ข้อมูลจาก Windows Central ระบุว่า Mirosoft นั้นกำลังเตรียมตัวปล่อยอัปเดทครั้งใหญ่ของ Windows 11 โดยใช้ Codename ว่า Hudsun Valley ที่น่าจะปล่อยให้ใช้กันในช่วงปีนี้กับเวอร์ชั่น 24H2 หรือเรียกง่ายๆว่า 2024 Update ซึ่งแน่นอนว่าการอัปเดทครั้งนี้จะถือว่าเป็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับ 23H2 ของปีที่แล้ว โดยการพัฒนาก็จะประกอบไปด้วยตั้งแต่เรื่องของประสิทธิภาพ ประสบการณ์ใข้งาน ตวามปลอดภัย และ ฟีเจอร์ใหม่ๆก็จะถูกเพิ่มเข้ามาด้วย
จุดสำคัญที่ทาง Microsoft เน้นกับ 2024 Update นี้ก็คือเรื่องของ AI อย่างที่เราคาดการณ์กันไว้ ซึ่งอันนี้ทาง Microsoft ได้เปิดมาให้ลองใช้กันแล้วในอัปเดทตลอดปีที่ผ่านมา โดยข่าวลือบอกว่าครั้งนี้ Microsoft จะมากับ Copilot เวอร์ชั่นที่ล้ำหน้ากว่าก่อนมาก ถึงขั้นที่จะทำให้ AI และ Machine Learning นั้นเปลี่ยนประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ Windows ในหลายๆแอป , ฟีเจอร์ Search และอื่นๆอีกมากมาย .. โดยกำหนดการปล่อยอัปเดทนั้นน่าจะอยู่ในช่วงเดือนกันยายนของปีนี้
และถึงแม้ว่าก่อนหน้าเราจะได้ยินข่าวลือมาว่า อัปเดทครั้งใหญ่นี้อาจจะถึงขั้นเปลี่ยนชื่อเวอร์ชั่นของ Windows ไปเป็น Windows 12 เลย เพราะต้องการก้าวผ่าน เข้าสู่ยุค AI PC อย่างเต็มตัว แต่ทางสื่อต้นทางบอกว่าน่าจะยังเป้น Windows 11 เหมือนเดิม
ทาง Microsoft ก็กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหญ่ๆสำหรับการอัปเดทนี้ผ่าน Insider Canary Channel ทำให้ผู้ใช้บางคนก็ได้เห็นฟีเจอร์แล้ว อย่างแรกเลยก็คือตัว Snap Layout ที่เป็นการแบ่งหน้าต่าง Windows จะฉลาดมากขึ้นเพราะมีการใช้ Machine Learning เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยระบบก็จะแนะนำแอปที่เหมาะสมสำหรับการจัดหน้าต่าง Snap เพื่อให้ผู้ใช้นั้นใช้งานง่ายมากขึ้น ไม่ต้องมาเลื่อนชนฝั่งนู้นฝั่งนี้เองทีละแอปเหมือนปัจจุบัน , ตัว File Explorer จะรองรับการสร้างไฟล์ 7zip และ tar ในตัว , ไฟล์ PNG จะรองรับการแก้ metadata ในตัว , หน้า Quick Setting จะถูกอัปเดทแก้ไขเพิ่มเติม , Phone Link จะได้ฟีเจอร์ใหม่อย่างเช่นทำให้ Smartphone ที่เชื่อมต่ออยู่นั้น ทำหน้าที่เป็น Webcam ได้
และทั้งหมดนี้ก็คือฟีเจอร์คร่าวๆที่เหล่านักพัฒนาใน Insider Program ได้เห็นมาแล้ว .. แต่ก็แน่นอนครับ ว่าตอนที่ Update ปล่อยออกมาแบบ Official จริงๆนั้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงบางส่วน อันไหนทีดีก็อาจจะพัฒนาต่อ อันไหนที่ลองใช้แล้วมันไม่ค่อยโอเค ก็อาจจะมีการเอาไปปรับปรุงใหม่หรือนำออกไปเลย .. แต่จากที่อ่านมา ดูแล้วก็ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานทั้งนั้น
ทีนี้กลับมาเรื่องชื่อกันบ้าง .. สาเหตุอะไรที่ Microsoft จะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนชื่อ Operating System ไปเป็น Windows 12 นั้นก็ยังไม่มีใครทราบได้ นอกจาก Microsoft เอง เนื่องจากทั้งหมดนี้มันก็เป็นการคาดเดาทั้งหมด แต่ส่วนตัวผมคิดว่า การเปลี่ยนชื่อรุ่น Windows เลยนั้นอาจจะเป็นอะไรที่ใหญ่เกินไปสำหรับการอัปเดทเพิ่มฟีเจอร์เฉยๆ ทำให้เราอาจจะควรเรียกสิ่งนี้ว่า Update มากกว่า .. ไว้รอการออกแบบใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น หรือ เปลี่ยนประสบการณ์ใช้งานที่ชัดเจนกว่านี้ ค่อยเปลี่ยนเป็น Windows 12 จะดูเหมาะสมกว่า มิเช่นนั้นมันอาจจะดูกลายเป็นว่าซอยรุ่นมากเกินไปก็ได้
ข้อมูล : TechPowerUp