สวัสดีชาวโอเวอร์คล็อกโซน จากที่ทาง NVIDIA ได้มีการปล่อยและทำตลาดของ RTX 50 Series มาตั้งแต่ RTX 5090 ,RTX 5080 ,RTX 5070 Ti และ RTX 5070 ที่ได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดีในตลาด รวมไปถึงสถานะการของที่มีขายในบ้านเราดีขึ้นมาก ราคาที่คบหาได้ง่ายขึ้น ที่สามรถซื้อหาได้ง่าย แต่การเปิดตัว GeForce RTX 5060 Ti มาพร้อมสถานะการสงครามการค้าในประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนที่ยังคงทวีความรุนแรง ในช่วงสงกรานต์ประเทศไทยที่หวังว่าจะพอช่วยลดความร้อนแรงได้บ้าง GeForce RTX 5060 Ti ที่เป็นน้องเล็กล่าสุดในกลุ่ม RTX 50 Series โดย RTX 5060 Ti ที่จะมีทางเลือกของเมโมรี 8GB และ 16GB ซึ่งตัวที่เราได้รับมาทำการทดสอบเป็น 16GB ที่เป็นการ์ดจาก MSI ในรุ่น GeForce RTX 5060 Ti 16G GAMING TRIO OC ที่ได้รับการเสริมความแรงให้สูงกว่าสเปก ที่การออกแบบตัวการ์ดที่มีความอลังการมากกว่า RTX 5060 Ti ทั่วไป มีระบบระบายความร้อน TRI FROZR 4 ที่โดดเด่นและน่าสนใจมาก
NVIDIA GeForce RTX 5060 Ti ในสถาปัตยกรรม Blackwell มี CUDA Core 4608 คอร์ พร้อมหน่วยความจำ GDDR7 ความจุ 16GB แบบ 128 บิต มาด้วยเทคโนโลยี Tensor cores รุ่นที่ 5 ประสิทธิภาพ AI สูงสุดด้วย FP4 และ DLSS 4 ขับเคลื่อนด้วย AI ปรับให้เหมาะสมสำหรับ Ray Tracing Cores รุ่นที่ 4 สร้างขึ้นสำหรับเรขาคณิตขนาดใหญ่ ช่วยให้สามารถรันเกมที่ต้องการกราฟิกสูงสุดและครีเอทีฟแอปพลิเคชั่นด้วยความเสถียรและประสิทธิภาพที่ดี ยังมี NVIDIA Studio สามารถสร้างสรรค์ครีเอทีฟโปรเจ็กต์ให้มีชีวิตขึ้นมาได้เร็วกว่าที่เคย GeForce RTX 5060 Ti สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม Blackwell ใช้ชิปรหัสว่า GB206 ที่ Blackwell เทคนิคใหม่ๆด้วย RTX Neural Shader ใช้ในการบีบอัดพื้นผิวในเกมได้ ใน RTX Neural Faces มุ่งหวังที่จะปรับปรุงคุณภาพใบหน้าโดยใช้ AI โดย DLSS 4 ประกอบด้วย Multi Frame Generation ซึ่งสร้างเฟรมเพิ่มเติมได้สูงสุดสามเฟรมต่อเฟรมดั้งเดิมและสามารถเพิ่มอัตราเฟรมได้มากถึง 8 เท่าเมื่อเทียบกับการเรนเดอร์ดั้งเดิม ซึ่งทำให้ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้แอนตี้ตัวช่วยการเล่นเกมที่ความละเอียด 2K สามารถทำได้ไม่มีปัญหาเลย ถ้าวัดที่พลังเพียว NVIDIA GeForce RTX 5060 Ti ระดับความละเอียด Full HD สามารถตอบสนองได้ดี หรือ จะข้ามไปเล่นความละเอียด 2K ด้วยการมีแรม 16GB สามารถตอบโจทย์ได้สบาย ในสายงายครีเอเตอร์ Blackwell สามารถเร่งความเร็วในการ Export ไฟล์ Premiere Pro ในการเรนเดอร์ 3 มิติ และงาน AI เชิงสร้างสรรค์ ด้วย FP4 Tensor Cores ของ Blackwell และตัวเข้ารหัส NVENC รุ่นที่ 9 ซึ่ง NVIDIA GeForce RTX 5060 Ti จะไม่มีการ์ดแบบ Founders Edition ใน GeForce RTX 5060 Ti ราคาเริ่มต้น 14999 บาท และ RTX 5060 ราคาเริ่มต้น 11999 บาท
