ก่อนหน้านี้เราได้เห็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้ขุมพลัง Qualcomm Snapdragon X Elite ไปแล้ว.. หลักๆแล้วจุดเด่นของมันก็คือเป็นชิปบนพื้นฐาน ARM ไม่ใช่ x86 เหมือนของ Intel และ AMD คือตอนเปิดตัวมานี่กระแสมาแรงมากครับ เพราะ Apple เองก็ย้ายจากฝั่ง x86 ไปเป็น ARM แล้ว ได้เห็นว่าประสิทธิภาพต่อการบริโภคพลังงานนั้นจัดว่าทำได้อย่างน่าประทับใจมาก
แต่พอ Snapdragon X Elite เปิดตัวออกมาในโน๊ตบุ๊คหลายๆรุ่น เราก็จะเห็นว่ากระแสมันกลับไม่ได้แรงเหมือนตอนที่เป็นข่าวเลย ด้วยสาเหตุหลักๆคือมันมากับโน๊ตบุ๊คที่ราคาสูง ยังไม่เห็นมากับรุ่นที่ราคาประหยัดซักตัว .. ด้วยเหตุผลอันนี้ และ ชื่อชั้นของชิปเองก็ยังไม่ได้โด่งดังเท่าของเจ้าตลาด ก็เลยเหมือนจะเงียบหายไปตามกาลเวลา กระแสของ Windows on ARM ก็เลยไม่ได้เกิด
แท้จริงแล้วชิปประมวลผลจากทาง Qualcomm นั้นมีอยู่สองรุ่นด้วยกันครับ คือ Snapdragon X Elite ที่เปิดตัวไปนั้นจะเป็นรุ่นท๊อป มันจึงมากับโน๊ตบุ๊คที่ราคาสูงซักหน่อย แต่ทาง Qualcomm ตระกูล Snapdragon X เองก็มีอีกรุ่น นั่นก็คือ Snapdragon X Plus ที่ออกแบบมาสำหรับกลุ่มงบประมาณที่น้อยลงมาหน่อย
ล่าสุดนี้เราได้ข่าวของ ชิปประมวลผล Snapdragon X Plus หรือชื่อรุ่นว่า X1P-42-100 (ไม่รู้ใครคิดชื่อนี้) ที่จะเป็นชิปประมวลผลของ PC Windows on ARM ในงบประมาณต่ำกว่า $700 และคาดการณ์ไว้ว่าจะมาถึงในช่วงปีหน้า
ทางสื่อ Wccftech ก็ได้มีการรวบรวมผล Benchmark ของ SoC รุ่นดังกล่าวมาจากเครื่อง Asus ProArt PZ13 ที่จะมากับชิปรุ่นประหยัดที่สุดของ Snapdragon X ที่ว่านี่แหละครับ ..
อย่างแรกเลยก็คือในเรื่องของประสิทธิภาพในด้าน Single Core ก็จะเห็นว่ารุ่น X1P-42-100 นี้ด้อยลงจากรุ่นบนกว่าอย่าง X1P-64-100 อยู่ราวๆ 5% ส่วน Multi-Core ก็จะด้อยลงไปถึงระดับ 20% เพราะว่าจำนวน Core มันก็หายไป 20% จริงๆ
แต่ไม่ว่ายังไง ด้านประสิทธิภาพ Single Core ของมันก็จัดว่าทำได้ดีกว่า AMD Ryzen 9 8945HS และ Intel Core Ultra 9 185H ใน Geekbench 6 อยู่ .. แต่ด้าน Multi-Core ก็ยังจัดว่าแพ้ แม้ว่าจะมีจำนวน Core ใกล้เคียงกันก็ตาม .. อย่าง Ryzen 9 8945HS เองก็มี 8-Core แต่กลับทำคะแนนตรงนี้ได้ดีกว่าราวๆ 200 คะแนนด้วยกัน
ทีนี้มามองด้าน GPU กันบ้างครับ ตรงนี้ดูแล้วน่าจะเป็นจุดด้อยของ Snapdragon X Plus รุ่นดังกล่าวเลยหล่ะ Graphic Score ของ 3DMark Time Spy .. ชิปรุ่นนี้ทำไว้ได้แค่ 916 คะแนนเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบกับตัวที่เป็น 10-Core แล้ว ถือว่าน้อยกว่าถึง 40% เลยทีเดียวครับ .. ส่วน Steel Nomad ก็ทำได้ที่ 1,159 คะแนน น้อยกว่ารุ่นพี่ระดับ 40-50% เช่นกัน
ด้านการเล่นเกมก็จัดว่าทำได้ไม่ดีเท่าไหร่เหมือนกัน จาก Benchmark ของ Shadow of the Tomb Raider ก็จะเห็นว่ามันปั่นเฟรมตอนเล่น 1080p ค่า Setting Low ได้ราวๆ 18FPS เท่านั้น และถ้าปรับไว้ที่ High ก็จะเห็นว่าร่วงลงมาถึง 33% อยู่ที่ 12FPS .. พูดง่ายๆว่ามันเล่นไม่ได้เลยแหละครับ
แม้ว่ากลุ่มราคาของโน๊ตบุ๊คที่ใช้ชิปตัวนี้จะอยู่ที่ $700 แต่คือประสิทธิภาพด้านกราฟฟิคประมาณนี้คือหายนะชัดๆ .. ไม่ต้องอื่นไกล คือคุณสามารถซื้อ MacBook Air M1 รุ่น RAM 8GB ได้ในราคานี้เลย แต่อันนั้นสามารถรันเกมเดียวกันได้ที่ 30FPS ไงครับ
แต่จะว่าไปแล้ว กลุ่มลูกค้าที่ซื้อ Notebook ที่ใช้ชิปรุ่นนี้ก็คงไม่ได้สนใจในการเล่นเกมหรือประสิทธิภาพด้านกราฟฟิคมากอยู่แล้วหล่ะครับ .. คนที่ซื้อไปน่าจะใช้ Web-Based App หรือลองฟีเจอร์ AI PC กันมากกว่า .. อีกอย่างนึงคือจุดประสงค์ของเครื่องนี้ก็คืออายุการใช้งาน Battery ที่ยาวนาน ถึงขั้นที่แบบถ้าไม่ได้ใช้งานหนักมาก อาจจะชาร์จโน๊ตบุ๊คอาทิตย์ละครั้งเลยก็เป็นไปได้
ข้อมูล : Tom's Hardware