เมื่อช่วงประมาณเดือนที่แล้ว เราก็ได้เห็นข่าวคราวของการ์ดจอ Fantasy One จากค่าย Innosilicon ที่เป็นผู้เล่นใหม่จากประเทศจีน พร้อมเคลมประสิทธิภาพใกล้เคียง GeForce RTX2070 .. ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้จริง ก็มีแนวโน้มว่าอาจจะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกหลักในตลาด นอกจาก AMD, NVIDIA รวมไปถึง Intel ARC ที่ยังไม่ได้วางจำหน่ายด้วย (ถ้า Innosilicon ทำได้จริง ไม่ได้แค่โชว์สเปกเฉยๆนะ)
ล่าสุดนี้ DigiTimes .. สื่อที่รายงานเกี่ยวกับข่าวสารเชิงลึกในวงการเทคโนโลยี ก็ได้มีการระบุว่า Innosilicon จากประเทศจีนนี้กำลังมีแผนที่จะเริ่มผลิต Wafer สำหรับใช้งานบน GPU ที่ตัวเองผลิตขึ้นอย่าง Fantasy One ในปี 2022 นี้ .. โดยชิปนั้นจะผลิตขึ้นบนเทคโนโลยี 5nm Node และรองรับการใช้งาน Ray Tracing ด้วยเช่นกัน
แต่ข้อมูลเพิ่มเติมก็ได้เผยอีกว่า ไม่ใช่แค่มี Innosilicon เจ้าเดียว ที่กำลังเดินหน้าการผลิต Wafer แต่เจ้าอื่นๆจากประเทศจีนก็จะทำเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Imagination Technologies (จับมือกับ Innosilicon), Changsha Jingjia Microelectronics และ Biren Technology .. ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ดูเป็นผู้เล่นที่เราไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตาซักเท่าไหร่ในตลาด GPU
ทีนี้เราลองมาดูกันบ้างดีกว่าว่าแต่ละเจ้านั้นมีข่าวและประวัติเป็นยังไงบ้าง .. เริ่มจาก Changsha Jingjia Microelectronics ที่เปิดตัว GPU ตัวแรกของแบรนด์ไปตอนเดือนธันวาคมที่ผ่านมา (JM9 Series) และมันทำประสิทธิภาพได้ราวๆ 80% ของ GTX950 .. และถัดมาก็จะเป็น Biren Technology ที่เปิดตัว BR100 มาตอนเดือนตุลาคม และก็ใช้เทคโนโลยี 7nm ของ TSMC ในการผผลิต แต่เจ้านี้ก็ไม่ได้มีตัวเลขเกี่ยวกับประสิทธิภาพออกมาให้เราเห็นแต่อย่างใด
สุดท้ายแล้ว ด้วยตัวเลขประสิทธิภาพของแต่ละตัวที่โผล่มานั้น ก็ทำให้เราคิดไว้ก่อนได้ว่า .. มันจะสามารถเข้ามาเขย่าตลาดการ์ดจอได้จริงหรือเปล่า เพราะว่าต่อให้เป็นแบรนด์น้องใหม่ก็จริง แต่ประสิทธิภาพไม่ได้ดีเด่นอะไรจนถึงขั้นที่ทำให้ผู้ใช้ตลาดหลักที่เคยใช้การ์ดจอของ AMD และ NVIDIA กลับมามองได้ และที่สำคัญมันก็มีแค่ตัวเลขออกมาเคลมให้เห็น ไม่ได้มีการนำมาขายจริงให้เราได้ซื้อหากันใช้เลยด้วยซ้ำ
แต่ไม่แน่ถ้าแบรนด์พวกนี้สามารถทำสำเร็จได้อย่างที่บอก แม้ว่าประสิทธิภาพไม่ได้แรงเหมือนกับตัวบนๆของเจ้าตลาด แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะตีตลาดล่างๆในกลุ่มราคาประหยัด โดยเฉพาะกับในประเทศจีนเอง ที่กำลังการซื้อ Hardware ก็เยอะพอสมควร .. งานนี้ถ้าเป็นได้อย่างที่ว่า AMD กับ NVIDIA (รวมไปถึง Intel) ก็อาจจะมีการสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดได้บ้างเหมือนกันครับ
ข้อมูล : TechPowerUp