ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ถ้าคุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่ ผมเชื่อว่าคุณต้องเคยใช้อุปกรณ์ที่มี USB หรือชื่อเต็มๆว่า Universal Serial Bus ซึ่งมันเป็นพอร์ตการเชื่อมต่อมาตรฐานที่ใช้กับแทบทุกอุปกรณ์ไอทีและเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการถ่ายโอนข้อมูลหรือการชาร์จพลังงาน สมัยนี้เราก็ใช้พอร์ตที่คล้ายๆกันทุกอุปกรณ์ที่เรียกว่า USB ทั้งนั้น .. แต่หลายๆคนก็อาจจะงงอยู่บ้าง เพราะ USB เองแม้ว่าหน้าตาจะเหมือนๆกัน แต่มาตรฐานของมันนั้นกลับไม่ได้เหมือนกันทุกอัน เพราะมีทั้งในเรื่องเวอร์ชั่นที่แตกต่างกัน ความเร็วโอนถ่ายที่แตกต่างกัน หรือ การรองรับฟีเจอร์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นการนำส่งสัญญาณภาพ หรือการชาร์จพลังงานที่กี่ Watt อะไรอีกก็ว่ากันไป
มาตรฐานของ USB ถูกกำหนดโดยองค์กรที่เรียกว่า USB-IF หรือชื่อเต็มๆว่า USB Implementers Forums หรือแปลตรงตัวว่า กลุ่มผู้ดำเนินการ USB นั่นแหละ โดยกลุ่มนี้จะเป็นคนกำหนดรายละเอียดทั้งในเรื่องของสเปกและการทำการตลาดอะไรต่างๆของ USB .. โดยล่าสุดนี้ทาง USB-IF ก็ได้ประกาศว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างที่เกี่ยวกับโลโก้มาตรฐานของ USB ทั้งหลาย เพื่อที่จะทำให้ผู้ใช้นั้นสามารถตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น เนื่องจากยังมีโลโก้บางอย่างที่ยังทำให้ผู้ใช้งานนั้นงงได้อยู่
อย่างแรกเลยก็คือชื่อการตลาดของ USB SuperSpeed - ตรงนี้เป็นชื่อที่เรามักจะได้ยินเวลาดูรีวิวของ ว่าเป็น USB รุ่นใหม่ มีความเร็วสูง แต่เราก็อาจจะยังไม่เข้าใจว่าสูงที่ว่าเนี่ย มันสูงประมาณไหน ทำให้อาจจะต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมอีก ส่วนคนที่ไม่ได้สนใจด้านไอทีก็อาจจะไม่มีทางเข้าใจเลย ! การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่นี้ก็จะมีการยกเลิกใช้ชื่อทางการตลาดของ USB SuperSpeed อย่างเป็นทางการ ทำให้ต่อไปนี้สินค้าทีเปิดตัวใหม่ จะไม่มีคำว่า USB SS อีกต่อไป
ส่วนโลโก้ที่มาแทน SuperSpeed นั้นก็แน่นอนว่าเป็นโลโก้ที่เข้าใจง่ายมากขึ้น เพราะครั้งนี้จะเขียนมาตรงๆเลย ไม่ว่าจะเป็น 5Gbps, 10Gbps หรือรุ่นบนๆอย่าง 20Gbps และ 40Gbps ก็จะเป็นการระบุด้วยความเร็วมาเลย ไม่มีการมาเขียนอะไรที่เป็นศัพท์เฉพาะให้เข้าใจยากอีกต่อไป
นอกจากนั้นแล้ว โลโก้ยังสามารถระบุทั้งในเรื่องของความเร็วการโอนถ่ายและกำลังในการจ่ายไฟได้พร้อมกันเลย อย่างเช่น USB 5Gbps, 240w หรือ 40Gbps 60w ก็จะอยู่ในโลโก้เดียว ทำให้ผู้ใช้งานนั้นรู้ตั้งแต่แรกด้วย ว่าพอร์ตนี้รองรับการชาร์จผ่าน Protocol ของ USB Power Delivery (PD)
อย่างไรก็ตาม Logo ใหม่ที่เอามาใช้นี้จะเป็นโลโก้ที่ใช้งานกับสินค้าที่ถูก Certified โดย USB-IF เท่านั้น ซึ่งก็จะเห็นได้ตามกล่องและพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่าในตลาดก็ยังมีพวกสายชาร์จที่ใช้งานด้วยกันได้ แต่ไม่ได้มีการผ่านมาตรฐาน USB Certified แต่อย่างใด ทำให้ถ้าเราเห็นพวกอุปกรณ์เหล่านั้น ก็อาจจะยังไม่สามารถมาใช้มาตรฐานเดียวกับที่ว่ามาในบทความนี้ได้
ข้อมูล : The Verge