สวัสดีชาวโอเวอร์คล็อกโซน ในการแสเทคโนโลยี Ai ที่มีการจับต้องได้ง่ายขึ้น ซึ่งกราฟฟิกการ์ดที่จะนำมาฝึกความสามารถ Ai ที่หาซื้อกับได้ง่ายขึ้น ซึ่งพาวเวอร์ซัพพลายเป็นอีกนึงความสำคัญในยุค Ai ที่ FSP Cannon Pro 2500w ไม่ได้มีการปรุงแต่งแบบผู้ผลิตรายอื่น แต่ FSP ยังเป็นที่สุดของผู้ผลิตพาวเวอร์ซัพพลาย นอกจากกำลังไฟที่ 2500 วัตต์ ยังรองรับมาตรฐานใหม่ ATX 3.1 และ PCIe Gen 5.1 รองรับโหลดไฟกระชากได้ 2 เท่า ของพลังงานรวม และ 3 เท่า ของโหลด GPU เพื่อมอบประสิทธิภาพสูงสุดทั้งฮาร์ดแวร์รุ่นปัจจุบันและการอัปเกรดในอนาคต รองรับมาตรฐาน 80 PLUS 230V EU Platinum ระบบป้องกันครบถ้วน เช่น OVP, OCP, OPP, OTP, SCP, UVP, SIP และ NLO ที่เด็ดที่สุดคงหนีไม่พ้นการรองรับการเชื่อมต่อ 12V-2x6 แบบ Native จำนวน 4 เส้น โดยไม่ต้องใช้สายแปลงเพิ่มใดๆ ตัวพาวเวอร์ที่เป็นแบบโมดูลาร์ สายเคเบิลแบบตามมาตรฐานธีม FSP ที่สายหนาแข็งแรง สายสีดำล้วน
 

Package & Bundled

แพ็คเกจที่ดูคุ้นเคยในแบบฉบับ FSP มาอย่างยาวนานมาก ด้านหน้าที่บอกความโดดเด่นมาอย่างชัดเจน
 

คู่มือการใช้งาน และ ถุงใส่สายการเชื่อมต่อ



สายเคเบิลแบบสีดำพื้นฐาน แต่สายไฟที่ทองแดงข้างในแน่นมาก ส่วนสาย AC เป็นหัว C19 ในคอมพิวเตอร์ระดับ HEDT พร้อมตัวจั๊มสตาร์ท เทสการทำงานเบื้องต้น, ที่รัดเก็บสายไฟ และ น็อตยึด 



แค่น้ำหนักของสายไฟที่ 2.3 กิโลกรัม


Design & Detail

ตัวพาวเวอร์ซัพพลายจะเป็นแบบ ATX ที่มีความยาวในแบบ HEDT ขนาด 200 x 150 x 86 บอดี้ใช้เหล็กปั๊มขึ้นรูปพ่นสีดำ ใช้สีฝุ่น ธีมในภาพรวมที่ดูเป็นพาวเวอร์ FSP แบบประมาณสิบกว่าปีที่แล้ว เคลือบป้องกันพิเศษ Conformal Coating ป้องกันความชื้น, ฝุ่น และคราบสกปรก 



ซึ่งพาวเวอร์ซัพพลายตัวนี้จะไม่มีแสงสี RGB ใดๆทั้งสิ้น สเป็คความสามารถในการจ่ายพลังงานที่ Full Modular จะคิดตามสเปกไฟ 12V เท่านั้น ออกมาเป็น 2499.6 Watt ซึ่งในการโอเวอร์คล็อกหรือใช้งานระดับ Workstation หรือ ฟาร์ม Ai ที่ FSP Cannon Pro 2500w สามารถตอบสนองการใช้งานได้หมด
 

ช่องตระแกรงระบายความร้อนทื่ทำออกมาเป็นช่องทรงรังผึ้งดูสวยงามดี ถัดมากับสวิสซ์เปิดปิด 



ในส่วนพัดลม ที่ออกแบบการใช้งานทั่วไป การออกแบบตะแกรงสีดำธรรมดา แต่มาพร้อมพัดลม Fluid Dynamic Bearing ขนาด 135 มม. เพื่อช่วยให้ชิ้นส่วนต่างๆ เย็นลง ถ้าโหลด 50 % หรือความร้อนไม่เกิน 50 องศา พัดลมไม่ดังมาก แต่ถ้าถึงระดับ 70-80% ขึ้นไป ที่พัดลมดังใช้ได้ครับ



