ช่วงหลังนี้วงการ Modify Computer ก็มีโปรดักส์ออกมามากมาย โดยเฉพาะ Case and Cooling ที่นับวันจะมีความแหวกแนวมากขึ้นเรื่อยๆ .. แต่ถ้าคุณเบื่อชุดน้ำ ไฟ RGB ที่มีกันทุกแบรนด์ เห็นกันทุกห้างแล้วหล่ะก็ .. ลองหันมาดูอีกกลุ่มตลาดที่มีคนเล่นน้อย แต่เฟี้ยวฟ้าวไม่แพ้กันอย่างกลุ่ม Fanless ดูไหมหล่ะครับ !
สาเหตุที่คนเล่น Cooling แบบ Fanless น้อยเลยก็เพราะว่าจุดประสงค์มันเป็นเฉพาะกลุ่มจริงๆ และการติดตั้งอะไรต่างๆมันก็จะยากกว่า Cooling ทั่วไปด้วย บวกกับขนาดตัวที่ต้องใหญ่มากถึงจะระบายความร้อนได้เทียบเท่ากับ Cooler แบบมีพัดลมปกติ จึงทำให้หา Case ติดตั้งลงไปลำบาก .. ด้วยพื้นฐานที่ไม่มีพัดลม การระบายความร้อนจึงจะต้องทำผ่านบรรยากาศรอบๆ หน้าสัมผัสของแผ่นครีบระบายความร้อนก็ต้องมากตามไปด้วย
แต่ข้อดีของระบบ Fanless นี้ก็คือมันไม่มีเสียงรบกวนเลยซักนิดเดียว ทำให้เหมาะกับคนที่เน้นเรื่องความเงียบ อย่างเช่นในสตูดิโอ ทำงานเกี่ยวกับเสียง หรือว่าพวก HTPC ที่ไม่ต้องการเสียงลมให้เสียอรรถรส
วันนี้เราก็จะมาพูดถึง Heatsink ที่มีชื่อว่า "The Heart" จากแบรนด์ MonsterLabo ที่มีคอนเซ็ปต์ Cooler ที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยน้ำหนักมากถึง 3Kg และมิติของตัวโปรดักส์ที่ 200*185mm กับส่วนสูงอีก 265mm .. อย่างไรก็ตาม Cooler รุ่นนี้มันไม่ใช่แค่ CPU หรือ GPU Cooler แต่มันเป็นทั้งสองอย่างภายในตัวเดียว โดยด้านนึงจะมีหน้าสัมผัสไว้ระบายความร้อนให้กับ CPU เหมือนปกติ ส่วนอีกด้านจะมี Heatpipe ลากลงไป อ้อมตัว Graphic Card เพื่อระบายความร้อนให้กับ GPU เพิ่มเติมได้ด้วย
ทางด้านสเป็คของ The Heart นี้ก็น่าประทับใจครับ ถึงแม้จะไม่มีพัดลม แต่ก็สามารถระบายความร้อน CPU ที่มีค่า TDP 100W ได้ บวกกับ GPU อีก 120W หรือถ้าผู้ใช้งานยอมให้มันมีพัดลมรอบต่ำซัก 500RPM(14cm) ซักตัว ก็จะสามารถดันค่า TDP ขึ้นไปเป็น 140W และ 160W ได้ตามลำดับ
แต่เรื่องข้อจำกัดมันก็มีอยู่เต็มๆเลยครับ.. ขนาดที่ใหญ่ปานนี้ แน่นอนว่าไม่สามารถติดตั้งกับเคสทั่วไปในตลาดได้ จึงจำเป็นต้องใช้เคสที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ รวมไปถึงตัวการ์ดจอที่ GPU แต่ละตัวก็อาจจะวางตำแหน่งไม่เหมือนกัน ทำให้ไม่สามารถใช้กับการ์ดจอได้ทุกรุ่นอีกด้วย .. อย่างไรก็ตาม ทาง MonsterLabo ก็ยังไม่ได้ให้ข้อมูลออกมาว่าไอ้ที่ว่ารองรับเนี่ย มันมีการ์ดจอหรือว่า Case รุ่นอะไรบ้าง
ใครที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อได้ผ่านหน้าเว็ป MonsterLabo เลยด้วยราคา 180Euro หรือประมาณ 6 พันกว่าบาท ซึ่งถือว่าไม่แพงเลย ถ้าเน้นของแปลกที่ใครมาเห็นก็ต้องร้องว้าว
ที่มาของข้อมูล : FanlessTech