แม้ว่าจะเปิดตัวไปเป็นระยะเวลาสองปีแล้ว Windows 11 ก็ยังคงไม่ได้รับความนิยมอย่างที่ Microsoft หวังว่ามันควรจะเป็น ไม่ว่าจะพยายามผลักดันด้วยวิธีไหนก็ตาม ตั้งแต่การให้อัปเกรดฟรีสำหรับผู้ใช้ Windows หลายๆเวอร์ชั่นก่อน
ตอนนี้ถ้าเราไปดูรายงานจากทางเว็บไซต์ StatCounter ที่แสดงส่วนแบ่งการตลาดของ Operating System ทั้งหลาย จะเห็นได้ว่า Windows 10 นั้นยังคงครองพื้นที่มากถึง 71.64% และอันนี้นับแค่ของฝั่ง Windows นะครับ ในขณะที่ WIndows 11 นั้นได้พื้นที่ไปแค่ 23.61% เท่านั้น แต่ก็ยังดีที่อยู่ในอันดับสองรองลงมาจาก Windows 10 นั่นแหละ ส่วนอันดับที่สามก็จะเป็น Windows 7 ที่มีผู้ใช้งานราวๆ 3.34% ของตลาด ต่อด้วย Windows 8.1 ที่ 0.61% , Windows 8 ที่ 0.35% และ Windows XP ที่ 0.35% เช่นกัน
แม้ว่า Windows 11 จะอยู่ในอันดับสอง ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่แย่เท่าไหร่ .. แต่ถ้าเราจะมองจากมุมของ Microsoft นั้น เอาตรงๆก็คือมีอัตรา Adoption Rate หรือการที่คนเปลี่ยนมาใช้ที่แย่มากเมื่อเทียบกับ Windows 10 เพราะตอน Windows 10 เปิดตัวผ่านไปสองปี ก็มีส่วนแบ่งการตลาดเข้าไปที่ 32.84% แล้ว มากกว่าที่ Windows 11 ทำได้ถึง 10%
สาเหตุที่ทำให้ Windows 11 ไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร ก็เป็นเพราะหลายอย่างครับ อย่างแรกเลยก็คือตอนที่เปิดตัว มันก็ได้รับกระแสตอบรับที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่กับเรื่อง Taskbar และการใช้งานตัว Start Menu ซึ่งอันนี้คนยังคงเคยชินและชอบรายละเอียดที่มากกว่าของ Windows 10 และนอกจากนั้นก็มีความต้องการของระบบที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น TPM ที่ต้องเป็นคอมที่ใหม่ระดับนึงถึงจะมีได้ แม้ว่าจะมีวิธีข้ามขั้นตอนนี้อยู่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่คงไม่คิดจะมาทำหรอกครับ น่าจะมีแค่คนที่มีความรู้เรื่องคอมในระดับนึง แล้วอยากเปลี่ยนมาใช้ Windows 11 นั่นแหละ
แต่ว่ากันด้วยเรื่องฟีเจอร์ตอนนี้ Windows 11 ก็จัดว่ามีมาครบกว่า Windows 10 อยู่พอสมควรแล้วนะครับ ไม่ว่าจะเป็น Microsoft AI Co-Pilot หรือ Widget ต่างๆ และก็มีการรองรับ DirectStorage อย่างเต็มรูปแบบด้วย .. แต่ยังไงหลายๆคนก็อาจจะยังชอบ Windows 10 มากกว่า เพราะว่าหน้าตา User Interface ของ Windows 10 นั้นดูน่าจะคุ้นชินกันมากกว่านั่นเอง
แต่ถ้าใครใช้ Windows 10 มาก่อน เทียบกันในเรื่อง Taskbar ตรงๆ จะพอเห็นได้ว่า Windows 10 ยังทำได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการแสดงชื่อแอปและไอคอนไปพร้อมๆกัน และยังสามารถย้าย Taskbar ไปยังพื้นที่อื่นๆของจอได้ด้วย
ส่วนตัวแล้ว แม้ว่าจะมีอัตราการเติบโตที่น้อย แต่ผมคิดว่ายังไง Windows 11 ก็จะต้องแซง Windows 10 ในซักวันอยู่ดีครับ เพราะตอนนี้คอมใหม่ๆที่วางจำหน่ายก็ออกมาเป็น Windows 11 จากโรงงานแล้ว หน่วยประมวลผลใหม่ๆก็บังคับให้ใช้ Windows 11 เพื่อที่จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพด้วย บวกกับที่ Windows 10 ก็จะเข้าสู่ช่วง End of Support ในอีกไม่นานนี้ ทำให้คนจะต้องเปลี่ยนมาใช้ Windows 11 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ .. แต่ก็ไม่แน่นะ Windows 11 อาจไม่มีวันแซง Windows 10 เลยก็ได้ ถ้า Microsoft ตัดสินใจเปิดตัว Windows 12 ออกมาเสียก่อน
ข้อมูล : Tom's Hardware