GeForce RTX 5060 Ti | GeForce RTX 4060 Ti | GeForce RTX 5070 | GeForce RTX 4070 | GeForce RTX 5070 Ti | GeForce RTX 4070 Ti | |
Architecture | Blackwell | Ada Lovelace | Blackwell | Ada Lovelace | Blackwell | Ada Lovelace |
Process | TSMC 4N | TSMC 4N | TSMC 4N | TSMC 4N | TSMC 4N | TSMC 4N |
CUDA Core | 4608 | 4352 | 6144 | 5888 | 8906 | 7680 |
Tensor Core (AI) | 144 - Gen 5 | 136 - Gen 4 | 192 - Gen 5 | 136 - Gen 4 | 280 - Gen 5 | 240 - Gen 4 |
Ray Tracing Core | 36 - Gen 4 | 34 - Gen 3 | 48 - Gen 4 | 46 - Gen 3 | 70 - Gen 4 | 60 - Gen 3 |
GPU Boost Clock | 2407 Mhz | 2535 Mhz | 2512 Mhz | 2475 Mhz | 2452 Mhz | 2610 Mhz |
Memory | 16/8GB GDDR7 | 16/8GB GDDR6 | 12GB GDDR7 | 12GB GDDR6X | 16GB GDDR7 | 12GB GDDR6X |
Memory Interface | 128 Bit | 128 Bit | 192 Bit | 192 Bit | 256 Bit | 192 Bit |
Bandwidth | 448 GB/s | 288 GB/s | 672 GB/s | 504 GB/s | 896 GB/s | 504 GB/s |
TDP | 180w | 160w | 250w | 200w | 300w | 285w |
Bus Interface | PCIe 5.0 x8 | PCIe 4.0 x8 | PCIe 5.0 x16 | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
Package & Bundled
แพคเกจบ่งบอกชัดเจน Gaming Trio ซึ่งเป็น MSI GeForce RTX 5060 Ti ในธีมสีดำลายดำ พร้อมแสงสีม่วงที่สื่อถึงแสงสีของการ์ด
คู่มือการใช้งานเบื่องต้น
ที่ค้ำการ์ดจอ สามารถปรับระดับความสูงได้ รวมไปถึงพาวเวอร์ใครที่ไม่มี 12V-2x6 หรือ 12VHPWR สามารถใช้หัวแปลง PCIe 8 Pin ที่ให้มาได้
Design & Detail
การ์ดจอซีรีส์ Gaming TRIO การ์ดจอเพื่อการเล่นเกม หรือ ครีเอเตอร์ การ์ดที่มีแสงสีให้พอดูโดดเด่นและสวยงาม ให้อารมณ์ที่ดูแข็งแรงด้วยพลาสติก ที่ดูคล้ายโลหะตัดกับส่วนสีดำ ครอบด้วยสีชารมดำ ขนาดการ์ดอยู่ที่ 303 x 121 x 43 มม. ที่มีการใช้ HCI (ตัวเหนี่ยวนำคาร์บอนิลประสิทธิภาพสูง) โช้กผลิตจากวัสดุขั้นสูงที่ช่วยลดเสียงจากโช้กและปรับปรุงการกรองไฟฟ้าเพื่อเพิ่มเสถียรภาพของการ์ดจอ ด้วยเสถียรภาพโซลูชันพลังงานของ DrMOS ให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมด้วยการสูญเสียพลังงานที่ต่ำและการควบคุมแรงดันไฟฟ้าที่ได้รับการปรับปรุง