30 ปีผ่านมาแล้วสำหรับ Creative ที่ได้ปฏิวัติวงการ โดยการส่งการ์ดเสียงรุ่นแรกเข้าสู่ตลาด ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยมีการขายไปแล้วมากกว่า 400 ล้านชิ้น ตั้งแต่ปี 1989 และมาในปีนี้ Creative ยังคงสืบทอดความเป็นเจ้าตลาดอีกครั้งด้วยการเปิดตัว soundcard ระดับพรีเมี่ยม เพื่อเป็นมาตราฐานใหม่ในวงการพีซีระดับไฮเอ็นด์ โดยได้นำไปเปิดตัวให้ยลโฉมกันเมื่อต้นปีที่งาน CES 2019 ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับวงการ ได้รับคำชื่นชมจากสื่อต่างประเทศหลายสำนัก
เวลาก็ล่วงเลยมานาน จนได้รับเสียงเรียกร้องจากผู้ที่สนใจว่าเมื่อไหร่ทาง Creative จะส่งวางจำหน่ายเสียที และวันนี้ก็มาถึงโดยในการเปิดตัวครั้งนี้ Creative ได้ส่ง SoundBlaster ลงสู่ตลาด 2 รุ่น คือ AE-9 และ AE-7 ซึ่งในวันนี้ กระผมนายทองดีจะนำ SoundBlaster AE-7 ซึ่งเป็นรุ่นเล็กมาเปิดกล่องให้ดูกันก่อนว่า จะมีทีเด็ดอะไรบ้าง สดๆร้อนๆส่งตรงมาจากแดนลอดช่องกันเลย

SoundBlaster AE-7 น้องเล็กในซีรี่ย์ใหม่นี้ มาในกล่องขนาดกระทัดรัด มองไม่เห็นตัวการ์ดเหมือนกล่องในซีรี่ย์ก่อนๆ ภายใบบรรจุดตัวการ์ด คู่มือ และ Audio Control Module

ตัวการ์ดและ Audio Control Module มาในโทนสีเทาดำ ดูสวยงามบึกบึน รูปร่างหน้าตายังดูเหมือน AE-5 อยู่ แต่เพิ่มตัวควบคุมขึ้นมา เพิ่มความสะดวกให้กับเหล่าเกมเมอร์

ตัวการ์ด เป็น PCI-e slot ดูเผินๆเหมือน AE-5 แต่เรื่องเทคนิค ต่างกันมากพอสมควรนะครับ

ช่อง input ไมค์ 1 x 3.5 mm Mic / Line-in
และ output 3 x 3.5 mm 5.1 Line-out , 1 x 3.5 mm HP-out
และ spdif 1 x TOSLINK Optical-out

ในส่วนของ Audio Control Module จะมีไมโครโฟนมาให้ในตัว ปุมปรับความดังเสียง และยังรองรับแจ็ค ไมค์และหูฟัง ทั้งขนาด 6.3 mm และ 3.5 mm.

อุปกรณ์ที่ใช้ เป็นอุปกรณ์ระดับ audio grade มั่นใจว่าจะให้เสียงที่ดีระดับพรีเมี่ยม แต่น่าเสียดายว่าในรุ่น AE-7 นี้ เราไม่สามารถที่จะเปลี่ยน op-amp ได้เหมือนรุ่นเรือธงอย่าง AE-9

บนตัวการ์ดและ pcb มีโลโก้ SoundBlaster และ ชื่อรุ่น AE-7 ประทับอยู่ (น่าจะมีไฟในขณะใช้งาน)

ใช่แล้วครับ เวลาติดตั้งลงไปในเครื่อง เปิดใช้งานจะมีไฟติดให้เห็นสวยงามเลยทีเดียว

สเปคของตัวการ์ด เปรียบเทียบทั้งรุ่นที่ผ่านมาและรุ่นใหญ่สุด จะเห็นว่ามีความแตกต่างค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในรุ่น AE-9 ไม่ใช่แค่ตัด feature ออกไป แต่วงจรแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะภาค DAC ใช้กันคนละรุ่นเลย

สเปคจากผู้ผลิดครับ
เนื่องจากกระผมได้รับตัวการ์ดมาใหม่สดๆร้อนๆ เลยต้องขอเวลาในการลองเล่น และเบินตัวการ์ดอีกสักระยะ เพื่อคุณภาพเสียงที่คุณภาพที่สุดหลังจากลองเล่นแล้ว จะนำผลการทดสอบออกมาให้ชมกันว่าคุณภาพเสียงจะควรค่าแก่การรอคอยแค่ไหน สำหรับวันนี้กระผมขอลาเพื่อไปลองเล่นการ์ดตัวนี้ก่อนแล้วจะรีบนำมาเสนอ ส่วนรายละเอียดของ soundcard นี้ลองเข้าไปอ่าน >ที่นี่< ส่วนวันนี้สวัสดีครับ
price : 6,990 bath