รู้หรือไม่ว่าอุปกรณ์ Smart Device ต่างๆที่อยู่รอบตัวเรานั้น บางอันมีไมโครโฟนที่เปิดทิ้งไว้เพื่อฟังเราตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น Smart Speaker ที่คอยฟังคำสั่ง Alexa หรือ Hey Google ทั้งหลาย .. แม้กระทั่ง Smartphone ที่มี Google Assistant หรือ Siri ก็ต่างพร้อมรับคำสั่ง ถ้าเราตั้งค่ามันไว้ทั้งนั้น หรือลามไปยันกระแส Facebook ที่หลายๆคนว่ากันว่ามันดักฟังเราอยู่ตลอดเวลา แค่เราพูดเรื่องอะไรไป ไม่นานก็โผล่มาเป็นโฆษณาบน Feed ให้ตกใจกันเล่นๆ
ตรงนี้ก็อาจจะทำให้ใครหลายๆคนรู้สึกไม่สบายใจ แม้ว่าบางทีอุปกรณ์เหล่านั้นมันอาจจะไม่ได้ฟังอยู่ตลอดก็ตาม .. ทีนี้นักวิจัยจาก University of Chicaco จึงได้มีการคิดค้นกำไลข้อมือที่สามารถป้องกันการดักฟังจาก Microphone ได้ / หลักการทำงานก็คือ บนตัวกำไลจะมีลำโพงอยู่ทั้งหมด 24 จุด แต่ละจุดจะมีการปล่อยคลื่น Ultrasonic ออกมา เพื่อที่จะทำให้อุปกรณ์ไมโครโฟนอื่นๆที่อยู่รอบตัวนั้น ไม่สามารถจับเสียงของเราได้นั่นเอง
การออกแบบของกำไล ไม่ได้เน้นไปในเชิงแฟชั่นแต่อย่างใด แต่เน้นแค่ประสิทธิภาพในการส่งคลื่นเสียงรบกวนไมโครโฟนรอบข้าง และด้วยลำโพงที่มีจำนวนมากถึง 24 จุดในหลากหลายทิศทาง การส่งสัญญาณรบกวนนั้นจะทำได้ในแบบ Omnidirectional แม้กระทั่งเวลาที่ผู้สวมใส่นั้นมีการเคลื่อนไหวอยู่ก็ตาม ทางด้านประสิทธิภาพมันยังทำได้ดีกว่าตัวปล่อยสัญญาณรบกวนแบบอยู่กับที่ด้วย
ตอนนี้กำไลดังกล่าวก็ยังถือว่าเป็นโปรดักส์แบบ Prototype และมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะเอาไปใช้งานได้อย่างสะดวกในชีวิตประจำวัน เนื่องจากภายในนั้นเต็มไปด้วยแผงวงจรและแบตเตอรี่ .. แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักวิจัยก็ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ถ้ากำไลแบบนี้จะถูกนำมาขายในตลาดจริง ราคาก็น่าจะอยู่ที่ราวๆ $20 เท่านั้น ทำให้มันน่าจะเป็นทางเลือกสำหรับคนที่จิตตก กังวลว่ามีอุปกรณ์ Smart Device ฟังอยู่ตลอดเวลาได้เป็นอย่างดี
แต่ถ้าเรามามองใยแง่จริยธรรม กำไลตัวนี้ก็สามารถสร้างความปั่นป่วนได้ไม่น้อย เพราะการที่มันปล่อยคลื่น Ultrasonic ออกมานั้น มันไม่ได้กำหนดว่าจะไม่สามารถดักฟังได้เฉพาะคนที่ใส่ แต่การปล่อยแบบ Omnidirectional จะทำให้ไมโครโฟนของอุปกรณ์อื่นๆที่อยู่รอบข้างนั้น อาจใช้ไม่ได้ไปด้วย อย่างเช่นการใส่ในที่สาธารณะนี่น่าจะเป็นการป่วนชาวบ้านได้ไม่น้อยเลยทีเดียว .. ประโยชน์จริงๆที่จะได้ใช้ก็คืออาจจะใส่เวลาประชุมลับทางธุรกิจอะไรแบบนั้น แต่ถ้ามีผู้ไม่หวังดีเอาไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นๆแล้วหล่ะก็ คงมีผลทางด้านคดีความได้ระดับนึงเลยหล่ะ
ข้อมูล : Engadget