ถ้าเราย้อนไปในช่วงประมาณสิบปีก่อน มันจะมีเกมอยู่หนึ่งเกมที่ขึ้นชื่อว่าโคตรกินสเปค เพราะภาพนั้นเน้นความสมจริงมากๆ .. ประมาณว่ามีแค่คอมพิวเตอร์ระดับสเปคจัดเต็มเท่านั้นถึงจะเล่นได้อย่างไม่มีปัญหา โดยเฉพาะค่า Setting ของกราฟฟิคที่ถ้าปรับสุดแล้วหล่ะก็ แม้กระทั่งคอมพิวเตอร์ระดับท๊อป การ์ดจอระดับเทพยุคนั้นอย่าง GeForce 8800 Ultra ยังมีเจออาการกระตุกบ้างเป็นจังหวะ .. แน่นอนว่าเกมนี้คือ Crysis ที่จนปัจจุบันยังเป็น Meme กันอยู่ว่า "can it run crysis?" หรือเล่น crysis ไหวมั้ย !!
ผ่านมาตอนนี้ในปี 2020 ก็มีเกมฟอร์มยักษ์อีกเกมนึงที่ดูแล้วเหมือนจะได้ฉายาตัวกินสเปคตัวใหม่ซะแล้ว ! .. เกมที่ว่านี่ก็คือหนึ่งในเกมที่มีคนรอเล่นมากที่สุดตลอดกาล อย่าง Cyberpunk 2077 นั่นเอง สาเหตุก็คือผู้พัฒนาเกมนี้อย่าง CD Projekt Red ล้วนๆเลยครับ โดย CD Projekt Red เองนั้นขึ้นชื่อว่าจะไม่ทำให้ผู้เล่นผิดหวัง ซึ่งผู้เล่นที่เคยเล่น The Witcher 3 จะเข้าใจเป็นอย่างดี เพราะมันเป็นเกมที่ครบเครื่องทุกรสชาติจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง กราฟฟิค และความอิสระ .. ทำให้หลายๆคนหวังว่า Project ยักษ์ใหญ่ต่อไปของค่ายอย่าง Cyberpunk 2077 จะต้องให้อารมณ์เดียวกันหรือดีกว่า
ตัวเกม Cyberpunk 2077 ก็จะเปิดจำหน่ายวันที่ 10 ธันวาคม นี้แล้ว แต่ตอนนี้สื่อมวลชนหลายๆที่ก็ได้ตัวเกมไปเล่นกันก่อน พร้อมตีพิมพ์รีวิวกันไปเป็นที่เรียบร้อย .. ส่วนพวกสื่อที่เน้นความเป็น IT หลักๆก็คงไม่พลาดที่จะต้องเอาประสิทธิภาพของตัวเกมมาโชว์ ว่าถ้าเล่นกับสเปคนี้ สเปคนั้น แล้วมันผลออกมาเป็นยังไง .. อย่างบทความที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ก็จะเป็นบทวิเคราะห์ทางด้านประสิทธิภาพล้วนๆจาก Tom's Hardware นั่นเองครับ
สำหรับเรื่องกราฟฟิค เกมนี้ทาง CD Projekt Red ได้มีการจับมือกับ NVIDIA โดยตรง เพื่อที่จะทำให้เทคโนโลยี Realtime Ray Tracing และ DLSS นั้นทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด .. แต่จากผลทดสอบที่เราเห็นมาจากเวบ Tom's Hardware แล้วหล่ะก็ ใครก็ตามที่ใช้การ์ดจอ GTX1070 หรือ RX5600XT จะสามารถเล่นได้แค่ค่า Settings ระดับ Medium เท่านั้น ถ้าต้องการเฟรมใกล้เคียง 60FPS บนความละเอียด 2K ถ้าอยากเห็น 60FPS อาจจะต้องขยับไปที่ RTX2060 Super หรือ RX5700XT ขึ้นไปเท่านั้น .. และถ้าอยากเล่นที่ 4K จะต้องเป็น RX6800XT หรือ RTX3080 เท่านั้น (อันนี้แค่ปรับ Medium นะครับ !)
มองด้านค่า Settings ระดับ Ultra บ้าง .. ค่า Settings ระดับ Full HD ผู้ใช้จะต้องมีการ์ด RTX2060 Super หรือ RX5700XT หรือมากกว่านั้น เพื่อที่จะมีเฟรมแตะ 60FPS .. ถ้าเป็น 1440p หรือ 2K จะต้องเป็น RTX3070 หรือ RX6800 ขึ้นไป .. และยิ่งปรับความละเอียดสูง เหมือนความต้องการระบบจะมากขึ้นอีกอย่างน่าตกใจ เพราะว่าระดับ 4K นั้น RTX3090 ทำเฟรมเฉลี่ยได้แค่ 46FPS และ RX6800XT ทำได้แค่ 34FPS เท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตัวเกมมันก็เป็นเวอร์ชั่นแรก ตัว Driver ของการ์ดก็ยังไม่ได้มีการ Optimized ให้เหมาะสมกับตัวเกมซักเท่าไหร่ แม้กระทั่งตัวเกมเอง ไม่วัดกันเรื่องประสิทธิภาพและ Frame Rate นักรีวิวก็บอกว่ามันยังมีบัคอยู่เยอะมากๆ .. ในอนาคต ถ้าตัวเกมมีการอัพเดทแก้บัคต่างๆแล้ว เราก็หวังว่าประสิทธิภาพมันจะดีขึ้นด้วยนะ ไม่อย่างนั้นถ้าอยากเล่นเกมนี้แบบสุดทุกอย่าง คงต้องใช้คอมราคาเรือนแสนเป็นแน่แท้
ข้อมูล : wccftech