พร้อมกับแผ่นระบายความร้อนคุณภาพสูงช่วยระบายความร้อนเพิ่มเติมให้กับส่วนประกอบสำคัญบนการ์ด มีฟิวส์เพิ่มเติมที่ติดตั้งใน PCB ช่วยปกป้องความเสียหายจากไฟฟ้าได้มากขึ้น และ การใช้ทองแดง 2 ออนซ์ ชั้นทองแดงที่หนาขึ้นภายใน PCB ช่วยเพิ่มการนำไฟฟ้าซึ่งช่วยปรับปรุงการกระจายความร้อนและความน่าเชื่อถือในการใช้งาน
มุมมองจากทางด้านข้างของการ์ด ที่เราจะเห็นว่าฮีทซิงค์ระบายความร้อนที่มันใหญ่อลังการมาก มีคานเสริมความแข็งแรง ถ้ามองที่ขนาด PCB ตัวการจะเป็นไปตามสมัยที่ชุดระบายความร้อนใหญ่กว่ามาก
พาวเวอร์ใครที่ไม่มี 12V-2x6 หรือ 12VHPWR สามารถใช้หัวแปลง PCIe 8 Pin ที่มาในกล่อง ที่ PCB ของการ์ดเป็นแบบสั้น ถ้าเทียบกับ Pixel 2 (ไม่ XL) เห็นได้ว่ายาวพอๆกัน ยังออกแบบ PCB เผื่อเวอร์ชั่นที่รับพลังงาน 8 Pin อีกใน PCB รูปแบบเดียวกับ
คานด้านข้างจะมีโลโก้ MSI Dragon มาสวยงาม พร้อมการใช้พลาสติดสีชาดำพี่โปร่งแสงได้ พร้อมโลโก้ GEFORCE RTX ที่บอกความเป็น NVIDIA
ชุดระบายความร้อน TRI FROZR 4 พร้อมการใช้พัดลม STORMFORCE ใบพัดพัดลม 7 ใบ พื้นผิวแบบกรงเล็บ และส่วนโค้งวงกลมได้รับการออกแบบเพื่อการไหลเวียนของอากาศที่เหมาะสมที่สุดพร้อมเสียงรบกวนน้อยที่สุด ขนาด 9 เซ็น ถึง 3 ตัว ท่อฮีทไปท์ถ่ายเทความร้อนจาก GPU และ VRAM ไปยังฮีทซิงค์ได้อย่างรวดเร็วเพื่อการกระจายความร้อนที่เหมาะสมที่สุดด้วยหน้าสัมผัสทองแดงชุบนิกเกิล แผ่นโลหะด้านหลังเสริมความแข็งแรงพร้อมช่องระบายอากาศช่วยเพิ่มการระบายความร้อน ด้วยการออกแบบบ Wave Curved 4.0 ขอบคลื่นที่ออกแบบอย่างแม่นยำพร้อมครีบแบบสูง-ต่ำช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศและลดการปั่นป่วน ครีบระบายความร้อน Air Antegrade 2.0 ครีบระบายความร้อนมีรูปร่างคล้ายตัว V และดีไซน์สูง-ต่ำที่ช่องลมผ่านเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศ
Backplate อลูมิเนียมสีเทาดำด้านหลังเสริมแรงพร้อมช่องระบายอากาศและแผ่นระบายความร้อนช่วยเพิ่มการระบายความร้อน มีโลโก้ MSI Dragon ที่สวยงาม
พลิกมาดูที่ใต้การ์ด เราจะเห็นการเสริมความแข็งแรงในรูปแบบโครงสร้าง การ์ดหนา 2 สล็อต ไม่มีความรู้สึกยวบยาบ
สล๊อต PCI-Express x8 5.0 ถ้าใช้งานจริงลดลงไปใช้งาน PCI-Express x8 4.0 ไม่ใช่ปัญหา ถ้ามีงบประมาณซื้อการ์ดพอ และ หาซื้อได้
การออกแบบที่ท้ายการ์ดเล่นสีเทาตัดดำตามกรอบด้านหน้า พร้อมโลโก้ MSI Dragon ที่เป็นไฟ RGB ส่องสว่าง
ช่องช่วยเพิ่มการระบายความร้อน จัดทางลมดีๆ ช่วยได้เยอะมาก โลโก้ MSI Dragon ที่จะเล่นแสง ดูมีความเป็น RGB ดี