การออกแบบของวงจร Full Modular ที่ทุกการเชื่อมต่อ สามารถถอดสายได้ เด่นที่สุดในการเชื่อมต่อ 12V-2x6 ที่มา 4 หัว ที่ต้องใช้สายแปลงให้วุ่นวาย



ความยาวที่ 20 เซ็นติเมตร 
 

วันนี้เราจะพามาดูภายในกัน 



PCB ของ FSP Cannon Pro 2500w ด้วยการใช้ PCB ขนาดใหญ่ บน PCB มีโลโก้ FSP อย่างชัดเจน เต็มไปด้วยคาปาซิเตอร์จำนวนมาก โดยมีฮีทซิงค์ใหญ่ แต่ไม่ได้ใหญ่มาก แสดงว่าตัวนี้ไม่ได้ออกแบบไร้พัดลมในการใช้งาน ซึ่งออกแบบเป็นแบบ Switching Power Supply หรือ SMPS (Switched-Mode Power Supply) อยู่ด้านที่สายไฟ AC เข้ามา (ขวาบนของภาพ) มีขดลวด Toroidal (วงกลมทองแดง) และ คาปาซิเตอร์ฟิล์มสีส้ม หน้าที่ลดสัญญาณรบกวน (Noise/EMI) ทั้งที่ไหลเข้าสู่ไฟบ้านและที่ออกจาก PSU สะพานไดโอด / Rectifier โดยส่วนที่รับไฟ AC 220V → แปลงเป็น DC แรงดันสูง (~320VDC) จะอยู่ติดกับฮีทซิงด้านหน้า คาปาซิเตอร์ฟิลเตอร์แรงดันสูง (Primary Capacitors) ที่เห็นเป็นกระบอกใหญ่ 3 กระบอก (เขียนว่า 420V 105°C) ทำหน้าที่กรองให้ไฟ DC ที่ได้จากการ Rectify มีความเรียบ ในส่วนวงจร PFC (Power Factor Correction) ส่วนที่มีคอยล์ทองแดงใหญ่ใกล้ๆ คาปาซิเตอร์หลัก หน้าที่ปรับปรุง power factor (ให้กินไฟจากเต้ารับได้อย่างมีประสิทธิภาพ, ลดฮาร์มอนิก) ซึ่ง PSU ระดับสูงแบบนี้ใช้ Active PFC  ในส่วน Switching MOSFET + ตัวแปลงหลัก (Main Transformer) บริเวณกลางบอร์ด (ด้านใต้ฮีทซิงดำ) มี MOSFET/IGBT ที่สับไฟแรงดันสูงความถี่สูงเข้าสู่ หม้อแปลงความถี่สูง ทำหน้าที่ ลดแรงดันจาก ~320VDC ลงมาเป็นแรงดันที่ต้องการ (12V, 5V, 3.3V ฯลฯ)  ทางด้านวงจรด้าน Secondary (ด้านออกแรงดันต่ำ) ซ้ายมือของภาพ มีคอยล์ทองแดงเล็กๆ + คาปาซิเตอร์ Electrolytic + Solid Capacitor หน้าที่ Rectify & Filter → จ่ายไฟ DC regulated ที่เรียบและเสถียร ใน FSP Cannon Pro 2500w ใช้ DC-DC converter สำหรับ 3.3V และ 5V (แปลงจาก 12V อีกที) ที่สำคัญวงจรควบคุม + Protection มี IC ควบคุม, เซนเซอร์วัดแรงดัน/กระแส, และระบบป้องกัน (OCP, OVP, OTP, SCP) ทำให้ PSU สามารถตัดการทำงานได้ทันทีหากมีไฟเกิน, กระแสเกิน, หรืออุณหภูมิสูงเกิน

คุณภาพการบัดกรีทำออกมาได้ดี ใช้ตัวเก็บประจุแบบญี่ปุ่นทุกที่ และตัวเก็บประจุฟิวเตอร์รวมมีความจุรวมกันที่มากถึงเกือบ 2,100 uF 
 

คาปาซิเตอร์ทั้งแบบอิเล็กโทรไลต์และโพลีเมอร์ เกรดรองรับ 105 องศา ในภาพเป็นของ Nippon Chemi-Con 



