คีย์บอร์ด Contour ESPORT MASTER พกเอาฟีเจอร์เพื่อนักเล่นเกมมาให้อย่างน่าสนใจ ทั้งในเรื่องสีสันจากไฟ LED การกดใช้งานพร้อมๆ กันได้มากกว่า 10 ปุ่ม ไม่ปัญหาเรื่อง Ghosting แม้จะเป็นคีย์บอร์ดประเภท Membrane ซึ่งต้องจุดนี้เองก็ทำให้มันมีเสียงรบกวนที่ต่ำไปด้วย
เราเองก็ไม่แน่ใจว่าเลย์เอาต์ของคีย์บอร์ดตัวนี้เป็นมาตรฐานอะไร แต่ดูใกล้เคียงกับเลย์เอาต์ 107/ABNT ด้วยรูปทรงของปุ่ม Enter นอกจากนั้นปุ่ม Shift ทางด้านซ้ายก็ยังมีขนาดใหญ่ ใกล้ๆ กันก็ยังมีปุ่ม G-Keys สำหรับการตั้งค่าและเรียกใช้ปุ่มมาโคร ขณะที่ตำแหน่งปุ่มอื่นๆ ก็ถือว่าคล้ายกับคีย์บอร์ดทั่วไป ก่อนจะไปลงลึกในเรื่องต่างๆ มาดูจุดเด่นของคีย์บอร์ดตัวนี้กันก่อน
Key Features
- 10 million Keystroke life span
- Backlighting with 7 differences color
- Laser printed letters on key caps
- Spill resistant body
- Full multimedia function
- USB Power charger
- Size 496x192x39 mm.
- Cable length 1.65 meter
ด้วยการที่มันเป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งจึงสอดแทรกเรื่องของความสวยงามจากไฟ LED มาให้ด้วย โดยมันถูกโปรแกรมมาให้แบบสำเร็จ 8 เอฟเฟ็กต์ อย่างเช่น Breathing, Rainbow, Static, Push pulse ฯลฯ รวมถึงเอฟเฟ็กต์ Echo หรือกระพริบตามเสียงภายนอก ซึ่งสีสันจะสลับสีอัตโนมัติ นอกจากนั้นก็มีฟังก์ชันที่จำเป็นอย่างเช่น Windows Lock รวมถึงปุ่มมัลติมีเดียบนปุ่ม F1-F12 ที่กดใช้งานเหมือนกันคือ กด FN+Key Function
สำหรับคีย์แคปผลิตจากวัสดุพลาสติก ซึ่งเป็นสีขาวขุ่น โปร่งแสง และพิมพ์ตัวอักขระด้วยการยิงเลเซอร์ ความคมชัดของตัวอักษรหรือแม้แต่ขนาดฟอนต์ถือว่าทำได้ดีเลย แต่ด้วยการที่มันเป็นปุ่มแบบ Membrane รวมถึงการออกแบบแผงด้านใน ทำให้ทิศทางของแสงไฟ LED บางส่วนลอดออกมาบริเวณขอบๆ ขณะที่ไฟส่วนใหญ่ก็จะวิ่งตรงเข้ามาที่คีย์แคป ซึ่งการใช้งานในเวลากลางคืนหรือปิดไฟ ความสว่างอยู่ในระดับที่ใช้งานได้ไม่มีปัญหาอะไร ตัวอักษรบนและล่างมีแสงไฟลอดออกมาให้มองเห็นได้ชัดพอสมควร ส่วนการใช้งานเวลากลางวัน เปิดไฟในห้องทำงาน คีย์แคปลักษณะนี้ใช้งานได้ดีเลย แต่ถ้าไม่ชอบไฟก็ปิดได้ด้วยปุ่มเดียว
จุดนี้ โดยส่วนตัวแล้วชอบมาก ซึ่งจริงๆ แล้วเราอยากให้คีย์บอร์ดเกมมิ่งอื่นๆ เอาแบบอย่าง เพราะมันทำให้ชีวิตในยุค Mobile First สะดวกมากขึ้น ที่สำคัญในภาพเปิดบทความหรือบางเลย์เอาต์ของคีย์บอร์ด คุณจะเห็นร่องขนาดใหญ่บริเวณส่วนบนของคีย์บอร์ด จุดนั้นเอาไว้วางสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตก็ได้ ความหนาสูงสุดที่จะใช้งานได้ก็คือ 13 มิลลิเมตร เคส UAG Plasma ว่าหนาๆ ยังใส่ได้สบายๆ ดังนั้น ใช้พีซีไป ชาร์จสมาร์ทโฟนไปก็ทำได้ แต่อย่าลืมตรงนี้เป็นแค่มาตรฐาน USB 2.0 เท่านั้น