การเชื่อมต่อ DisplayPort 2.1a จำนวน 3 พอร์ต และ HDMI 2.1b
ข้อมูลของการ์ดที่แจ้งผ่าน GPU-z ถือว่าเกือบครบถ้วนแล้ว สามารถดูในเรื่องการใช้พลังงาน ความร้อนในส่วนต่างได้อย่างครบ
System Setup
- M/B : MSI B650 Gaming Plus WiFi
- CPU : AMD Ryzen 7 9700X
- Memory : Kingston FURY Renegade DDR5 RGB 6800MHz 32GB
- CPU Cooler : ROG STRIX LC II 280 ARGB
- SSD : Kingmax PQ4480 1TB
- PSU : Thermaltake M1650
- OS : Windows 11 Pro 24H2
บรรยากาศขณะการทดสอบ
แสงสีตามยุคสมัย
Performance Test
เกมแรกกับ Avatar Frontier of pandora ถ้าพูดถึงตัวเกมที่กินสเปกโหดใช้ได้ การปรับภาพสวยสุดแบบ Ultra การใช้เทคโนโลยี DLSS ที่เฟรมภาพยังออกมาประมาณ 100 FPS ในความละเอียด Full HD ยิ่งการเล่นที่ความละเอียด 4K ที่ความรู้สึกส่วนตัว ภาพเคลื่อนไหวไม่สมูท แค่ถ้าไม่ยึดติดความเป็นค่ายเขียวแบบสุดโต่ง มันสามารถใช้ FSR ได้ มันไม่ได้ดีกว่า DLSS เลย แต่มีดีสามารถใช้ Frame Generation ได้ ที่ความไหลลื่นที่ความละเอียด 4K ได้ดีมากขึ้น ส่วนความละเอียด Full HD ที่เฟรมภาพประมาณ 150 FPS
เกม Forza Horizon 5 เกมที่ไม่ใหม่มากอะไร แต่ภาพมันสวยให้รายละเอียดที่ดี การปรับใน Preset แบบ Exterme พร้อมการใช้เทคโนโลยี DLSS เฟรมเรมที่ระดับ 100 FPS ที่ความละเอียด 4K ที่ทำได้น่าสนใจมากกับการระดับนี้ ถ้าลงไปเล่นที่ความละเอียด Full HD ที่เฟรมเรทประมาณ 165 FPS ยิ่งการเปิดใช้ Frame Generation ทำให้เฟรมเรมที่ออกมาเพิ่มประมาณ 2X-1X % ขิ้นกับความละเอียดที่ใช้
เกม Wukong ที่ต้องให้เค้า ขึ้นชื่อการกินสเปกมาก การ์ดจอจะแรงแค่ไหนข้าไม่สน ในคุณภาพระดับ High ถึง Medium และ Ray Tracing Medium ถึง Low เฟรมเรมที่ออกมาไม่ถึง 80 FPS ที่ความละเอียด Full HD ถ้าเป็น 4K ที่ลงไปที่ระดับ 6X FPS การ์ดระดับนี้ชั่งใจดูว่าอยากได้ลื่นหรือภาพสวย
เกม Far Cay 6 ในความเก๋าที่ต้องยกให้ ออกมาในยุคที่ไม่ตัวช่วย ไม่มีเทคโนโลยีใดๆในการสร้างเฟรมจำลอง ในคุณภาพระดับ Ultra รวมไปถึง Ray Tracing ใน Reflections และ Shadows เฟรมเรทที่ออกมาประมาณ 12X FPS ที่ความละเอียด Full HD ถ้าเป็น 4K ที่ลงไปที่ระดับ 6X FPS การ์ดระดับนี้ชั่งใจดูว่าอยากได้ลื่นหรือภาพสวย ในความละเอียด 4K เล่นได้ไม่ต้องคิดมาก
เกม Dirt 5 ออกมาในยุคที่ไม่ตัวช่วย ไม่มีเทคโนโลยีใดๆในการสร้างเฟรมจำลอง ในคุณภาพระดับ Ultra High รวมไปถึง Ray Tracing เฟรมเรมที่ออกมาประมาณ 13X FPS ที่ความละเอียด Full HD ถ้าเป็น 4K ที่ลงไปที่ระดับ 6X FPS การ์ดระดับนี้ชั่งใจดูว่าอยากได้ลื่นหรือภาพสวย ในความละเอียด 4K เล่นได้ไม่ต้องคิดมาก ถ้าความละเอียด FHD ถึง 2K ถ้าไม่คิดอะไรมาก
