การอัปเดทตัวระบบปฏิบัติการ (OS) จัดว่าเป็นเรื่องที่หลายๆคนปวดหัวและไม่อยากจะทำเลย เพราะมันเสียเวลาและดูยุ่งยาก แม้ว่าสมัยนี้การอัปเดท OS โดยเฉพาะ Windows จะง่ายดายขึ้นกว่าเดิมเยอะ และเหมือนจะถูกบังคับให้อัปเดทแล้วก็เถอะ หลายๆคนก็ยังคงปวดหัวและไม่ชอบการอัปเดทอยู่ดี .. แต่จะว่าไปแล้ว มันเป็นอะไรที่จำเป็นมากๆเลยนะครับ ในขณะที่คนทั่วๆไปอาจะคิดว่าการอัปเดทนั้นมันจะเป็นการเพิ่มฟีเจอร์เป็นหลัก ทำให้บางทีพออัปแล้วไม่มีอะไรที่เราเห็นเปลี่ยนแปลงไปเลย เราอาจจะเกิดอาการหัวร้อนได้ เพราะเสียเวลาโดยใช่เหตุ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว มีสิ่งที่สำคัญมากกว่าฟีเจอร์อยู่อีกเยอะครับ นั่นก็คือความปลอดภัยหรือการแก้ปัญหาช่องโหว่ต่างๆ
ส่ิงที่น่ารำคาญที่สุดของการอัปเดทตัว OS ส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้น การ Reboot ที่มีความจำเป็นแทบจะทุกครั้ง ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถทำอย่างอื่นบนคอมพิวเตอร์ได้ นั่งมองจอรอดูตัวเลขขยับกันไป .. และในงานระดับมืออาชีพแล้ว อันนี้ยิ่งเป็นปัญหาที่หนักกว่านั้นอีก เพราะการ Reboot นั้นหมายความว่ามี Downtime และอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งอื่นๆในระบบมากมาย ลองคิดภาพว่า Reboot ตัว Server สิครับ มันไม่ได้ส่งผลกระทบแค่เครื่อง Server เครื่องเดียวแน่ๆหล่ะ
Microsoft เองก็เห็นปัญหานี้เป็นอย่างดี และตอนนี้ก็กำลังทดสอบวิธีการอัป Security Patch โดยไม่ต้อง Reboot อยู่ .. ข้อมูลจาก Zac Bowden จาก Windows Central ก็ระบุว่า เขาเองได้มีการทดสอบ Microsoft Preview Built และได้คุยกับแหล่งที่มาของข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับอัปเดทนี้แล้ว บอกว่าการอัปเดทแบบใหม่นี้จะเรียกว่า "Hot Patching" .. ซึ่งหลักการทำงานของมันคือการ Patch ตัว Memory Code ของ Process ที่กำลังทำงานอยู่ โดยไม่จำเป็นจะต้อง Restart ตัว Process ใหม่แต่อย่างใด
ซึ่งทาง Microsoft เองก็ได้ทดลองใช้วิธีการ Hot Patching นี้กับ Windows Server 2022 ไปก่อนหน้านี้แล้ว นั่นแปลว่าฟีเจอร์เดียวกันอาจจะมาถูกใช้งานใน Windows 11 ต่อไปก็เป็นได้.. ตรงจุดนี้ ทาง Microsoft เองก็น่าจะรู้นั่นแหละครับ ว่าการวิธีการแบบนี้น่าจะลดเรื่องปวดหัวของคนไอทีได้มากขนาดไหน เพราะบางทีการ Reboot นั้นอาจทำให้อะไรหลายๆอย่างมีปัญหาได้ .. และมันก็ยังทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งาน PC ของตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ยังเพิ่มความปลอดภัย แก้ช่องโหว่ไปพร้อมกันได้ด้วย
นอกจากนั้น การ Hot Patching แบบนี้ก็จะถูกนำมาใช้กับ Xbox ด้วย นั่นแปลว่า Gamer เองก็จะได้ประโยชน์จากการไม่ต้อง Reboot ของตัว Console ทำให้เล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด
ขณะนี้ Microsoft ก็กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่นี้ใน Windows 11 Dev Channel แต่ผู้ที่จะได้ลองใช้ก็จะเป็นกลุ่มผู้ทดลองที่เปิดฟีเจอร์ VBS หรือ Virtualization Based Technology ไว้เท่านั้น .. ซึ่งอันนี้ผู้ที่เป็น Gamer อาจจะใช้ไม่ได้ เพราะมักจะปิดไว้เพื่อให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมนั้นดีขึ้น
แต่สำหรับใครที่กำลังคิดว่าการ Reboot ตอนอัปเดทจะหายไปอย่างสิ้นเชิงเลย อันนี้ก็เสียใจด้วยครับ เพราะทาง Bowden เองก็บอกว่า มันไม่ได้จะเป็นทุก Update นะที่จะ Hot Patch ได้เสมอไป อาจจะยังต้อง Reboot อยู่ในช่วงอัปเดทใหญ่ประจำเดือน หรือ อัปเดทเวอร์ชั่นใหญ่ที่เพิ่มฟีเจอร์อะไรเข้ามาแบบนั้น .. แต่การอัปเดทที่ไม่ต้อง Reboot นี้จะทำได้เฉพาะตัวที่มีการเปลี่ยนแปลง Code เล็กๆน้อยๆเท่านั้น
ฟีเจอร์ใหม่นี้จะมาพร้อมกับ Windows 11 เวอร์ชั่น 24H2 ที่จะเปิดตัวในช่วงปีนี้ .. แต่เราก็ยังไม่แน่ใจนะครับ ว่า Hot Patching แบบนี้จะออกมาให้ใช้กับผู้ใช้ Windows 11 ทุกคนหรือเปล่า หรืออาจจะจำกัดอยู่แค่กลุ่ม Windows 11 Commercial Edition แบบพวก Enterprise, Education, หรือ Windows 365 ก็เป็นได้
ข้อมูล : TechSpot



