTX40 นั้นมีการออกแบบให้แบ่ง Bandwidth ไปยัง Display Output หลายช่อง แต่ถ้ามันรวม Bandwith เข้ามาที่ช่องเดียว อาจจะไม่สามารถใช้งานได้ ประมาณว่าถนน 4 เลนถูกเบียดเข้ามาเป็นหนึ่งเลนก็จะเจอคอขวดตรงจุดที่เบียดนั่นแหละครับ
ในกรณีนี้เราก็ยังไม่แน่ใจว่าปัญหาดังกล่าวจะสามารถแก้ไขได้ด้วย Software หรือ Firmware อัปเดทในอนาคตได้หรือไม่ .. แต่ถ้าว่ากันง่ายๆก็คือ คำพูดที่ว่า ปัจจุบันนี้ Hardware มันแรงเกินการใช้งานไปเยอะแล้ว คงไม่จริงอีกต่อไป เพราะว่าจอตัวนี้มี Requirement ด้านการเชื่อมต่อที่สูงมาก จนพอร์ตของ RTX4090 ที่ให้มานั้น ไม่สามารถตอบสนองได้แบบ Native และแม้กระทั่งใช้เทคโนโลยี DSC ก็ไม่สามารถใช้งานได้ที่ 240Hz ตามสเปกแต่อย่างใด และโดยรวมจะใช้งานได้ที่ 120Hz เท่านั้น ซึ่งในอนาคต NVIDIA อาจมีการแก้ไขด้วยการทำ Bandwidth Sharing ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันจะเพียงพอหรือเปล่า ถ้ามันไม่สามารถทำได้โดยข้อจำกัดของ Silicon เอง อันนี้อาจจะต้องรอดูการ์ดรุ่นถัดไปเลยครับ
แต่สำหรับฝั่ง AMD Radeon เอง อันนี้กลับไม่ใช่ปัญหาเลยแม้แต่น้อย เพราะทางค่ายแดงเขาได้โฆษณาเน้นในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ว่าการ์ดของตัวเองนั้นจะรองรับการใช้งานคู่กับ Samsung Odyssey Neo G9 และความละเอียดได้ถึงระดับ 8K 240Hz นั่นก็เป็นเพราะว่าข้อจำกัดของตรง Display Pipeline นั้นไม่ได้มีเหมือนทางฝั่ง NVIDIA แม้ว่าตัวพอร์ตการเชื่อมต่อด้านหลังจะเป็นมาตรฐานเดียวกันก็ตาม .. ประมาณว่าพื้นฐาน Silicon ของตัวการ์ด RDNA3 นั้นถูกออกแบบมาให้ Output Resolution สูงอยู่แล้ว ในขณะที่ NVIDIA นั้นน่าจะคาดไม่ถึงว่ามีจอที่ความต้องการสูงขนาดนี้ด้วย
งานนี้ก็ต้องรอดูกันเลยครับว่า NVIDIA จะแก้ปัญหาอย่างไร อาจจะมีการออก Firmware มาเพื่อจัดการ Bandwidth ใน Display Pipeline ให้ดีขึ้นก็เป็นไปได้ ซึ่งอาจจะใช้วิธีการเปิด Port อื่นๆเพื่อให้ใช้ Port นี้ได้เต็มๆหรืออะไรแบบนั้น (ซึ่งมันก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่) แต่ที่แน่ๆคือเรื่องความแรงนั้น AMD Radeon RX7900XTX รุ่นบนของค่ายแดง ยังคงห่างชั้นกับ NVIDIA GeForce RTX4090 กันไกลพอสมควร ประมาณว่าการ์ดที่แรงกว่าของ NVIDIA กลับไม่สามารถ Output ความละเอียดได้เต็มที่ ในขณะที่ใครอยากจะเห็น 240Hz เต็มๆก็ต้องใช้การ์ดที่ความแรงด้อยกว่าของ AMD ไปแทนนั่นแหละ .. แต่ไม่ว่ายังไง การ์ดทั้งสองรุ่นมันก็ไม่มีตัวไหนที่น่าจะดันความละเอียดระดับนั้นได้ที่ 240FPS อยู่แล้วหล่ะนะ
ข้อมูล : Wccftech