มาถึงเกมขายของค่าย NVIDIA กัน Cyberpunk 2077 ที่ออกอัพเดทจนต้องยอมเล่นใหม่ ที่เด่นในการรองรับ Multi Frame Generation นี่แหละ ในคุณภาพระดับ Overdrive เปิดแค่ DLSS การเล่นที่ความละเอียด 4K มันเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าลองเปิดใจใช้ Multi Frame Generation ที่เอาว่าจากผีเป็นคน ยิ่งยอมลดคุณภาะมาในระดับ Ultra บอกและว่าลื่นเพิ่มขึ้นใช้ได้ ที่ความละเอียด 4K 120 FPS ส่วน FHD 240 FPS กับเกมระดับนี้ คิดว่าหลับตาข้างนึงครับ
เกม Monster Hunter Wilds หรือเกมตีแย้ ล่าแย้ ภาพของเกมที่ออกได้สวย พร้อมทั้งการใช้ตัวช่วยและเทคโนโลยีของการ์ดจอ ใช้เทคโนโลยีใดๆในการสร้างเฟรมจำลอง ในคุณภาพระดับ Ultra ส่วนการเปิด Ray Tracing เฟรมเรทที่ไม่ได้ลดลงมาก แต่ถ้าไม่เปิดใช้การสร้างเฟรมจำลองเฟรมเรทของภาพที่ล่วงมาก การ์ดระดับนี้ชั่งใจดูว่าอยากได้ลื่นหรือภาพสวย ในความละเอียด 4K เล่นได้ไม่ต้องคิดมาก ถ้าความละเอียด FHD ถึง 2K ถ้าไม่คิดอะไรมาก
สุดท้ายกับ Red Dead Redemption 2 ออกอัพเดทมีความสามารถใหม่ๆที่น่าสนใจ ในคุณภาพระดับขวาสุด หรือ Farvor เปิดแค่ DLSS การเล่นที่ความละเอียด 4K เล่นได้สบายๆ อายุเกมที่นานมาก แต่เฟรมเรมระดับนี้น่าพอใจมาก
การระบายความร้อนที่ทำได้น่าพอใจมาก ถึงแม้จะทดสอบวันที่แดดแรง ที่ไม่มีลมพัดผ่านในห้อง ตัวการ์ดสามารถจัดการความร้อนได้เป็นอย่างดี ยิ่งระบบระบายความร้อนของการที่ทำได้ดีในการระบายความร้อนกราฟฟิกชิพและเมโมรี โดยภาพรวมมันทำได้ประทับใจมาก ไม่รู้สึกร้อนหน้าตลอดเวลาเล่นเกม
การใช้พลังงานไม่มาก ถ้าไม่คิดอะไรมากพาวเวอร์ระดับ 450-500 วัตต์ ก็พอใช้งานได้แล้ว
Conclusion
ถ้ามองกันที่ประสิทธิภาพของ NVIDIA GeForce RTX 5060 Ti 16GB สถาปัตยกรรม Blackwell ในมุมของพลังดิบที่มันไม่ได้แรงกว่า RTX 4060Ti 16GB จนขาดลอยอะไรนัก ต่างกันประมาณ 1X % เป็นไปตามคาดจากข่าวหลุดมาก่อนเปิดตัว ซึ่งด้วยความมีเทคโนโลยี AI ที่มี Multi Frame Generation เข้าเสริมการเล่นเกมให้ออกมาได้ดีมากขึ้น การเล่นเกมที่ความละเอียด 4K มันสามารถที่พอได้ทำ เอาเป็นว่าถ้าไม่สน 4K ที่ระดับ 120 FPS หรือ ไม่สนเฟรมเรทอยู่ที่เท่าไร ขอแค่ลื่นพอ NVIDIA GeForce RTX 5060 Ti 16GB สามารถตอบโจทย์ได้ดีแล้ว ยิ่งการที่พกพาแรม 16GB เป็นเป็นอีกหนึ่งจุดตาย ที่ทำให้มองเทียบกับ RTX 5070 ที่มีแรม 12GB