ฐานล่างของคีย์บอร์ด Contour ESPORT MASTER จะไม่มีตัวปรับความสูงมาให้ แต่มี Rubber Feet หนาๆ ให้ 4 จุด กันลื่นไถล ส่วนที่เห็นช่องๆ ก็นั่นคือ ช่องระบายน้ำ หากคุณทำน้ำหกใส่โดยไม่ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม ที่ต้องชมเชยก็คือ การออกแบบตัวฐานแบบเล่นระดับ ทำให้คีย์บอร์ดมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น
การทำมาโครคีย์กับปุ่ม G1-G4 ตรงนี้ทำการบันทึกหรือเรียกใช้โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ วิธีการบันทึกก็แค่ กดปุ่ม FN+PrintScreen จากนั้นไฟอักษร S บริเวณไฟ Numlock จะกระพริบ ต่อมาคุณก็แค่พิมพ์มาโครที่ต้องการลงไป อาจจะเป็นท่าไม้ตายสักท่าของเกม Fighting ก็ได้ จากนั้นเลือกปุ่ม G1-G4 ที่ต้องการ เป็นอันเสร็จสิ้น วิธีใช้ก็คือ กดใช้เดี่ยวๆ เลย ส่วนการล้างคีย์ก็กดปุ่ม FN+ PrintScreen และกดปุ่ม G1-G4 ที่ต้องการเป็นอันเสร็จสิ้น
ปัญหาเรื่อง Ghosting เราไม่พบบนคีย์บอร์ดตัวนี้ และในการทดลองกดปุ่มเบื้องต้น มันกดได้พร้อมกันอย่างน้อย 10 ปุ่ม ซึ่งในกรณีของการกด WASD พร้อมๆ กับปุ่ม Q หรือ E ในเกม FPS เพื่อเอียงปืนพร้อมกับขยับตัวละครไปมาก็ทำได้ไม่มีปัญหา ในเบื้องต้นคือ สอบผ่านสบายๆ
Conclusion!!
ในวันที่รีวิว เรายังไม่ทราบราคาของคีย์บอร์ดตัวนี้ แต่จากฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใช้ประโยชน์ได้ดีกับชีวิตจริง ความสวยงามของแสงสี การตอบสนองการกดที่ทำได้อย่างน้อย 10 คีย์ ถือว่ามันเป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ชอบเสียงรบกวนจากคีย์บอร์ด Mechanical Switch ส่วนความรู้สึกจากการลงไปเล่นเกม Pubg ถือว่า ทำได้น่าพอใจ การตอบสนองทำได้ดี อาจจะรู้สึกเหมือนดีเลย์เล็กๆ เนื่องจากระยะของปุ่มค่อนข้างลึก ส่วนการใช้พิมพ์งานเอกสาร มีการติดขัดเล็กน้อย แต่มันเป็นปัญหาจากความไม่คุ้นชินกับเลย์เอาต์ของคีย์บอร์ด
ดังนั้นใครกำลังมองหาคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่เสียงไม่ดังน่ารำคาญ มีฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์ในแบบที่คีย์บอร์ดทั่วไปให้ไม่ได้ เราขอแนะนำให้ลองพิจารณา Macnus Contour ESPORT MASTER ตัวนี้
Thanks: บริษัท สปา ออฟฟิต ซัพพลายส์ จำกัด (www.facebook.com/HP-Gadgets)