ใครที่ไม่ได้ติดตามช่าวสารในวงการไอที อ่านหัวข้อบทความนี้แล้วอาจไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะ TSMC มันก็ไม่ใช่บริษัทที่เรารู้จักอยู่แล้ว ปกติเราใช้อุปกรณ์ไอทีหลักๆ ก็คงหนีไม่พ้น Intel, AMD, NVIDIA, Huawei, Apple, Sony, Microsoft หรืออะไรต่างๆนาๆ แล้ว TSMC ขึ้นราคาจะเกี่ยวอะไรกับเรา
แต่ความเป็นจริงแล้ว เกี่ยวข้องมากกว่าที่คิด .. เพราะทาง TSMC หรือชื่อเต็มๆว่า Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. เป็นบริษัทที่ทำหน้าที่ Fabracate และผลิต Semiconductor ส่งให้แบรนด์ใหญ่ๆของโลก ไม่ว่าจะเป็น Apple, AMD, Huawei, Qualcomm และอื่นๆอีกมากมาย .. นั่นหมายความว่าถ้า TSMC ประกาศขึ้นราคาหรือตัดส่วนลดแบบ Volume ออกไป แบรนด์ที่ทาง TSMC ผลิตให้ก็จะต้องเจอต้นทุนที่สูงขึ้นไปด้วย
ล่าสุดนี้ผู้ผลิต Semiconductor ก็มีการขึ้นราคาไปไม่กี่เดือน จากการรายงานของสื่อ .. สาเหตุก็คือความต้องการของตลาดที่สูงขึ้นในทุกๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็น PC ที่มี Hardware เปิดตัวใหม่, Console ที่เปิดตัวใหม่, รวมไปถึง TV และ Smartphone ที่ต่างก็ต้องใช้ Semiconductor และชิพประมวลผลทั้งนั้น ซึ่งไม่ใช่แค่ชิพอย่างเดียว แต่พวก Power Management IC, I/O Controller ก็จำเป็นด้วยเช่นกัน
ในเมื่อความต้องการของอุปกรณ์ Semiconductor สูงขึ้นอย่างกระทันหัน การขาดแคลนของโปรดักส์ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ บวกกับกลไกของตลาดที่ของยิ่งหายาก ราคายิ่งแพง จึงกลายเป็นเรื่องปกติในช่วงนี้ ...
ลูกค้าหลักๆของ TSMC ก็มีการใช้งาน Fabrication Process ที่ล้ำสมัยที่สุดทั้งนั้น บวกกับจำนวนออเดอร์ที่มาก ทำให้ TSMC ลดราคา Wafer ขนาด 300mm ประมาณ 3% .. แต่จากรายงานก็ระบุว่า สัญญาที่จะเริ่มต้นในปี 2021 นี้ ก็จะไม่มีส่วนลดให้อีกต่อไป
ปัจจุบัน Fabrication Process ที่ล้ำสมัยที่สุด จะมีอยู่แค่สองเจ้าที่ทำได้ก็คือ TSMC และ Samsung Foundry แต่เนื่องจากความต้องการในตลาดสูง บวกกับที่ไม่มีคู่แข่งอื่นๆแล้ว ทำให้ลูกค้าก็ต้องยึดติดอยู่กับสองแบรนด์นี้ .. ราคาจึงอาจจะต้องขยับขึ้นโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้
เห็นแบบนี้แล้ว เราก็น่าจะเตรียมตัวเตรียมใจไว้แต่เนิ่นๆเลยครับ ว่าปีหน้านี้อุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ โดยเฉพาะกลุ่ม Hi-End และโปรดักส์ที่ยังสดใหม่นั้น อาจจะได้เห็นราคาขยับขึ้นกันไปอีก .. แต่จะขึ้นเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย