ปกติแล้วถ้าเราพูดถึง Storage หรือหน่วยเก็บข้อมูลที่วิ่งบน Interface PCIe NVMe แน่นอนเราต้องนึกถึงพวก Solid State Drive (SSD) ความเร็วสูง ไม่ว่าอุปกรณ์นั้นๆจะเสียบอยู่ในช่อง M.2 หรือในช่อง PCIe ก็ตาม .. มันจะต้องเป็น SSD อย่างแน่นอน
แต่ล่าสุดนี้ Seagate ได้มีการโชว์ Harddisk จานหมุนตัวแรกของแบรนด์ที่เชื่อมต่อกับ Host ด้วย Interface เดียวกับ SSD อย่าง PCI-Express ในงาน Open Compute Project Summit .. โดยมันจะใช้งานกับ Protocol NVMe คู่กับ SSD ได้อย่างไร้ที่ติ .. ซึ่งการใช้ Protocol เดียวกันกับ Storage Device หลากหลายรูปแบบนั้น จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับกลุ่ม Data Center
Seagate ได้ใช้ Controller ที่ตัวเองสร้างขึ้นมา ซึ่งรองรับ Protocol หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น SAS, SATA, หรือ NVMe ซึ่งจะทำงานบน Native NVMe Port เอง ไม่จำเป็นต้องใช้ Bridge แต่อย่างใด
HDD รุ่นใหม่ๆนั้น ไม่ว่าจะมีประสิทธิภาพสูงแค่ไหน ก็ยังแทบใช้ความสามารถของ PCIe 2.0 ได้ไม่เต็มที่เลย แต่การมาถึงของ HDD ประเภทใหม่อย่างเช่น HDD แบบ Multi-Actuator (หลายจานหมุน) นั้นอาจจะทำให้ Interface SATA 6Gbps หรือ SAS 12Gbps นั้นไม่พอขึ้นมาซักวัน เพราะเช่นนั้นอุตสาหกรรม Storage จึงต้องคิดว่าจะทำยังไงให้ HDD เหล่านี้สามารถใช้งานบน Interface ที่ความเร็วสูงกว่าได้ ซึ่งตรงนี้ PCIe น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะมีการใช้งานจริงจังมานานแล้ว
การนำ HDD และ SSD มาวิ่งบน Interface และ Logical Protocol เดียวกันนั้น จะทำให้การจัดการ Hardware และ Software ง่ายดายขึ้นสำหรับกลุ่ม Data Center ซึ่งจะทำให้การพัฒนาในอนาคตนั้นมีข้อจำกัดที่น้อยลงด้วย นั่นหมายความว่าการทำ Scaling หรือค่าบำรุงรักษาก็จะดีขึ้นตามลำดับ
แต่สำหรับการที่เอา HDD มาใช้บน PCIe ทั่วๆไปนั้น อาจจะต้องใช้เวลาอีกซักพักใหญ่ๆ ซึ่งตัวแรกจะออกมาให้ผู้บริโภคได้เห็นในช่วงกลางถึงปลายปี 2022 หรือประมาณเกือบปีนึงนับจากวันนี้ .. ส่วนสำหรับตลาด Mainstream คนทั่วไปตามบ้านจริงๆนั้น น่าจะนานกว่านั้นอีก โดยอาจจะลากยาวไปถึงกลางปี 2024 นู่นเลยครับ
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายๆคนอาจจะมองว่ามันไม่มีความจำเป็นเลยที่ HDD จานหมุนจะต้องเปลี่ยนมาเป็นมาตรฐาน PCIe - NVMe เนื่องจากต่อให้เร็วแค่ไหน มันก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ของ Interface ความเร็วสูงดังกล่าวอยู่ดี .. แต่ตรงนี้แล้วความเร็วก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเพียงอย่างเดียว แต่ความง่ายก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะถ้าทั้ง SSD และ HDD มาใช้ Interface เดียว นั่นหมายความว่า เราอาจจะไม่จำเป็นต้องมีช่อง SATA ให้เกะกะ และไม่จำเป็นต้องติดตั้ง Controller SATA ที่หลายๆคนอาจจะไม่ได้ใช้มาอีกต่อไป .. ส่วนเรื่องความแรงเอง ก็ไม่แน่นะครับ เพราะตั้งแต่ HDD เริ่มมีเทคโนโลยี Multi-Actuators ขึ้นมา เราก็ได้เห็นประสิทธิภาพที่ดีขึ้นจริง ในอนาคตอาจได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีตรงนี้ในเรื่องความเร็วก็ได้นะ
ข้อมูล : Tom's Hardware