อย่างที่รู้ๆกันครับ การ์ดจอขาดตลาด เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน ทำให้วงการคอมพิวเตอร์ต้องสะเทือนกันยกใหญ่ ทั้งคนที่ประกอบคอมอยากเล่นเกม ก็จำเป็นต้องจ่ายแพงมากขึ้นเพื่อให้ได้สเปกเท่าเดิม ส่วนคนทำงานก็เช่นกันจะหาคอมมาใช้ซักเครื่องก็ต้องลงทุนมากขึ้น .. ซึ่งปัญหาตรงนี้ก็เกิดขึ้นมาซักพักใหญ่ๆ และไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้นอะไรแต่อย่างใด
ล่าสุดนี้ทาง NVIDIA ออกมาให้ข้อมูลว่า จำนวนสต๊อกการ์ดจอของบริษัทตัวเองนั้น จะมีสถานะที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของ 2022 .. โดย Chief Financial Officer คุณ Colette Kress ได้ให้ข้อมูลในงาน UBS Global TMT Conference เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประมาณว่า "บริษัทกำลังพยายามที่จะต่อสู้กับปัญหาชิปขาดตลาด และผลิตสินค้าออกมาให้ได้มากที่สุด .. และปีนี้เราก็ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทุกไตรมาส และเราคาดว่าจะโตขึ้นอีกในไตรมาสถัดไป .. ส่วนปัญหาเรื่องของขาดตลาดนั้น สถานการณ์จะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของ 2022 นี้
อย่างไรก็ตาม ที่ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นนั้น ก็เป็นในช่วงหลัง NVIDIA จะเปิดตัวการ์ดจอใน Generation ถัดไปนะครับ ไม่ใช่ว่าจะเป็น RTX3000 Series แต่อย่างใด .. ซึ่งทาง NVIDIA ก็ได้บอกว่าทางบริษัทได้มีการลงทุน กับสัญญาในการจ้างผลิตอุปกรณ์ต่างๆที่มากขึ้นนั่นเอง
แต่ว่าคุณ Kress ก็ไม่ได้รับปากว่าปัญหาจะจบลงอย่างสิ้นเชิง หรือ ยืนยันว่าจำนวนของที่ขายนั้นจะพอกับความต้องการของตลาดแต่อย่างใด เพียงแค่บอกว่าสถานการณ์นั้นจะดีขึ้น จากการลงทุนในด้านการผลิตของบริษัทที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น .. แบบนี้ก็หมายความว่า ต่อให้จำนวนของมีมากขึ้น แต่ถ้ากลุ่มพวกกักตุน ซื้อมาขายไปเพื่อทำกำไร และ นักขุด Cryptocurrency ที่พร้อมจะเหมาสต๊อกยังมีอยู่ ต่อให้ของมากขึ้นแค่ไหน ก็ไม่พอสำหรับกลุ่ม Gamer ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ NVIDIA ตั้งใจจะขายให้อยู่ดี
ปัจจุบันนี้ NVIDIA ก็ได้มีมาตรการหลายอย่างเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้การ์ดจอของตัวเองตกไปอยู่ในมือนักขุดเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการลดประสิทธิภาพสำหรับการขุด Cryptocurrency ตัวหลักๆ เช่น Ethereum ไปประมาณ 50% .. แต่หลายๆคนก็มองว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรจริงๆเลย เพราะมันก็สามารถขุดเหรียญอื่นได้ หรือ หาวิธีการปลดล๊อคแรงขุดออกมาได้อยู่ดีนั่นแหละครับ
ข้อมูล : PCMag