เกมเมอร์หลายคนไม่ได้กังวลเรื่องขนาดของการ์ดจอมากนัก เคสพีซียอดนิยมในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย มีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับการ์ดจอขนาดใหญ่ เช่น ROG Astral GeForce RTX 5090 รุ่นใหม่ของเรา อย่างไรก็ตาม ยังมีชุมชนเกมเมอร์ที่มองหาการ์ดจอที่ให้ประสิทธิภาพที่ต้องการในขนาดที่กะทัดรัดมากขึ้นอยู่เสมอ บางคนต้องการเคส SFF (Small-form-factor) ที่ประหยัดพื้นที่ ในขณะที่บางคนต้องการฮีตซิงก์ที่บางกว่าเพื่อให้เข้าถึงสล็อต PCIe x16 รองได้ ซึ่งอาจจะช่วยให้มีที่ว่างสำหรับการ์ดจับภาพ ไม่ว่าคุณจะต้องการอะไร Prime GeForce RTX 5080 ก็พร้อมสำหรับโอกาสนี้

 

เพรียวบางและสวยงามสำหรับพีซี SFF ของคุณ

ในอดีต การสร้างพีซีสำหรับเล่นเกมขนาดเล็กต้องตรวจสอบขนาดส่วนประกอบสองหรือสามครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเข้ากันได้ ปัจจุบัน กระบวนการนี้ง่ายขึ้นมากด้วยโปรแกรม NVIDIA GeForce SFF-Ready ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการสร้างพีซีประหยัดพื้นที่ด้วยการติดฉลากเคสและการ์ดจอ SFF-Ready เมื่อคุณเลือกแชสซีและ GPU ที่พร้อมสำหรับ SFF คุณสามารถมั่นใจได้ว่าทั้งสองอย่างจะเข้ากันได้ และคุณจะได้รับประสบการณ์การประกอบที่ราบรื่น Prime GeForce RTX 5080 ที่มี 2.5 สล็อตนั้นมีขนาดหนาเพียง 50 มม. และยาว 304 มม. ซึ่งพอดีกับแนวทางปัจจัยรูปแบบที่แนะนำของ NVIDIA สำหรับพีซี SFF เพื่อให้คุณประกอบพีซีประหยัดพื้นที่ได้อย่างมั่นใจ

 

ขับเคลื่อนโดย Blackwell

ด้วย GeForce RTX 50 Series NVIDIA จึงเปิดตัวสถาปัตยกรรม Blackwell รุ่นล่าสุด การ์ดจอใหม่นี้ติดตั้งคอร์ Tensor รุ่นที่ 5 มัลติโปรเซสเซอร์สตรีมมิ่งใหม่ที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับ Neural Shader และคอร์ Ray Tracing รุ่นที่ 4 ที่สร้างขึ้นสำหรับ Mega Geometry ทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีกราฟิกรุ่นต่อไปได้ สำหรับเกมเมอร์หลายๆ คน จุดเด่นของสถาปัตยกรรมใหม่นี้คือ DLSS 4 DLSS คือชุดเทคโนโลยีการเรนเดอร์แบบ Neural ที่ปฏิวัติวงการซึ่งใช้ AI เพื่อเพิ่ม FPS ลดเวลาแฝง และปรับปรุงคุณภาพของภาพ ความก้าวหน้าล่าสุด DLSS 4 นำเสนอการสร้างเฟรมหลายเฟรมและการสร้างเรย์ใหม่และความละเอียดสูงสุดที่ได้รับการปรับปรุง แต่ยังมีมากกว่านั้น NVIDIA Reflex 2 พร้อม Frame Warp มอบการตอบสนองที่ชนะเกม และการ์ดเหล่านี้พร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับคุณด้วยกราฟิกที่ติดตามเรย์ ควบคู่ไปกับการอัปเดตสถาปัตยกรรมยังมาพร้อมกับหน่วยความจำวิดีโอที่เสริมประสิทธิภาพ GeForce RTX 5080 เพิ่มแบนด์วิดท์หน่วยความจำ 34% ด้วยการอัปเกรดเป็น GDDR7 ที่รวดเร็ว VRAM 16 GB ที่เพียงพอจะทำให้คุณมีอิสระในการปรับแต่งการตั้งค่ากราฟิกในเกมใดๆ ก็ตาม แม้แต่ในความละเอียดที่สูงขึ้น

 

โซลูชันระบายความร้อนที่พร้อมสำหรับช่วงเวลาไพรม์ไทม์

Prime GeForce RTX 5080 นั้นบางและเพรียวบาง แต่เราใช้ประโยชน์จากทุกตารางนิ้วเพื่อสร้างโซลูชันระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ ใหม่สำหรับรุ่นนี้คือแผ่นระบายความร้อน GPU แบบเปลี่ยนเฟส แผ่นระบายความร้อนนี้ให้การนำความร้อนที่เหนือกว่าและการระบายความร้อนที่ดีขึ้นด้วยการหลอมละลายเพื่อเติมช่องว่างระหว่าง GPU และโมดูลระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้ประสิทธิภาพที่เหมาะสมที่สุด แผ่นระบายความร้อนแบบเปลี่ยนเฟสมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าน้ำยาระบายความร้อนแบบเดิม ทำให้คุณสบายใจได้ว่าโซลูชันระบายความร้อนของการ์ดของคุณถูกสร้างมาเพื่อการใช้งานที่ยาวนาน

 

ตัวกระจายความร้อนที่อยู่ด้านบนของ GPU ยังได้รับความเอาใจใส่เป็นพิเศษด้วยการออกแบบ MaxContact ของเรา กระบวนการผลิตนี้ขยายพื้นที่ผิวของตัวกระจายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 5% เมื่อเทียบกับการออกแบบดั้งเดิม ห้องระเหยและแผ่นระบายความร้อนขนาดใหญ่จะดูดซับความร้อนจากการ์ด ช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพระดับพรีเมียมในการทำงานที่หนักหน่วง เทคโนโลยีเหล่านี้เมื่อใช้ร่วมกับพัดลม Axial-tech ที่ทรงพลัง จะปรับปรุงอุณหภูมิได้สูงถึง 2°C

 

Prime GeForce RTX 5080 มีพัดลม Axial-tech สามตัว โดยแต่ละตัวมีฮับที่เล็กกว่าซึ่งช่วยให้ใบพัดยาวขึ้นและวงแหวนกั้นเพื่อเพิ่มแรงดันอากาศลงเพื่อให้อุณหภูมิต่ำลง เสียงรบกวนน้อยลง และประสิทธิภาพที่สูงขึ้น แผ่นหลังระบายอากาศที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับการไหลของอากาศทำงานร่วมกับพัดลมแบบไดนามิกเหล่านี้เพื่อควบคุมระดับเสียงและอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เข้มงวด สำหรับการทำงานที่เงียบภายใต้ภาระงานเบา การ์ดกราฟิกเหล่านี้มีเทคโนโลยี 0dB ที่ช่วยให้พัดลมหยุดหมุนได้อย่างสมบูรณ์เมื่ออุณหภูมิเอื้ออำนวย สวิตช์ Dual BIOS ทางกายภาพช่วยให้สลับไปมาระหว่างสองโหมดได้ง่าย โหมดหนึ่งให้ความสำคัญกับอุณหภูมิแกนกลางต่ำและอีกโหมดหนึ่งให้ความสำคัญกับระดับเสียงรบกวนต่ำ

ที่มา : TechPowerUp