ช่วงหลังๆนี้ต้องยอมรับว่า Apple มีการเปิดตัวโปรดักส์แบบเงียบๆมาบ่อยมาก จากเมื่อก่อนที่จะต้องมีการจัด Event ใหญ่โตในการเปิดตัวสินค้าใหม่แต่ละครั้ง หรือบางทีแค่มีการอัพเดทอะไรเล็กๆน้อยๆแล้วก็ต้องจัดงาน ชวนสื่อมวลชนมาเข้าชมกัน.. แต่หลังๆนี้ชอบเน้นแนว Surprise ที่อยู่ดีๆก็เปิดตัวมาแบบเงียบๆ แถมเดาทางไม่ถูกด้วย
ซึ่งแค่เดือนกว่าๆที่ผ่านมานี้ Apple ก็ได้อัพเกรด MacBook Pro ทั้งรุ่น 13 และ 15 นิ้วใหม่ โดยจะเน้นรุ่นที่มี Touch Bar ทั้งหมด ส่วนรุ่น Non-Touch Bar และ MacBook Air 2018 ก็ไม่ได้มีการอัพเกรดเพิ่มเติมมาแต่อย่างใด.. ล่าสุดเมื่อคืนนี้ Apple ก็ได้อัพเกรดไลน์อัพของโปรดักส์ตัวเองใหม่อีกหนึ่งรอบ ทำให้คนที่ซื้อไปก่อนหน้านี้หลังหักไปตามๆกัน
รุ่นแรกเลยทีมีการอัพเกรดก็คือ MacBook Pro รุ่นเริ่มต้น (Non-TouchBar) ที่ตอนนี้จะเปลี่ยนมาเป็นแบบ TouchBar + Touch ID ทุกรุ่น รวมไปถึงรุ่นเริ่มต้นเอง .. แต่จะแยกกันได้ที่จำนวน Thunderbolt Port ที่รุ่นเริ่มต้นจะให้มาแค่ 2 ช่องเหมือนเดิม .. ทางด้านสเป็คนั้นก็จะเปลี่ยนมาเป็น Intel Core i5 (Quad Core) ที่มีความเร็วเริ่มต้น 1.4GHz และ Boost ที่ 3.9GHz ส่วน Memory ก็ยังคงเป็นแบบ LPDDR3 ขนาด 8GB เริ่มต้น (อัพเป็น 16GB ได้) และ Storage ก็จะมีตั้งแต่ 128GB ไปถึง 2TB .. นอกจากนั้นแล้วก็จะได้ True Tone Display ที่มีการปรับอุณหภูมิของสีตามสภาวะแวดล้อมอีกด้วย (เหมือนกับรุ่น 2018 Touch Bar 4 Thunderbolt Port ก่อนหน้า) / สิ่งที่จะด้อยกว่ารุ่น 13 4-Thunderbolt หรือรุ่น TouchBar เดิมนั้นก็จะมี Processor ที่ทรงพลังน้อยกว่า , Storage รุ่นเริ่มต้นที่น้อยกว่า และ ชิพกราฟฟิคเป็น Intel Iris Plus 645 แทนที่จะเป็น 655 เท่านั้น
ส่วน MacBook Air ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักยกเว้นมีการเพิ่ม True Tone Display เข้าไป และปรับลดราคาลงมาที่ $1099 หรือ $999 สำหรับราคานักศึกษา.. ทำให้ตอนนี้ MacBook รุ่นเริ่มต้นนั้น จัดอยู่ในงบประมาณสามหมื่นกลางๆได้พอดี ไม่ใช่โปรดักส์ราคาสูงที่จับต้องยากอีกต่อไป !
สุดท้ายที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ MacBook รุ่นมาตรฐาน และ MacBook Pro แบบ Non-Touch Bar ที่เลิกจำหน่ายไปเรียบร้อย ! .. โดย MacBook รุ่นมาตรฐานนั้นจะมีขนาดหน้าจอ 12" และจุดเด่นคือน้ำหนักที่ไม่ถึง 1Kg เลยด้วยซ้ำ ! นั่นทำให้สาวกที่ต้องการ Notebook ขนาดเล็กจริงๆ ต้องถูกบีบให้ไปซื้อ MacBook Air ที่มีขนาดจอ 13" และน้ำหนักมากกว่าแทน (สำหรับ MacBook รุ่นมาตรฐานนี้ก็ใช้ดีไซน์เดิมมาตั้งแต่ปี 2015 แล้ว) .. ทางด้าน MacBook Pro แบบไ่มี Touch Bar ที่วางขายมาตั้งแต่ปี 2017 เป็นรุ่นล่าสุดนั้น ก็หายไปเช่นเดียวกัน ซึ่งตรงนี้หลายๆคนที่ไม่ต้องการใช้ Touch Bar เพราะคิดว่าการใช้งานยากกว่าปกตินั้น อาจจะไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ เพราะว่า MacBook Pro รุ่นใหม่นี้จะมาพร้อม Touch Bar ทุกรุ่น ก็อาจจะต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยนั่นแหละครับ
และคนที่เจ็บที่สุดเลยก็คือคนที่เพิ่งซื้อ MacBook ทุกรุ่นในรอบไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพราะว่ารุ่นใหม่นั้นราคาลงมาเยอะมากๆ อย่างทีเห็นคือ MacBook Pro รุ่นล่างนอกจากมีการอัพสเป็คแล้ว ยังมีราคาเริ่มต้นแค่สี่หมื่นกว่าๆเท่านั้น .. ส่วน MacBook Air ที่อยู่สี่หมื่นกว่าก็ลงไปแตะสามหมื่นเลยทีเดียว ! งานนี้ใครบอกโปรดักส์ Apple ราคาลงยาก คงต้องกลืนน้ำลายตัวเองแล้วหล่ะ !