ถึงแม้ช่วงนี้ตลาด Cryptocurrency โดยรวมจะถือว่าอยู่ในขาลง จนหลายๆคนเข้าสู่สภาวะติดดอยเป็นที่เรียบร้อย .. แต่สำหรับนักขุดทั้งหลายแล้ว ราคาที่ลงมานี้มันก็ไม่มากพอที่จะทำให้เขาเหล่านั้น "ชักปลั๊ก" หรือเลิกขุดได้ เพราะต่อให้มันลงมามากอย่างที่เห็น แต่ก็จัดว่าคุ้มค่าที่จะขุดอยู่ดีครับ

การขุดนี้ก็มีตั้งแต่คนที่ใช้เครื่อง ASIC Miner หรือเครื่องสำหรับการขุดโดยเฉพาะ ซึ่งจะขุด Bitcoin , Ethereum หรืออะไรก็แล้วแต่ .. หรือรายย่อยอย่างเราๆก็จะเน้นเครื่องคอมพิวเตอร์บ้านๆ โดยการใช้การ์ดจอมาขุดเหรียญ Altcoin กันแทน .. และล่าสุดนี้ก็มีวิธีการขุดใหม่อีกอย่างนึงที่กำลังมาแรง อย่างเช่น Chia ที่ใช้ HDD และ SSD ในการขุด

เอาจริงๆแล้ว Chia นี้ก็เป็นเหรียญ Cryptocurrency ประเภท Proof of Space and Time ซึ่งถ้าจะให้เรียกให้ถูกต้อง คงเป็นคำว่า "ฟาร์ม" มากกว่าขุด .. แต่เพื่อให้เข้าใจง่ายหลายๆคนก็ยังคงเรียกมันว่าการขุดอยู่ดี .. โดยราคาเหรียญ Chia นี้สูงสุดเคยไปอยู่ที่ $1600 ต่อ 1 Chia (XCH) และปัจจุบันอยู่ราวๆ $520 ต่อ 1 XCH .. อย่างไรก็ตาม ต้นทุนของการขุดหรือฟาร์ม Chia นั้น ไม่ได้สูงเหมือนกับพวก Miner ที่ใช้การ์ดจอ ทั้งในเรื่องของราคา Hardware และค่าไฟที่ต้องจ่ายแต่ละเดือน จึงทำให้หลังๆนี้จำนวนคนขุด Chia กลับมีมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าราคาจะขยับลงตามตลาด Cryptocurrency โดยรวมก็ตาม

ตอนนี้นอกจากการ์ดจอแล้ว สินค้าจำพวก Storage อย่าง HDD และ SSD ก็มีการขาดตลาดเช่นเดียวกัน ทำให้ราคานั้นปรับสูงขึ้นไปกว่าที่ควรจะเป็น

แบรนด์ยักษ์ใหญ่สุดในวงการ Harddisk จานหมุนก็คงจะหนีไม่พ้น Seagate และ Western Digital นี่แหละครับ .. โดยทั้งสองบริษัทนี้ก็ได้ทราบถึงปัญหาดังกล่าว และปรับแผนการผลิตให้เหมาะสม ซึ่งล่าสุดนี้ก็ได้มีการเพิ่มกำลังการผลิต HDD โดยเฉพาะในรุ่นที่มีความจุมาก เพื่อตอบสนองต่อ Demand ของนักลงทุน Chia โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม ความต้องการในส่วนของการทำฟาร์ม Chia นั้นเป็นความต้องการแบบเร่งด่วน และอาจจะไม่ยืนยาว นั่นทำให้ทั้งสองบริษัทจำเป็นจะต้องเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานเดิมที่มีอยู่ แทนที่จะสร้างโรงงานใหม่ (บริษัททั้งสองไม่ได้มีแผนตรงนี้อยู่แล้ว)

ปัจจุบันนี้ความต้องการของตลาด Chia นั้นมีมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก โดยตอนนี้ก็ทะลุ 20 Exabyte ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เทียบกับตอนเดือนเมษายนที่ตอนนั้นมีความต้องการแค่ 1 Exabyte .. ซึ่งนับว่าเป็นการเติบโตที่ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว และยากที่ Supply ในตลาดของ Storage จะตามทัน

รายงานก็ไม่ได้ระบุเพิ่มเติมว่ากำลังการผลิตของทั้งสองบริษัทนั้นจะมากขึ้นซักแค่ไหน เราก็คงต้องรอลุ้นกันเองแล้วหล่ะครับ ว่าจะมากู้สถานการณ์ HDD ขาดตลาดตอนนี้ได้หรือไม่

ข้อมูล : TechPowerUp