อาทิตย์ที่ผ่านมา บอกได้เลยว่าเป็นอาทิตย์ของ Windows 11 อย่างแท้จริง .. ก็อย่างที่เห็นกันครับ ว่าแทบจะทุกสื่อในวงการไอที ก็หยิบมาเล่น หยิบมา Preview กัน แม้กระทั่งสื่อนอกวงการบางสื่อยังมีการหยิบไปเล่นเลยด้วยซ้ำ
สำหรับเรื่องหน้าตานั้น ก็จัดว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร แต่ Theme หลักๆก็คงสรุปได้ว่ามันเป็น Windows 10 เวอร์ชั่น "UPGRADE" มากกว่า .. แต่แท้จริงแล้ว การเปลี่ยนแปลงมาเป็น Windows 11 ครั้งนี้มีอะไรหลายๆอย่างที่เราอาจจะไม่เห็นอีกมาก นั่นก็คือเรื่องประสิทธิภาพภายในและระบบ Hardware Scheduler
ทางฝั่ง Hardware นั้น .. ก็มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า Intel จะมีการเปลี่ยนไปใช้ Processor โครงสร้างสถาปัตยกรรม bigSMALL ที่มีทั้ง Core ใหญ่สำหรับประสิทธิภาพ และ Core เล็กสำหรับประหยัดพลังงาน .. และ Microsoft Windows 11 ก็มีการออกแบบ Hardware Scheduler เพื่อใช้งานคู่กับ Processor แบบนี้โดยเฉพาะ
สื่อต่างประเทศอย่าง Hot Hardware ก็ได้มีการทดสอบตัว Windows 11 ISO ที่มีการหลุดมาก่อนหน้านี้คู่กับ CPU จากทาง Intel Core i7 L16G7 และได้ให้ข้อมูลว่า Scheduler ตัวใหม่นี้ จะทำประสิทธิภาพได้ดีมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้งานกับ Processor ที่มี Core แบบ big และ LITTLE .. ซึ่งแบบนี้ก็ตีความหมายได้ว่า เมื่อมันใช้คู่กับ Intel Alder Lake ที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ ก็คงจะดีขึ้นไปอีก เป็นเหมือนคู่หู คู่บุญ ที่เกิดมาเพื่อกันและกันเลยหล่ะ โดย Benchmark ของ HotHardware ก็แสดงออกมาให้เห็นว่าประสิทธิภาพนั้น ในหลายๆส่วนจัดว่ามีความแตกต่างพอสมควร
สุดท้ายแล้วข้อมูลก็ยังระบุเพิ่มเติมว่า WIndows 11 นั้นจะเป็นอัปเกรดฟรีจาก Windows 10 ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้แล้วก็คงไม่มีสาเหตุใดที่จะทำให้เราไม่อยากเปลี่ยนมาลองใช้ (ถ้าเสียเงินคงต้องคิดหน่อย)
ดูจากสถานการณ์ในตลาดตอนนี้ ก็ต้องยอมรับว่า Apple นั้นกำลังมาแรงจริงๆ ทั้งระบบ Mac M1 และ MacOS ที่ทั้งสองดูเหมือนจะเกิดมาคู่กัน ทำประสิทธิภาพได้ดี ในขณะที่การบริโภคพลังงานและการปล่อยความร้อนนั้นจัดว่าต่ำมากๆ ทำให้ฝั่ง x86 และ ระบบปฏิบัติการ Windows นั้นเหมือนจะตกที่นั่งลำบาก .. จึงเป็นที่มาของระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง Windows 11 ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพขึ้นมา และ Processor จากทาง Intel อดีตคู่ค้าของ Apple ก่อนที่ Apple จะหันไปใช้ Processor M1 ของตัวเอง .. ซึ่ง Processor รุ่นใหม่ของทาง Intel นี้ก็มีการอัปเกรดขึ้นมายกใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Core แบบ เล็กใหญ่ อย่างที่ว่าไปก่อนหน้า รวมไปถึงการเปลี่ยน Memory มาเป็นแบบ DDR5 และ PCIe Gen 5.0 ด้วย
ก็ต้องรอดูครับ ว่าเมื่อ Microsoft และ Intel หันมาแก้เกมครั้งนี้ จะสามารถทำประสิทธิภาพและความน่าประทับใจจนดึงตลาดกลับมาจากกระแส Mac M1 ได้หรือเปล่า
ข้อมูล : HotHardware , Wccftech