ในบางเกมที่เมโมรี่บนการ์ดจอเป็นเรื่องสำคัญในความไหลลื่นของภาพ ถ้าไม่สนใจเฟรมเรมสูงสุด NVIDIA GeForce RTX 5060 Ti 16GB เป็นทางออกที่น่าสนใจมาก แต่ถ้าเล่นเกมที่ไม่ได้เปิด หรือ แอนตี้ฟีเจอร์ Frame Generation และ Multi Frame Generation ถ้าใช้ RTX 4060 Ti พอใจความแรงของมันข้ามไปก่อนได้เลย ในการออกอัพเดท Driver ของในเวอร์ชั่นล่าสุดที่ใช้ในการทดสอบ ประสิทธิภาพของ AI ที่เรียบเนียนกว่าเดิมเยอะมาก ถ้าเทียบกับตัวก่อนหน้านี้ที่เหมือนทางเดินเป็นหลุมเป็นบ่อ รวมไปถึงการเล่นเกมและการทำงานที่ Driver ตัวนี้ดีขึ้นมาก ถ้าไม่ได้สนใจพลังดิบ วัดที่พลัง AI เข้าช่วย NVIDIA GeForce RTX 5060 Ti 16GB เป็นการ์ดเล่นเกมระดับความละเอียด 4K 120 FPS ได้เลย ที่ภาพจากการสร้างเฟรมจำลอง หรือ Frame Generation ความเรียบร้อยสวยงามมันสู้การสร้างเฟรมแท้ๆไม่ได้ ที่มีหลายคนมักเรียกว่าภาพวุ้น และ อื่นๆในแง่งบ ที่ต้องให้ AI มีการพัฒนา ภาพที่ออกมาจะมีความสวยขึ้นบ้าง เป็นสิ่งที่การใช้งาน Frame Generation ต้องยอมรับในจุดนี้ด้วย ยกเว้นในบางเกมที่พลังเพียวมีผล และ DLSS ยังไม่สามารถช่วยอะไรได้ การเล่นที่ความละเอียด 4K ทำได้ประมาณ 40-60 FPS โดยรวมรู้สึกรับได้ ยิ่งเจอราคา MSRP ยิ่งน่าสนใจ นอกจากการเล่นเกม การทำงานด้านครีเอเตอร์ที่ยังสามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ต้องลองดูกับราคาวางขายอยู่ที่เท่าไร ของมีน้อยความต้องการสูง พรี่รับมาแพงหรอเปล่า และ สงครามการค้าส่งผลต่อราคาขายแค่ไหนกับ ถ้าคิดว่างบสู้ไหว ใช้ RTX3060 หรือ เก่ากว่า โอกาสอัพการ์ดจอมาแล้ว ยิ่งการเปลี่ยนมาใช้ GDDR7 ทำให้มีแบนวิธมากขึ้น อาการแรงไม่ออกระหว่างแรม 16GB และ 8GB แทบไม่ต่างแบบ RTX 4060 และ 4060 Ti คิดว่าบน RTX 5060 Ti คงไม่มีแล้ว ถ้าต้องการประหยัดงบประมาณมากขึ้นลองมองดูโมเดลแรม 8GB ที่มีค่าตัวประหยัดกว่า 16GB เป็นทางออกครับ แต่ยังไม่มีการ์ดในมีมาทดสอบ เลยยังพูดถึงความต่างไม่ได้ ถ้ามองที่ MSI GeForce RTX 5060 Ti 16GB Gaming TRIO OC Edition ต้องวัดกับที่ราคาด้วยนะครับ แต่คิดว่ามันมาไม่ธรรมดาแน่นอน ระบบระบายความร้อน TRI FROZR 4 และ จุดต่างๆของการการ์ด ที่ชวนในผมนึกถึงการ์ดในรุ่นใหญ่กว่านี้ พาวเวอร์ซัพพลายระดับ 500 วัตต์ สามารถใช้งานได้ MSI GeForce RTX 5060 Ti 16G GAMING TRIO OC ที่ได้รับการเพิ่มพลังจากโรงานที่มากกว่า NVIDIA GeForce RTX 5060 Ti 16GB มาตรฐาน วันนี้ผมก็ต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
Special Thanks : NVIDIA Corporation