หลังจากสถานการณ์การ์ดจอขาดตลาดนั้นยืดเยื้อมาเป็นเวลานับปี โดยนับวันจะมีแต่ข่าวร้าย เนื่องด้วยสถานการณ์ชิปขาดตลาด และ ความต้องการของการ์ดจอที่สูง ทำให้ราคาพุ่งขึ้นไปไกลกว่าราคาเปิดตัวที่ทางแบรนด์กำหนดมาหลายเท่าตัว และถึงแม้ราคาจะสูงมาก แต่ในต่างประเทศเราก็ได้เห็นสต๊อกตามร้านค้า Retail ต่างๆถูกกวาดหมดภายในระยะเวลาไม่กี่วินาทีหลังจากวางขาย ไม่ว่าผู้ซื้อจะเป็นคนที่ต้องการเอาไปใช้งานจริงๆ หรือ กักตุนเพื่อทำกำไรต่อก็ตาม
ล่าสุดนี้เหมือนว่าเราได้เห็นสถานการณ์ของขาดตลาดนั้นเริ่มคลี่คลายแล้วครับ เนื่องจากเว็บไซต์ต่างประเทศหลายแห่งได้เปิดให้เราออเดอร์การ์ดจอรุ่นใหม่ๆทั้ง AMD Radeon RX6000 Series และ NVIDIA GeForce RTX30 Series หลังจากที่ขึ้น Out of Stock มาเป็นระยะเวลาหลายเดือน .. แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าของจะเริ่มมีขายแล้ว แต่ราคาก็ไม่ได้ปรับตัวลงมาอย่างเหมาะสมแต่อย่างใด
ซึ่งถ้าเปรียบเทียบราคาในฝั่งยุโรป ไม่ว่าจะเป็น France, Germany หรือ Portugal ในโซนฝั่งยุโรป และทาง United States เองก็ตาม เราก็ได้เห็นเทรนด์เดียวกัน ก็คือมีตัวเลือกการ์ดจอให้เลือกหลายร้อยใบจากหลากหลายร้าน Retailer รวมไปถึงเว็บไซต์ใหญ่อย่าง Newegg ที่สินค้าไม่ได้ขึ้น Out of Stock อีกต่อไป สามารถกดซื้อได้เลย
สาเหตุอะไรที่ทำให้สต๊อกการ์ดจอกลับมามีของอีกครั้ง ? .. คำตอบก็คือสถานการณ์ของตลาด Cryptocurrency ที่มีการทุบราคาลงมาครั้งใหญ่ ทำให้การลงทุนนั้นอาจจะไม่น่าสนใจเท่าเมื่อก่อน นักขุดทั้งหลายก็ไม่ได้หาการ์ดจอมาเติม Rig ตัวเอง เพราะระยะเวลาการคืนทุนก็จะไม่ได้เร็วเหมือนเมื่อก่อนครับ ซึ่งในช่วงที่ราคาร่วงลงมาหนักๆนั้น ระยะเวลาคืนทุนของนักลงทุนแรกเริ่ม ก็อาจจะยาวนานถึง 500 วัน .. และบวกกับที่เหรียญยอดนิยมสำหรับการ์ดจออย่าง Ethereum ที่กำลังจะเปลี่ยนรูปแบบไปเป็น Proof of Stake (PoS) ไม่จำเป็นต้องใช้การ์ดจอขุดอีกต่อไป ทำให้ความต้องการของการ์ดจอที่จะเอาไปขุดเหรียญตัวนี้ลดลงด้วยครับ
และเหตุผลอะไรหล่ะ ? ทำไมการ์ดจอหาซื้อได้ง่ายแล้ว แต่ราคานั้นยังสูงทะลุฟ้า ไม่ได้ปรับลงอย่างรวดเร็วตามหลักการ Demand and Supply อย่างที่เราคาดการณ์กัน ? คำตอบก็คือ ต้นทุนทางการผลิตที่สูงขึ้นมาตั้งแต่ต้นครับ ด้วยสภาวะชิปขาดตลาดเนื่องจากโรคระบาด COVID-19 แม้ว่าการ์ดจอจะมีความต้องการน้อยลง แต่ Silicon ที่นำมาใช้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหมดนั้นยังมีราคาที่สูงกว่าก่อนช่วงโรคระบาดอยู่มาก นั่นทำให้ผู้ผลิตการ์ดจอ ไม่ว่าจะเป็น AMD หรือ NVIDIA ก็ต่างต้องเจอต้นทุนราคา Wafer ที่สูงขึ้น และแน่นอนว่าราคานี้ก็จะตกทอดต่อไปจนถึงมือผู้บริโภคอย่างเราๆ
แต่ส่วนตัวผมก็เชื่อว่าต่อให้ชิปขาดตลาด หรือ ต้นทุนการผลิตมันสูงขึ้น แต่สาเหคุของราคาการ์ดจอที่แพงกว่าราคาเปิดตัวหลายเท่านั้น แท้จริงมาจากพวกกักตุนที่มีการอัปราคาขึ้นไป และยังมีผู้บริโภคที่ยินดีจะจ่าย จึงทำให้ผลออกมาอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้ ... วิธีการแก้ก็ไม่ยากครับ ตอนนี้ร้านต่างๆก็เริ่มมีการสต๊อกของมากขึ้นแล้ว หมายความว่ามันไม่ได้ขาดตลาดรุนแรงเหมือนเมื่อก่อน ทำให้ Supply นั้นอาจจะมีพอกับ Demand ถ้าผู้บริโภคยอมอดทนรอซักหน่อย ไม่ซื้อการ์ดจอที่ราคาสูงเกินความเป็นจริง ผมเชื่อว่าไม่นานนี้ ร้านและคนกักตุนทั้งหลาย อาจจะยอมปรับราคาลงมาบ้างก็ได้ เพราะในเมื่อของมันมีขายแล้ว แต่คนไม่ยอมซื้อกัน ก็แน่นอนนั่นแหละครับ ที่เขาจะต้องปรับราคาลง
ข้อมูล : Tom's Hardware