Qualcomm Snapdragon X Elite จัดว่าเป็นชิปที่น่าสนใจครับ เพราะว่าตอนที่เปิดตัวมานั้น เราได้เห็นตัวเลขประสิทธิภาพที่น่าประทับใจเอามากๆ สามารถสู้กับฝั่ง Apple ได้อย่างสบายๆ และหลายๆคนก็คาดว่าชิปตัวนี้จะเป็นการพาวงการ PC เข้าสู่ยุค ARM ได้ด้วย ! และล่าสุดนี้เราก็ได้เห็นตัวเลขประสิทธิภาพของ GPU หรือ หน่วยประมวลผลกราฟฟิคของมันแล้วครับ
ผู้ที่นำผลออกมาให้เห็นคือ @BenchLeaks จาก Twitter ที่มีการเผยผลทดสอบของเกม Ashes of the Singularity บน Database ของ Benchmark ตัวเกมเอง แต่ผลทดสอบนั้นอาจจะยังไม่ได้น่าประทับใจเท่าที่ควร อย่างแรกเลยก็คือ GPU ที่แสดงให้เห็นนั้นจะเป็นรหัส X1E801000 ที่ทำคะแนนออกมาได้ที่ 1,300 คะแนน ด้วยการตั้งค่าแบบ Min_1080p และเมื่อทดสอบแบบ 2880x1800 แล้ว มันทำ Frame Rate เฉลี่ยได้ที่ 13.7FPS เท่านั้น ในขณะที่ Qualcomm Adreno GPU ใน Snapdeagon 8cx Gen 4 ทำออกมาได้ที่ 1,800 กับค่า Setting ที่ Min_1080p และ Frame Rate เฉลี่ยที่ 19.7FPS ในแบบ 2K
แต่แม้ว่าประสิทธิภาพจะออกมาดูไม่น่าประทับใจ แต่ก็ต้องเข้าใจไว้ส่วนนึงครับ ว่าชิปที่ว่านี้ยังอยู่ในขั้นตอน Pre-Production รวมไปถึง Driver อะไรต่างๆก็ไม่ได้มีการ Optimize กับตัวเกมเลยด้วยซ้ำ พูดง่ายๆว่ามันยังไม่พร้อมจะขายจริง อย่าเพิ่งไปตัดสินมัน .. เพียงแค่ถ้าเราเอาผลทดสอบนี้ไปเทียบกับรอบที่แล้วที่ทาง Qualcomm พรีเซ้นต์ไว้ตอนเปิดตัว ก็จะเห็นได้ว่ามันแตกต่างกันอยู่หลายขุมเลย
จุดเด่นหลักๆที่ทาง Qualcomm นำเสนอก็คือ Snapdragon X Elite ตัวนี้ออกแบบมาสำหรับ Notebook โดยจะมี CPU Core แบบ General Purpose ที่ถูกพัฒนาโดย Nuvia บริษัทที่ถูกสร้างขึ้นโดย อดีตวิศวกรของ Apple ที่ทาง Qualcomm ได้จ้างเข้ามาในปี 2021 และชิปประเภทนี้ก็เป็นแบบ SoC นั่นแปลว่า ทุกอย่างบนตัวมันก็จะมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น CPU หรือ GPU เพราะทุกอย่างมันจะมาด้วยกัน ไม่สามารถถอดเปลี่ยนหรืออัปเกรดได้ การซื้อ Notebook ที่ใช้ชิปแบบ SoC จึงมีความจำเป็นต้องดู Benchmark แบบรอบด้าน
ตอนที่ Qualcomm เปิดตัวและนำเสนอมันมาให้เราได้ดูในช่วงตุลาคม เราก็จะเห็นได้ว่า Snapdragon X Elite นั้นมี GPU ที่น่าประทับใจ เทียบแล้วดีกว่า Apple M2 และ AMD Ryzen 7940HS ด้วยซ้ำ ใน Benchmark Aztec Ruins และ Wildlife Extreme .. แต่พอมาทดสอบ Ashes of the Singularity มันกลับทำผลออกมาได้ตรงกันข้ามกับตอนเปิดตัว ซึ่งตอนเปิดตัวเราก็ได้คาดการณ์ไว้แล้วหล่ะครับ ว่าเขาก็ต้องเอาเฉพาะส่วนที่ดี ส่วนที่ Optimize มาแล้วมาโชว์ เพื่อให้เห็นประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ไม่น่าจะมีใครเอาส่วนที่ตัวเองทำได้ไม่ดีออกมาให้เห็นหรอก เพียงแค่ถ้ามีผล Benchmark หลุดแบบไม่ใช่ Official ออกมา มันเลยจะดูสวนทางกันหน่อย
ข้อมูล : Tom's Hardware