พาวเวอร์เป็นแบบรางเดียว ยังจ่ายไฟให้กับตัวแปลง DC-DC สองตัว 



ที่มีการใช้คาปาซิเตอร์ของญี่ปุ่น นอกจาก Nippon Chemi-Con ในส่วนนี้ยังมี คาปาซิเตอร์ Rubycon อีกหนึ่งหัวใจหลักสำคัญของพาวเวอร์ซัพพลายแบบถอดสายได้ ซึ่งการออกแบบในส่วนแผ่น PCB ที่จะมีการใช้แผ่นทองแดงที่มีความหนาพอสมควร เพื่อให้การจ่ายพลังงานมีเสถียรภาพ 



สายพาวเวอร์ในส่วน 24Pin และ 12V2x6 สี่เส้น เป็นแบบหุ้มสายถัก ส่วนอื่นๆ จะเป็นสายแพรสีดำทั้งหมด การเชื่อมต่อที่ใช้งานในระดับ 3D Workstation หรือ ฟาร์ม Ai ได้สบายมาก

• ATX 24-pin จำนวน 1 ชุด

• EPS 4+4 pin จำนวน 3 ชุด

• PCIe 12V-2x6 (รองรับเส้นละ 600W) จำนวน 4 เส้น

• PCIe 6+2 pin จำนวน 11 เส้น

• SATA Power จำนวน 10 เส้น

• Molex จำนวน 6 เส้น

น้ำหนักตัวไม่รวมสายไฟ 2.5 กิโลกรัม 



ขณะการใช้งาน 



ในการใช้งาน ถือว่าให้กำลังไฟได้สะอาดดีครับ  

    
การทดสอบ















 

Conclusion  
 

         FSP Cannon Pro 2500w ถ้ามองที่กำลังไฟ 2500 วัตต์ ถือว่ามากเกินการใช้งานตามบ้านมาก ที่กำลังไฟมากแบบนี้ที่เหมาะการใช้งานในแบบฟาร์ม AI ,เวิร์กสเตชันเวิร์กสเตชัน AI หรือ คอมพิวเตอร์ ที่ต้องใช้การ์ดจอประสิทธิภาพสูงหลายใบพร้อมกัน ที่มีการเชื่อมต่อ 12V-2×6 ถึงสี่ตัว อีกทั้งยังมี PCIe 6+2 Pin อีกสามหัว ดูแล้วการออกแบบตัวนี้จะเน้นการใช้งานการ์ดจอแบบ 12V-2×6 มากกว่าครับ เสียงรบกวนถ้าการทำงานถ้าใช้ไฟไม่เกิน 50% หรือ ความร้อนไม่ถึง 50 องศา ที่เสียงรบกวนในการทำงานที่ยังไม่สูงมาก แต่ถ้าดึงโหลดพลังงานไปที่ 80-100% เสียงรบกวนมากพอตัว รอบการทำงานพัดลมเกือบถึงเกือบสามพันรอบต่อนาที ถ้ามองในแง่การออกแบบที่ FSP Cannon Pro 2500w ไม่ใช่พาวเวอร์ซัพพลายสายเกมมิ่งเลย จุดเด่นได้รับการรับรอง 80 PLUS 230V EU Platinum ลดการสูญเสียพลังงาน และ ความร้อนต่ำ FSP Cannon Pro 2500w ด้วยความยาวถึง 20 ซม. ความยาวมากกว่าพาวเวอร์ในระดับ 1200-1600 วัตต์ สมัยนี้มาก ซึ่งจุดนี้ต้องต้องไปวัดกับเคสที่ใช้อยู้ว่ามันสามารถรองรับการใช้งานกับ FSP Cannon Pro 2500w ได้หรือไม่ ถ้าคิดว่างบประมาณระดับประมาณ 2XXXX และ หาของได้ ถือว่าน่าสนใจดีครับ มีความมั่นใจในแบรนด์ FSP อย่างเด่นชัด ที่ไม่มีลูกเล่นและแสงสีเข้ามารบกวนทำงาน พร้อมกับการจ่ายพลังงานในมาตรฐาน FSP แม้จะดึงการทดสอบไปที่ 100% ตามฉลาก FSP Cannon Pro 2500w ยังสามารถจ่ายพลังงานได้นิ่งดีสมกับระดับ ถ้าใช้งานจริงโหลดเกินนิดๆมันทนได้สบายๆ ไม่มีปัญหา ว่าแต่แค่การทำสอบยังดึงโหลดยากมาก ที่มี 80 PLUS 230V EU Platinum ให้อุ่นใจด้วย เป็นอีกทางเลือกที่ไม่น่ามองข้าม สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ

ราคา 2X,XXX บาท
Special Thanks : FSP Technology Inc.